ส.อ.ท.เกาะติด! “โอไมครอน” แนะรัฐเร่งยกระดับประชาสัมพันธ์-มาตรการป้องกันรับมือ

ส.อ.ท.เกาะติดไวรัสกลายพันธุ์ “โอไมครอน” ใกล้ชิดวิตกหากระบาดจะกระทบ ศก.อีกครั้ง แนะรัฐประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจนป้องกันสับสน และยกระดับมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด กังวลจุดเสี่ยงตามแนวชายแดนหลังยังมีการลักลอบนำเข้าแรงงานเถื่อนต่อเนื่อง

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ส.อ.ท.กำลังติดตามสถานการณ์ไวรัสกลายพันธุ์ Omicron หรือ “โอไมครอน” อย่างใกล้ชิด เนื่องจากหากมีการแพร่ระบาดรุนแรงจะกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยอีกครั้งได้ ดังนั้น สิ่งที่สำคัญจึงต้องการให้ภาครัฐได้มีการประชาสัมพันธ์ถึงข้อมูลข่าวสารของไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวให้ชัดเจนอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะทำให้ทุกภาคส่วนได้มีการเตรียมพร้อมในการรับมือ รวมไปถึงภาครัฐที่จำเป็นต้องวางมาตรการในการดูแลและป้องกันเพื่อลดผลกระทบไว้ด้วย

“ขณะนี้เราก็กังวล แต่ก็ต้องยอมรับว่าข้อมูลก็ยังไม่แน่ใจ บางกระแสระบุว่ามีการแพร่ระบาดค่อนข้างเร็ว แต่อัตราการเสียชีวิตก็ยังไม่ได้ถึงขั้นอันตรายมาก รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับตรวจเชื้อที่อาจใช้ ATK ตรวจไม่พบ จึงเห็นว่ารัฐจำเป็นต้องทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้อย่างชัดเจน รวมถึงวิธีในการดูแลป้องกันตัวเองที่ต้องทำความเข้าใจให้ต่อเนื่องในการดูแลป้องกัน โดยเบื้องต้นรัฐได้มีการดูแลด้วยการห้ามนักท่องเที่ยว 8 ประเทศเสี่ยงทวีปแอฟริกาเดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่ 27 พ.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งก็จะช่วยสกัดกั้นได้ โดยยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด” นายสุพันธุ์กล่าว

ทั้งนี้ ไทยมีการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินับตั้งแต่ 1 พ.ย. 64 นับเป็นมาตรการที่จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยได้กลับมาทยอยฟื้นตัวอีกครั้ง ถือว่าเป็นมาตรการที่จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อทำให้ธุรกิจได้เดินหน้า แต่มาตรการต่างๆ ในการดูแลและป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ขณะนี้ท่ามกลางสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่คาดว่าจะมีการเกิดขึ้นต่อเนื่องนั้นจำเป็นต้องเข้มงวดให้มากขึ้น โดยมาตรการต่างๆ ของรัฐในการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดภายในประเทศ เช่น การฉีดวัคซีน การป้องกันในภาคโรงงาน ฯลฯ เป็นไปค่อนข้างดี ส่วนการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศรัฐก็ได้มีการคุมเข้มมากขึ้น แต่เห็นว่าปัญหาการลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดนยังเป็นสิ่งที่ต้องกังวล ดังนั้นรัฐควรเร่งขั้นตอนการนำเข้าแรงงานภายใต้การลงนาม (MOU) กับประเทศเพื่อนบ้านให้เร็วขึ้น

“ต้องยอมรับว่าไทยยังมีปัญหาขาดแคลนแรงงานที่เป็นแรงงานระดับล่างค่อนข้างสูงหลังเปิดประเทศและการลักลอบตามแนวชายแดนยังคงมีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจุดนี้เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ดังนั้นจำเป็นที่รัฐต้องเร่งนำเข้าแบบถูกกฎหมายที่จะผ่านการคัดกรองโดยเร็ว เมื่อมีแรงงานที่เพียงพอปัญหาดังกล่าวก็จะลดน้อยลง” นายสุพันธุ์กล่าว