เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะผู้ก่อตั้ง RE100 Thailand Club มูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน และสมาชิกร่วมก่อตั้งจำนวน 19 องค์กร จัดงานประชุมและสัมมนา “RE100 Thailand Club ร่วมขับเคลื่อนแผนพลังงานชาติไปสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality” โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานกล่าวเปิดงานสัมมนาฯ และปาฐกถาพิเศษ
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ไทยไม่อาจปฏิเสธกระแสโลกที่ต้องมุ่งลดพลังงานจากฟอสซิลเพื่อก้าวสู่พลังงานสะอาดในการรับมือกับภาวะโลกร้อนที่สะท้อนได้จากเวทีการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ COP26 ซึ่งไทยได้ประกาศเป้าหมายกำหนดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065 ซึ่งนับเป็นความท้าทายที่ทุกภาคส่วนต้องเร่งปรับตัวรองรับกับกติกาโลกที่จะเปลี่ยนแปลงเนื่องจากไทยขณะนี้ปล่อยก๊าซเรือนกระจก 300 ล้านตันต่อปี หากคิดเป็นมูลค่าที่ต้องซื้อขายคาร์บอนเครดิตจะเป็นมูลค่าสูงถึง 7-8 แสนล้านบาทต่อปี ดังนั้นจึงต้องร่วมมือจากทุกฝ่ายที่จะต้องมุ่งไปสู่พลังงานสะอาดให้มากขึ้น
“รัฐบาลได้วางแผนงานต่างๆ ที่จะรองรับการเปลี่ยนผ่านทั้งแผนส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า แผนพัฒนาพลังงานที่จะปรับไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้น ฯลฯ โดยทั้งหมดจะมุ่งเน้นใช้เทคโนโลยีมาขับเคลื่อน โดยอีก 9 ปีจะเป็นจุดพีกของการลดก๊าซเรือนกระจกที่ไทยต้องดำเนินการให้ได้มากที่สุดเพื่อสู่การเป็นศูนย์โดยเฉพาะสาขาพลังงานและอุตสาหกรรม การรวมตัวของ ส.อ.ท.ครั้งนี้ก็ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อน” นายสุพัฒนพงษ์กล่าว
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานส.อ.ท. กล่าวว่า การจัดตั้ง RE100 Thailand Club ครั้งนี้จะเป็นเครือข่ายในการรวบรวมทั้งฝั่งดีมานด์และซัปพลายการใช้พลังานหมุนเวียนซึ่งจะมีการจัดทำแพลตฟอร์มซื้อขายคาร์บอนเครดิตโดยคาดว่าจะสามารถเทรดการซื้อขายได้ในปี 2565 เป็นต้นไปที่จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้ไทยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและยังรองรับกติกาของโลก
นายวีระเดช เตชะไพบูลย์ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ส.อ.ท. และประธาน RE100 Thailand Club กล่าวว่า ปัจจุบัน RE100 Thailand Club มีสมาชิกประมาณ 500 บริษัท มีการกำหนดวิสัยทัศน์เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของภาคอุปสงค์และอุปทานของพลังงานหมุนเวียนและคาร์บอนเครดิต ในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียน 100% ในระดับองค์กร อีกทั้งส่งเสริมให้พลังงานหมุนเวียน (RE) และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (EE) เป็นเครื่องมือหลักในการ Decarbonization เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศไทยและการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2050 ในรูปแบบสมัครใจในระดับองค์กร โดยมีเป้าหมายการใช้พลังงานหมุนเวียนและความเป็นกลางทางคาร์บอน
ได้แก่ การกำหนดเป้าหมายดังกล่าวของ RE100 Thailand Club ได้สอดคล้องกับนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ของประเทศไทยตามที่ท่านนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แถลงไว้ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP26) ณ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์