ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก เร่งรัฐออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงแรมทั้งพักชำระหนี้-ลดดอกเบี้ย หลังเริ่มรับแบกภาระกันไม่ไหว หวั่นสุดท้ายอาจต้องจำใจขายกิจการให้ต่างชาติ ขณะที่ ผวจ.ชลบุรี มั่นใจสิ้น ก.ย.นี้ฉีดวัคซีนประชาชนในเมืองท่องเที่ยวได้ 70%
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจต่างๆ รวมทั้งงานบริการและผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะโรงแรมเกือบทุกแห่งในเมืองท่องเที่ยว ที่ในวันนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นตัวได้เมื่อใดนั้น
ล่าสุด นายพิสูจน์ แซ่คู นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับอนาคตของผู้ประกอบการโรงแรมในเมืองพัทยา และจังหวัดภาคตะวันออก ว่า หากในปี 2565 การแก้ไขปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่มีสัญญาณดีขึ้นและหากในช่วงปลายปีนี้ยังไม่สามารถเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวได้ ผู้ประกอบการอาจต้องจำใจขายกิจการให้นักลงทุนต่างชาติ
ที่ในขณะนี้เริ่มมีกลุ่มทุนใหญ่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนชาวจีนจะทยอยเข้ามากว้านซื้อกิจการโรงแรมในเมืองพัทยา เนื่องจากทราบว่าเจ้าของธุรกิจชาวไทยเริ่มไม่สามารถแบกรับภาระต่างๆ ได้ไหว โดยเฉพาะเรื่องของการผ่อนชำระดอกเบี้ยเงินกู้จากสถาบันการเงิน
“อยากฝากให้ภาครัฐเร่งหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถประคองตัวให้ผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจนี้ไปให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดมาตรการพักชำระหนี้ หรือการลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อให้ผู้ประกอบการมีโอกาสตัดเงินไปด้วย เพราะหากยังปล่อยให้ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวเผชิญวิกฤตเช่นนี้ อาจทำให้สถานประกอบการหลายแห่งต้องจำใจขายกิจการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก ยังเผยอีกว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการโรงแรมหลายร้อยแห่งต้องได้รับความเสียหายจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงมีความพยายามที่จะประคองตัวเพื่อให้ผ่านสถานการณ์เลวร้ายนี้ไปได้
และหวังว่าเมืองพัทยา จะเปิดการท่องเที่ยวได้อย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ หรือในไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 และแม้ว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อาจจะไม่ใช่กลุ่มเดิมที่เคยสร้างเงินตราให้การท่องเที่ยวอย่างมหาศาล แต่เชื่อว่ารายได้ที่จะเกิดจากนักท่องเที่ยวในประเทศจะสามารถจุนเจือผู้ประกอบการให้สามารถเลี้ยงตัวเองและพนักงานต่อไปได้
ผวจ.ชลบุรี มั่นใจสิ้น ก.ย.นี้ฉีดวัคซีนประชาชนในเมืองท่องเที่ยวได้ 70%
ขณะที่ นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เผยถึงแนวทางเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งถือเป็น 1 ใน 5 เมืองท่องเที่ยวที่รัฐบาลวางแผนเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยว ระยะที่ 2 ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ เช่นเดียวกับ กรุงเทพฯ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่ ว่าการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรทั้งจังหวัดให้มากที่สุดจะช่วยให้โครงการ “Pattaya Move On” เกิดขึ้นได้อย่างเต็มรูปแบบ
โดยขณะนี้ในพื้นที่ อ.บางละมุง พัทยา และสัตหีบ มีประชาชนที่ได้รับวัคซีนแล้วมากกว่า 60% และคาดว่าภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ ประชาชนและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจะได้รับวัคซีนครบ 70% ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
“ขณะนี้ จ.ชลบุรี มีความพร้อมที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแล้ว แต่สุดท้ายอยู่ที่ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาหรือไม่ เพราะเมื่อเข้ามาแล้วต้องทำตามเงื่อนไขที่กำหนด หรือ “Sand Box” เช่น พักในโรงแรมตามมาตรฐาน SHA+ ท่องเที่ยวตามเส้นทางที่กำหนด หรือหากครบกำหนด 7 วันตรวจแล้วไม่พบเชื้อ จึงจะออกนอกเส้นทางได้”
ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ยังได้ขอความร่วมมือประชาชนและผู้ประกอบการให้ร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว และช่วยกันสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้พื้นที่เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางกลับเข้ามาพักผ่อนเช่นเดิม แม้ในเบื้องต้นอาจจะเป็นการท่องเที่ยวแบบกำหนดเส้นทางท่องเที่ยวก่อนก็ตาม