ท่าขี้เหล็ก - พบสาวไทยตกค้างท่าขี้เหล็กแจ้งขอกลับแล้วเกือบ 100 ชีวิตหลังโควิดยังระบาดเพิ่มต่อเนื่อง ป่วยสะสมเฉพาะระลอกใหม่เกินครึ่งพัน-ท้องถิ่นเมียนมาต้องประกาศเคอร์ฟิว/ตั้งด่านทั่วเมือง แต่หลายคนยังรอ-หวังผับบาร์กลับมาเปิดอีก
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในท่าขี้เหล็ก หัวเมืองชายแดนเมียนมา ติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังคงลุกลามต่อเนื่อง ล่าสุดวานนี้ (17 ก.ค. 64) มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 40 ราย ผู้ป่วยสะสมเฉพาะห้วงปลายเดือนมิถุนายน-ขณะนี้เพิ่มเป็น 536 ราย
ทางการท้องถิ่นเมียนมายังคงใช้มาตรการปิดสถานที่เสี่ยง โดยเฉพาะตลาดทั่วไป-ห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 06.00-1800 น. พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจทั่วเมืองอย่างเข้มงวด ทำให้ถนนสายต่างๆ ซบเซาและผู้คนต่างไม่กล้าออกจากบ้านเพราะจำนวนผู้ป่วยยังคงสูงขึ้นทุกคน
ด้านแรงงานไทยตกค้าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวที่ข้ามไปทำงานในสถานบันเทิงใน จ.ท่าขี้เหล็ก แจ้งรายชื่อลงทะเบียนผ่านหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอกลับประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 2-16 ก.ค. แล้วประมาณ 90 คน เป็นผู้ที่ลงทะเบียนผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา 20 คน ซึ่งกลุ่มนี้ถูกส่งกลับมาแล้ว 3 คน เป็นชายทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ประสานผ่านอาจารย์สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการสำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และผู้ประสานงานศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ จ.เชียงราย จำนวน 20 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเมียนมาได้รวบรวมรายชื่อคนไทยที่แจ้งขอกลับผ่านช่องทางต่างๆ ระหว่างวันที่ 2-16 ก.ค.นี้ ได้รวมกันจำนวน 71 คน แต่ทั้งหมดยังไม่ถูกส่งตัวกลับ
อาจารย์สืบสกุลกล่าวว่า ตามกระบวนการจะมีการแจ้งรายชื่อผู้ลงทะเบียนขอกลับไปยังเจ้าหน้าที่เมียนมา จากนั้นมีการตรวจสอบบุคคล ตรวจโรค และดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ก่อนถูกส่งตัวไปยังด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 เพื่อส่งตัวกลับประเทศไทย
แต่ปรากฏว่าหลายคนมีรายชื่อในระบบตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ถูกส่งตัวกลับ เป็นเหตุให้ตกค้างต้องพักอยู่ตามห้องพักต่างๆ ใน จ.ท่าขี้เหล็ก และเชื่อว่ายังมีคนที่ไม่ลงทะเบียนและเปิดเผยตัวด้วย ซึ่งจากการติดต่อทางไลน์กับผู้ที่ลงทะเบียนกับศูนย์ฯ ทราบว่าหลายคนยังอยากรอทำงานอยู่เพราะได้ลงทุนไปแล้ว บางคนก็รอดูสถานการณ์หรืออาจหาทางลักลอบกลับประเทศไทย ซึ่งทางศูนย์ฯ เป็นห่วงเรื่องนี้มากจึงได้พยายามแจ้งเตือนให้กลับตามช่องทางปกติเพราะจะส่งผลเสียต่อตัวเองและสังคม
ทั้งนี้ การระบาดของไวรัสโควิด-19 ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ระลอกนี้เกิดขึ้นหลังมีการกลับมาเปิดสถานบันเทิงต่างๆ อย่างคึกคักอีกครั้งตั้งแต่เดือนเมษายน 64 เป็นต้นมา ทั้งสถานบันเทิง 1G1 ที่เคยเป็นคลัสเตอร์โควิดข้ามพรมแดนเมื่อปลายปี 63 รวมถึงผับ บาร์ คาราโอเกะ ร้านอาหารกึ่งสถานบันเทิง ฯลฯ จนทำให้มีการระบาดของโรคอีกครั้งตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนเป็นต้นมา ส่งผลทำให้สถานบันเทิงพากันปิดตัวลง และมีคนไทยตกค้างอยู่เป็นจำนวนมากดังกล่าว