เชียงราย/ท่าขี้เหล็ก - ทหารสนธิกำลังฝ่ายปกครองเดินหน้าตรวจเข้มทั้งหอพัก-บ้านเช่า ชุมชนติดพรมแดนแม่สาย สกัดรับคนลอบเข้าเมืองพัก ขณะที่สาวไทยหนีโควิดระบาดท่าขี้เหล็ก บางคนติดเชื้อแล้ว ประสาน จนท.เมียนมาขอข้ามแดนกลับไทยต่อเนื่อง
วันนี้ (12 ก.ค. 64) พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง มอบหมายให้ พ.ท.สหชัย พรหมตรุษ ผบ.ควบคุมที่ 2 ฉก.ม.3 นำกำลังพลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกปฏิบัติการป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง โดยกระจายกำลังกันออกตรวจหอพัก บ้านเช่า ฯลฯ ตามแนวชายแดนแม่สาย จำนวน 40 แห่ง ให้แล้วเสร็จภายในเวลา 7 วัน เพื่อจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน โดยเน้นตรวจตราบุคคลที่จะเข้ามาอยู่อาศัยว่าเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งถือเป็นการป้องกันไม่ให้มีการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองเข้ามาเพิ่มเติม
ขณะที่สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ล่าสุดยังคงมีรายงานตรวจพบผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เฉพาะวันนี้พบผู้ติดเชื้ออีก 36 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนเป็นต้นมาเพิ่มเป็น 317 รายแล้ว และมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้เตรียมเตียงสนามเอาไว้รองรับผู้ป่วย ณ โรงยิมเนเซียม ภายในเมืองท่าขี้เหล็ก เนื่องจากคาดว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวทำให้แรงงานไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวที่ข้ามไปทำงานตามสถานบันเทิงในท่าขี้เหล็ก พยายามหาทางข้ามฝั่งกลับไทยมากขึ้น ซึ่งวันนี้ (12 ก.ค.) มีหญิงสาวชาวไทยติดต่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นท่าขี้เหล็กเพื่อแจ้งขอเดินทางกลับประเทศ 7 ราย
ด้านเจ้าหน้าที่เมียนมาได้แจ้งให้เขียนคำร้อง พร้อมตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อน และกรณีเข้าเมืองผิดกฎหมายต้องเสียค่าปรับที่ศาลท่าขี้เหล็กเป็นเงินประมาณ 500,000 จั๊ต หรือราว 10,000 บาท จากนั้นก็จะส่งตัวคนไทยกลับมาทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ทันที อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่ามีหญิงไทยบางส่วนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และบางส่วนไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ
ด้านอาจารย์สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการจากสำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) ในฐานะผู้ประสานงานศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติใน จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากแรงงานที่ตกค้างอยู่ในเมืองท่าขี้เหล็กหลายรายต้องการเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากมีสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 แต่ติดขัดตรงการเสียค่าปรับและการเดินทางกลับที่ด่านพรมแดนทำให้ไม่สามารถกลับมาได้
อาจารย์สืบสกุลกล่าวต่อว่า จากสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดต่อเนื่องตลอดกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้เห็นปรากฏการณ์กรณีแรงงานไทยจำนวนมากข้ามไปทำงานในประเทศพม่า สปป.ลาว และกัมพูชา ในหลากหลายรูปแบบ ตนจึงเสนอให้รัฐบาลไทยได้พิจารณาจัดระเบียบแรงงานเหล่านี้ โดยอนุญาตให้ข้ามไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างถูกต้องตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ข้ามไปทำงานผิดกฎหมาย เพื่อให้แรงงานเหล่านี้อยู่ในการควบคุมเหมือนกรณีประเทศไทยบริหารจัดการแรงงานต่างประเทศที่มาทำงานในประเทศไทยให้อยู่ในระบบ
หากไม่ดำเนินการอาจจะแก้ไขปัญหาการลักลอบข้ามแดนไปมาได้ยาก เพราะคาดว่ามีแรงงานนับหมื่นคนหรือมากกว่านั้นข้ามแดนไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านแล้วอาศัยช่องว่างหลบหนีข้ามแดนกลับจนเกิดปัญหาเหมือนที่ผ่านมา แต่หากจัดระบบได้ก็จะลดปัญหาตามแนวชายแดนลง โดยเฉพาะในยุคที่มีการระบาดของโควิด-19 ดังกล่าว