ท่าขี้เหล็ก/เชียงราย - โควิดท่าขี้เหล็กระลอกใหม่ยังไม่สงบ..28 มิถุนาฯ-8 กรกฎาฯ พบติดเชื้อเกิน 200 ราย ทางการท้องถิ่นสั่งปิดตลาด แต่ยังไม่สั่งห้ามผับ-บาร์ ขณะที่ชาวเมียนมาชุมชนกลางเชียงรายซึ้งน้ำใจไทยไม่ทอดทิ้งระหว่างกักตัว
ความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ล่าสุดมีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย.-8 ก.ค. 2564 รวม 224 ราย ทั้งหมดรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลท่าขี้เหล็ก ขณะที่ทางการท้องถิ่นท่าขี้เหล็กได้มีประกาศปิดตลาดทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 7-20 ก.ค.นี้แล้ว โดยยกเว้นตลาดประเภทผัก ปลา เนื้อสัตว์ ฯลฯ ที่ให้ประชาชนได้หาซื้ออาหารได้ตั้งแต่เวลา 11.00-23.00 น.
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการประกาศให้ปิดสถานบันเทิงต่างๆ ทั้งผับ บาร์ คาราโอเกะ ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ แต่มีหลายแห่งที่ปิดตัวเองลงไปโดยปริยายเพราะพบผู้ติดเชื้อหลายราย และบางแห่งปิดเฉพาะส่วนที่เป็นผับ บาร์ ฯลฯ แต่ยังเปิดห้องบันเทิงแบบเหมาจ่ายลูกค้าเป็นกลุ่มและห้องคาราโอเกะอยู่
ขณะที่ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในรัฐฉาน ล่าสุดพบที่เมืองเชียงตุง 11 ราย เมืองเป็ง 9 ราย เมืองยอง 6 ราย เมืองพยาก 1 ราย เมืองโต๋น 1 ราย ฯลฯ
ส่วนตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ทางกองกำลังผาเมือง และศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) อ.แม่สาย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จ.เชียงราย ได้วางกำลังคุมเข้มตลอดแนวชายแดนทั้งพื้นที่ที่เป็นป่าเขา ลำน้ำ และด่านพรมแดน
ด้านสถานการณ์โควิดใน จ.เชียงราย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ แจ้งว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันที่ 9 ก.ค.จำนวน 19 ราย เป็นผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด 14 ราย และมาจากต่างจังหวัด 5 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยสะสมตั้งแต่เดือน เม.ย.เป็นต้นมาเพิ่มเป็น 1,104 ราย มีผู้ที่ยังรักษาตัวอยู่ 150 ราย เสียชีวิตสะสม 16 ราย
สำหรับสถานการณ์ภายในชุมชนแรงงานชาวเมียนมา ย่านสี่แยกแม่กรณ์ พื้นที่หมู่ 13 ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย ที่พบผู้ป่วย 1 รายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังคงปิดพื้นที่ซอย 2 และซอย 3 ที่มีประชากร 31 ครัวเรือน จำนวน 70 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมาไม่ให้นอกนอกบ้านเป็นเวลา 14 วัน โดย พล.ต.ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผู้บัญชาการ มทบ.37 พ.อ.กิตติพล ไพรหิรัญ รองผู้บัญชาการ มทบ.37 นำคณะไปมอบข้าวกล่อง พืชผัก น้ำดื่ม หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ล้างมือ ฯลฯ ให้แก่ชาวเมียนมาที่ต่างแสดงความขอบคุณในน้ำใจของหน่วยงานต่างๆ ของไทยที่ให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่มีการกักกันพื้นที่วันที่ 7 ก.ค.เป็นต้นมา