เชียงราย/ท่าขี้เหล็ก - ผู้ว่าฯ เชียงรายสั่ง กอ.รมน.จัดกำลังเสริมทัพกองกำลังผาเมืองคุมเข้มชายแดนไทย-พม่า สกัดคนลอบข้ามแดนหลังโควิดท่าขี้เหล็กลามซ้ำ เตือนสาวไทยถูกหลอกเสียค่านำพา
ความคืบหน้ากรณีเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ล่าสุดทางการท้องถิ่นท่าขี้เหล็กได้สั่งปิดตลาดทั่วไปในเมืองท่าขี้เหล็กตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันที่ 7 ก.ค.-20 ก.ค.นี้ กลางคืน รวมไปถึงสถานที่ที่จะมีคนไปรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก แต่กรณีร้านอาหารยังคงเปิดให้ขายได้แต่ให้ซื้อกลับบ้านแทนเพื่อยับยั้งการระบาดของโรคที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งระหว่าง 1-6 ก.ค.พบผู้ติดเชื้อแล้ว 148 คน
คำสั่งดังกล่าวทำให้บรรยากาศในเมืองท่าขี้เหล็กซบเซาลงถนัดตา โดยเฉพาะตามตลาดที่เคยมีการค้าชายกันอย่างคึกคัก แต่ประชาชนก็ยังสัญจรไปมาตามปกติและมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยกันโดยถ้วนหน้า ขณะที่ผู้ป่วยถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลท่าขี้เหล็ก และมีรายงานว่าทางการท่าขี้เหล็กยังได้สร้างโรงพยาบาลสนามในลักษณะให้เป็นสถานกักกันโรคด้วย ณ โรงยิมเนเซียมขนาดใหญ่ในตัวเมืองท่าขี้เหล็ก เตรียมใช้รองรับหากพบผู้ติดเชื้อมากขึ้นกว่านี้และโรงพยาบาลท่าขี้เหล็กที่มีแพทย์-พยาบาลจำกัดไม่สามารถรองรับผู้ป่วยทั้งหมดได้
ด้านนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เปิดเผยว่า พอทราบข่าวสารสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนเพื่อนบ้านเช่นกัน และต้องเพิ่มการเฝ้าระวังตามแนวชายแดนป้องกันการลักลอบเดินทางเข้าออก โดยให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เข้าไปสนับสนุนการปฏิบัติงานของทหารกองกำลังผาเมืองที่ประจำอยู่ตามแนวชายแดนด้วย เพื่อสกัดกั้นหากมีความพยายามจะลักลอบข้ามแดนให้ถึงที่สุด และเมื่อจับกุมได้ก็มีการดำเนินคดีและจัดสถานกักกันพิเศษไว้รองรับแล้ว
ขณะเดียวกัน กองกำลังผาเมืองได้เผยแพร่ข้อความเตือนหญิงสาวหรือบุคคลที่พยายามลักลอบข้ามพรมแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.เชียงราย ว่าปัจจุบันมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น สภาพเศรษฐกิจจึงไม่ได้ดี จึงไม่ควรหลงเชื่อข้ามไปทำงาน เพราะจะได้รับความเสียหายทั้งเงินทอง ถูกดำเนินคดี เสียค่าปรับ และถูกบันทึกประวัติด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบและจับกุมหญิงสาวเป็นจำนวนมากที่พยายามจะลักลอบข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยผิดกฎหมาย จากการสอบถามทราบว่าถูกหลอกจากกลุ่มขบวนการที่รับปากว่าสามารถพาข้ามแดนและพาไปทำงานได้ ซึ่งต้องเสียเงินให้กลุ่มขบวนการเป็นจำนวนมาก