ท่าขี้เหล็ก/เชียงราย – สาวไทยจ่าย 12,000 บาท แลกข้ามแดนทำงานพีอาร์สถานบันเทิงท่าขี้เหล็ก..อัดคลิปเสียงเปิดใจเป็นอุทาหรณ์ส่งข้ามฝั่ง เจอโควิดระบาดหนัก-ไม่มีงานทำ ยื่นเรื่องขอกลับหลายรอบยังไม่ได้กลับ
ความคืบหน้า กรณีคนไทยตกค้างในท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวที่ลักลอบข้ามพรมแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เข้าไปทำงานในสถานบันเทิงฝั่งท่าขี้เหล็ก พยายามขอกลับ เพราะเกิดการระบาดของโควิด-19 จนสถานบันเทิงต้องปิดตัวลงนั้น
ล่าสุดหญิงสาวรายหนึ่งได้ส่งคลิปเสียงเล่าถึงเรื่องราวและความเป็นอยู่ในฝั่งท่าขี้เหล็กขณะนี้ ว่าทำคลิปนี้ขึ้นมาเพื่อให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบเหตุการณ์ ซึ่งตนได้ลักลอบข้ามไปยังฝั่งท่าขี้เหล็กโดยผิดกฎหมายเมื่อวันที่ 12 ก.ค.โดยเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงินจำนวน 12,000 บาท เพื่อไปทำงานเป็น KTV หรือฝั่งไทยเรียกว่าพีอาร์ เพราะหวังว่าจะได้มีรายงานเดือนละประมาณ 30,000 บาท
หญิงสาวคนเดียวกัน กล่าวว่าแต่เมื่อข้ามไปอยู่ฝั่งท่าขี้เหล็กแล้ว กลับไม่ได้ทำงานอย่างที่คิดเพราะเกิดสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 และยังมีการประกาศห้ามออกจากเคอร์ฟิวจนสถานบันเทิงต่างๆ ต้องปิดตัวลง ตนจึงตัดสินใจยื่นเรื่องของเดินทางกลับประเทศผ่านทางสถานเอกอัคราชฑูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา หลายครั้ง
กระทั่งถึงวันที่จะต้องไปยื่นเอกสารเพื่อขอเดินทางกลับ ณ ด่านพรมแดนตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 แต่เจ้าหน้าที่เมียนมาก็มักจะอ้างว่าคนที่รับผิดชอบไม่อยู่หรือให้ไปติดต่อที่สะพานแห่งที่ 1 หรือที่อื่นบ้าง ซึ่งก็เคยทำมาอย่างนี้มา 2-3 ครั้งแล้วแต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถเดินทางกลับได้
"เงินที่มีอยู่น่ะค่ะต้องใช้ในการจ่ายค่าที่พักนะคะ เพราะว่าตอนนี้ก็ออกไปไหนไม่ได้เลย เป็นท้องที่ที่สถานการณ์โควิดคือหนักมาก เงินที่มีอยู่ที่จะใช้จ่ายในส่วนของค่าปรับหรืออะไรก็แล้วแต่ ก็ต้องนำมาใช้จ่ายในการกินและค่าที่พักที่เราต้องจ่ายเป็นรายเดือน และก็ล่าสุดก็ต้องไปตรวจโควิด เพราะว่าที่พักบางที่พักก็ไม่ให้คนไทยพักอยู่นะคะเพราะกลัวว่าจะมีการติดโควิดหรืออะไรก็แล้วแต่ เราก็ต้องไปทำการตรวจ ผลออกมาก็คือเป็นลบนะคะ ก็ได้เช่าอยู่ ณ ที่ตรงนี้นะคะเพื่อรอให้ทางการเจ้าหน้าที่ ทางการไทยช่วยเหลือทางเราให้กลับไปประเทศของเรา"
หญิงสาว กล่าวอีกว่าความเป็นอยู่ของพวกตนในท่าขี้เหล็กลำบาก เพราะออกไปไหนไม่ได้ อาหารที่ใช้กินก็คือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นหลัก จะมีข้าวกินก็เพียงแค่บางวัน ทุกอย่างก็ต้องประหยัดและมีไว้กินในปริมาณที่จำกัด
"ยังไงก็ฝากเรื่องเล่านี้เป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อนๆ หลายๆ คนด้วยนะคะ ส่วนเรื่องค่าปรับตอนนี้ก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 11,000 บาท ซึ่งตอนนี้บอกเลยว่าเงินหลักพันยังหาแทบไม่ได้เลยคะเพราะมีรายจ่ายมาก็ทั้งเดือนแล้วน่ะค่ะซึ่งมันก็ค่อนข้างเยอะ”
รายงานข่าวแจ้งว่าล่าสุดกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งเรื่องไปยังนายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย ว่ามีคนไทยที่แจ้งเรื่องถึงสถานเอกอัคราชฑูตประเทศไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ขอกลับประเทศผ่านทางจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 จำนวน 20 คน ส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวที่มีภูมิลำเนามาจากหลายของไทย แต่เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ทางการเมียนมาได้ส่งตัวกลับมาเพียง 3 คน ซึ่งเป็นชายทั้งหมดและเคยต้องโทษในประเทศเมียนมาและบางคนมีหมายจับคดีอาญาในฝั่งไทยด้วย ส่วนผู้ที่ลักลอบข้ามไปทำงานในสถานบันเทิงฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ยังไม่ถูกส่งตัวกลับ ทางการท้องถิ่นเมียนมาอ้างว่าเพื่อตรวจสอบบุคคลและสอบสวนก่อน
นอกจากนี้ที่ผ่านมายังมีหญิงสาวที่ลักลอบข้ามไปทำงานในท่าขี้เหล็ก แจ้งเรื่องผ่านอาจารย์สืบสกุล กิจนุกร สำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ผู้ประสานงานศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ จ.เชียงราย เพื่อขอกลับประเทศไทยอีกจำนวน 20 คน เป็นหญิง 19 คน ชาย 1 คน โดยมีชื่อซ้ำกับที่แจ้งผ่านทางสถานเอกอัคราชฑูตประเทศไทย ณ กรุงย่างกุ้ง จำนวน 3 คน และมีรายงานว่าคนในกลุ่มนี้ติดโควิด-19 แล้ว 2 คน ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลสนามในท่าขี้เหล็ก ส่วนที่เหลือพักตามห้องพักต่างๆ เพื่อรอการประสานส่งตัวกลับ
ขณะที่ทางนายอำเภอแม่สายได้มีหนังสือด่วนที่สุดไปถึงผู้ว่าการ จ.ท่าขี้เหล็ก ขอให้อำนวยความสะดวกในการส่งตัวคนไทยทั้งที่เข้าเมืองโดยถูกกฎหมายและผิดกฎหมายให้กลับประเทศไทยอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะกรณีมีการเจ็บป่วยหรือมีเหตุฉุกเฉิน หลังจากมีหญิงสาวชาวเชียงราย อายุ 26 ปีรายหนึ่ง ป่วยด้วยโรคโควิด-19 และถูกส่งตัวจาก จ.ท่าขี้เหล็ก มายังฝั่งไทยเมื่อวันที่ 9 ก.ค.แต่มีอาการหนักทำให้เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา