ท่าขี้เหล็ก - โควิดระบาดหัวเมืองท่าขี้เหล็ก ชายแดนเมียนมาติดแม่สายอ่วมไม่แพ้กัน..ล่าสุดพบติดเชื้อยืนยันเกือบ 500 คน ทางการท้องถิ่นสั่งล็อกดาวน์ทุกหมู่บ้าน-เคอร์ฟิวห้ามคนออกจากบ้าน 12 ชม.ตั้งแต่เช้าถึงเย็น จีน-ไทยตกค้างเพียบ
วันนี้ (15 ก.ค. 64) รายงานข่าวจากชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย จ.เชียงราย แจ้งว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ติดกับ อ.แม่สาย ยังคงลุกลามต่อเนื่อง ล่าสุดมีรายงานว่าพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 57 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนเป็นต้นมารวม 447 ราย
โดยผู้ติดเชื้อมีทั้งชาวเมียนมา คนจีน และบางส่วนเป็นคนไทย ส่วนใหญ่มาจากสถานบันเทิงที่มีการเปิดกันอย่างดาษดื่นมาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 64 ก่อนที่แต่ละแห่งจะปิดตัวลงไปโดยปริยายหลังเกิดการระบาดระลอกใหม่ ซึ่งคาดว่ามีชาวจีนตกค้างในท่าขี้เหล็กประมาณ 3,000 คน มากกว่าคนไทยประมาณ 10 เท่าตัว ซึ่งแทบทั้งหมดล้วนทำงานเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง บ่อนการพนันออนไลน์ ฯลฯ
หลังโควิดระบาดระลอกใหม่ดังกล่าว ทางการท่าขี้เหล็กได้ประกาศล็อกดาวน์ในระดับหมู่บ้านทุกหมู่บ้าน ห้ามประชาชนเดินทางออกจากหมู่บ้านของตนไปยังหมู่บ้านอื่น ยกเว้นมีหนังสือรับรองจากผู้นำชุมชนแสดงต่อเจ้าหน้าที่หรือออกไปหาซื้ออาหารที่ตลาดสด แต่ตามปกติทุกหมู่บ้านจะมีตลาดหรือร้านค้าอาหารสดที่ยังคงให้เปิดได้ ส่วนร้านอาหารถูกสั่งปิดตัวลงทุกแห่ง กรณีเป็นร้านอาหาร-เครื่องดื่มต่างๆ ห้ามนั่งรับประทาน/ดื่มกินภายในร้านไปจนถึงวันที่ 20 ก.ค.
ล่าสุดได้เพิ่มมาตรการห้ามออกจากเคหสถานตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. หรือห้ามออกนอกบ้านเรือนในช่วงเวลากลางวัน ยกเว้นไปตลาดหาซื้ออาหาร เป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่ 13 ก.ค.เป็นต้นไป หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถือว่าละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการระบาดของโควิด-19 ซึ่งมีโทษปรับเป็นเงิน 500,000 จั๊ต หรือประมาณ 10,000 บาท หรือหากไม่มีเงินเสียค่าปรับให้ถูกจำคุกแทนเป็นเวลา 3 เดือน
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ถนนสายต่างๆ ในท่าขี้เหล็กเงียบเหงาไม่มีผู้คนพลุกพล่านเหมือนเดิม ขณะที่เจ้าหน้าที่มีการตั้งด่านคัดกรองโควิด-19 จุดใหญ่ๆ ทั่วเมืองจำนวน 6 จุด เพื่อควบคุมตามมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด
ด้านแรงงานไทยที่อยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก พบว่ามีหญิงสาวที่ข้ามไปทำงานในสถานบันเทิงในตัวเมืองท่าขี้เหล็กรวมกลุ่มกันประมาณ 40-50 คน เข้ายื่นเรื่องต่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเมียนมาเพื่อขอเดินทางกลับประเทศไทย และบางส่วนแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ไทยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางการเมียนมาแจ้งให้รอการอนุญาตจากด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่เมืองเชียงตุง ก่อนจึงจะอนุญาตให้ผู้ทำเรื่องก่อนหน้านี้ 7 คนกลับประเทศไทยผ่านทางด่านพรมแดนตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ส่วนรายอื่นๆ ที่เหลือคาดว่าต้องใช้เวลาอีก 1-2 สัปดาห์
ขณะที่เจ้าหน้าที่ชายแดนฝั่งไทยทั้งทหารกองกำลังผาเมือง ฝ่ายปกครอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และตำรวจ วางกำลังตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดน โดยนายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) อ.แม่สาย เตรียมประสานงานผ่านคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมาระดับท้องถิ่น หรือทีบีซี ท่าขี้เหล็ก เพื่อขอความร่วมมือในการสำรวจและจัดส่งคนไทยให้เดินทางกลับตามช่องทางปกติ ซึ่งไทยได้จัดเตรียมสถานกักกันรูปแบบเฉพาะ หรือ OQ ภายใน ร้อย.ตชด.327 อ.แม่จัน จ.เชียงราย ห่างจากชายแดนประมาณ 30 กิโลเมตร เอาไว้รองรับแล้ว