xs
xsm
sm
md
lg

ยังมีอีกเป็นร้อยคน! สาวไทยตกค้างท่าขี้เหล็กหนีโควิด-สถานบันเทิงปิด รวมตัวขอกลับไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ท่าขี้เหล็ก/เชียงราย - พบสาวไทยตกค้างในท่าขี้เหล็ก หนีโควิด-สถานบันเทิงปิด ขอข้ามแดนกลับไทยนับ 100 ราย ล่าสุดรวมตัวประสานศูนย์แรงงานข้ามชาติฯ แล้ว 40-50 คน


รายงานข่าวจากชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย แจ้งว่า ขณะนี้ปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สาย ยังคงลุกลามต่อเนื่อง จนสถานบันเทิงต่างๆ ต้องทยอยปิดให้บริการกันโดยปริยาย ทั้งวันจีวัน ม้าบิน ตึกว้า 9 ชั้น ฯลฯ หรือผับ บาร์ คาราโอเกะ ร้านอาหาร ฯลฯ ขนาดกลางและเล็ก เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก

ส่งผลทำให้แรงงานไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวที่ลักลอบข้ามไปทำงานตามสถานบันเทิงพยายามจะเดินทางกลับไทย โดยล่าสุดศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ จ.เชียงราย ได้รับการประสานจากแรงงานไทย ปัจจุบันพวกเขาได้รวมตัวกันเพื่อขอความช่วยเหลือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว 40-50 คน

และมีอยู่ 7 คนได้ยื่นเรื่องผ่าน จนท.ท้องถิ่นท่าขี้เหล็กเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ยังต้องรอการอนุมัติจาก ตม.เชียงตุง โดยในจำนวนนี้มีหญิงสาวชาวไทยติดโควิดแล้ว 2 ราย ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลสนามภายในโรงยิมเนเซียมภายในเมืองท่าขี้เหล็ก ที่เหลือต้องรออยู่ในห้องพักของตัวเอง

อาจารย์สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการจากสำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) ในฐานะผู้ประสานงานศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ จ.เชียงราย กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ในแรงงานข้ามชาติภายใน จ.เชียงรายยังไม่น่าเป็นห่วง พบผู้ติดเชื้อเป็นชายชาวเมียนมาเพียง 1 ราย และคาดว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ในวันนี้ (14 ก.ค.)

ขณะที่ศูนย์ฯ ยังได้สนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในการสร้างเครือข่ายแรงงานต่างด้าวตามอำเภอต่างๆ ทั้ง อ.เมืองเชียงราย อ.แม่สาย อ.เชียงแสน ฯลฯ เพื่อให้ความรู้ แจกสื่อ ประสานงานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โดยเฉพาะอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานกับชุมชนแรงงานต่างด้าวได้สะดวกมากขึ้นด้วย


อาจารย์สืบสกุลกล่าวอีกว่า สถานการณ์แรงงานไทยใน จ.ท่าขี้เหล็กกลับน่าห่วงมากกว่า เพราะมีกลุ่มแรงงานไทยที่ประสานขอความช่วยเหลือให้พากลับประเทศไทยเป็นจำนวนมาก คาดว่ามีไม่น้อยกว่า 100 คนขึ้นไป โดยมีผู้ประสานเข้ามาในระบบแล้ว 40-50 คน เพราะสถานบันเทิงในเมืองท่าขี้เหล็กปิดส่งผลทำให้ไม่มีงานทำ และเมื่อมีการระบาดของโควิด-19 ทำให้ต่างดิ้นรนเพื่อกลับประเทศ

โดยหลายรายได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่เมียนมาและเสียค่าปรับเพราะลักลอบเข้าประเทศเมียนมาด้วย แต่ปรากฏว่ายังไม่ถูกส่งตัวกลับ จึงอยากให้หน่วยงานราชการของไทยทั้งจังหวัด คณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมาระดับท้องถิ่นหรือทีบีซี ช่วยประสานงานเพื่อรับคนเหล่านี้กลับมาในระบบเพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีกลับมา

ในส่วนของศูนย์ฯ ได้แนะนำแรงงานในท่าขี้เหล็กให้กลับมาตามระบบ เพราะต้องยอมรับว่าคนเหล่านี้หลบหนีออกไปทำงานในท่าขี้เหล็ก หากจะกลับต้องกลับเข้าสู่ระบบ เพราะการหลบหนีเข้ามานอกจากจะผิดกฎหมายซ้ำซ้อน ต้องถูกดำเนินคดี หรือหากหลุดรอดไปได้แล้วเกิดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาด้วยก็จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มาอีก


อาจารย์สืบสกุลกล่าวอีกว่า ส่วนในระยะยาวตนขอเสนอให้รัฐบาลได้จัดระเบียบแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้มีรายชื่ออยู่ในระบบ มีการออกใบอนุญาต ตรวจโรค ฯลฯ โดยอาศัยช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่พบปัญหานี้ให้เป็นโอกาสในการจัดระเบียบ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ แต่ค่อยๆ ดำเนินการเพื่อผลดีในระยะยาว

ด้านจังหวัดเชียงราย ได้จัดตั้งสถานกักกันรูปแบบเฉพาะองค์การ (OQ) ร้อย.ตชด.327 อ.แม่จัน จ.เชียงราย รองรับแรงงานทั้งหมดที่มาจากต่างประเทศ ขณะนี้เหลือผู้ถูกกักกันอยู่เพียง 9 ราย เป็นคนไทย 7 ราย เมียนมา 1 ราย และ สปป.ลาว 1 ราย






กำลังโหลดความคิดเห็น