เชียงราย - นอภ.แม่สายส่งหนังสือประสานทางการท้องถิ่นเมียนมาขออำนวยความสะดวกเร่งส่งตัวคนไทยตกค้างกลับ ขณะที่สาวเชียงรายวัย 26 เคยทำงานท่าขี้เหล็ก-ติดโควิด ข้ามแดนกลับ 9 ก.ค. เสียชีวิตแล้ว 1 ราย
วันนี้ (15 ก.ค. 64) ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย รายงานสถานการณ์โควิดในพื้นที่เชียงรายว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 24 ราย แต่เป็นผู้ป่วยในพื้นที่เพียง 1 ราย อยู่ในเขต อ.เมืองเชียงราย ติดเชื้อมาจากต่างจังหวัด 9 ราย และรับมารักษาจากต่างจังหวัดอีก 14 ราย
ขณะที่ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา รวมเป็น 1,224 ราย รักษาหายแล้ว 1,022 ราย รักษาอยู่ 184 ราย และเสียชีวิตสะสม 18 ราย โดยรายล่าสุดเป็นหญิงอายุ 26 ปีชาว ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย ซึ่งมีประวัติเคยข้ามไปทำงานในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา กระทั่งมีอาการป่วยจึงเดินทางกลับไทยเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา และถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ แต่อาการหนักทำให้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำร่างไปฌาปนกิจตามขั้นตอนของสาธารณสุขในวันเดียวกันแล้ว
ด้านนายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) อ.แม่สาย ได้มีหนังสือด่านที่สุดส่งถึงผู้ว่าการ จ.ท่าขี้เหล็ก ระบุว่า จากกรณีมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้ปวยหรือผู้มีเหตุจำเป็นที่อยู่ในฝั่งประเทศเมียนมา อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากและเสี่ยงสูงที่จะเสียชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
ดังนั้นจึงขอความอนุเคราะห์ให้อำนวยความสะดวกให้คนไทยทั้งที่อยู่ในเมียนมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายและไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่ต้องการกลับให้สามารถเดินทางกลับได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะในรายที่เจ็บป่วยหรือมีความจำเป็นฉุกเฉิน
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้มีคนไทยที่ทำงานอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ติดกับ อ.แม่สาย ที่รวมกลุ่มหาทางขอกลับไทยประมาณ 40-50 คน ขณะที่นายอำเภอแม่สายได้รับแจ้งจากกระทรวงมหาดไทยผ่านทางจังหวัดฯ ว่า ในวันศุกร์ที่ 16 ก.ค.นี้จะมีคนไทยถูกส่งตัวกลับผ่านทางจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 มายัง อ.แม่สาย จำนวน 20 คน ซึ่งทาง ศปก.อ.แม่สายได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมเพื่อรับตัวแล้ว
ด้านศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ จ.เชียงราย ได้สำรวจรายชื่อหญิงสาวที่แจ้งผ่านกลุ่มไลน์ว่าต้องการกลับประเทศไทย ซึ่งสามารถรวบรวมได้อีก 16 คน แต่เป็นรายชื่อซ้ำกับที่แจ้งผ่านสถานเอกอัครราชทูต 3 รายชื่อ จึงได้ส่งต่อข้อมูลไปให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประสานให้ความช่วยเหลือแล้ว
อาจารย์สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการจากสำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และผู้ประสานงานศูนย์ฯ กล่าวว่า การประสานงานนำคนไทยตกค้างในเมียนมากลับ อันดับแรกทางการไทยต้องส่งเอกสารให้ทางการเมียนมา จากนั้นรอนัดหมาย กรณีผู้ที่เข้าเมืองในเมียนมาผิดกฎหมายจะต้องขึ้นศาลเสียค่าปรับ แล้วจึงถูกส่งตัวไปยังด่านพรมแดนเพื่อกลับประเทศ ซึ่งทางศูนย์ฯ พยายามให้ผู้ที่ติดต่อได้กลับมาตามช่องทางนี้เพื่อไม่ให้มีการหลบหนีเข้าเมือง ป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำเติมวิกฤตที่มีอยู่แล้วอีก สำหรับผู้ที่เข้ามาอย่างถูกต้องจะได้รับการดูแลตามขั้นตอนสาธารณสุขต่อไป
