xs
xsm
sm
md
lg

พาลูกสาวแจ้งความ หลังถูกเพื่อนรุมตบ-ถ่ายคลิปอนาจารในห้องน้ำโรงเรียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชัยนาท - พ่อแม่พาลูกสาวแจ้งความ พร้อมร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ หลังถูกเพื่อนรุมตบ-ถ่ายคลิปอนาจารในห้องน้ำโรงเรียน และถูกเพื่อนในโรงเรียนล้อเลียนตลอดเวลาทำให้เกิดความอับอาย

วันนี้ (7 มี.ค.)  พ่อ และแม่เลี้ยงของเด็กหญิงวัย 13 ปี ชาวจังหวัดชัยนาท ร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ หลังลูกสาวถูกเพื่อนนักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ที่เรียนอยู่ห้องเดียวกัน จำนวน 5 คน เป็นหญิง 4 คน ชาย 1 คน ทำร้ายร่ายกายด้วยการใช้มือตบใบหน้าหลายครั้ง และใช้รองเท้านักเรียนตบศีรษะ อีกทั้งยังข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัวเรื่อยมา และยังบังคับให้ร่วมทำถ่ายทำคลิปตบหน้าเพื่อเลียนแบบคลิปตบดังในโซเชียล แต่ที่หนักสุดถึงขั้นบังคับให้ถอดกางเกงชั้นในขณะเด็กหญิงกำลังทำธุระส่วนตัวอยู่ในห้องน้ำ เพื่อถ่ายภาพอวัยวะเพศแล้วโพสต์ประจานลงกลุ่มแชตเพื่อนๆ ในโรงเรียน เพื่อให้เกิดความอับอาย ไม่เพียงเท่านี้ เด็กหัวโจกของกลุ่มนี้ยังบังคับให้เด็กหญิงถอดเสื้อโชว์หน้าอกขณะวิดีโอคอล แล้วแคปภาพหน้าจอ เอาไปโพสต์ลงกลุ่มแชตอีกด้วย       

โดยพ่อและแม่เลี้ยงได้นำคลิปตบ จำนวน 3 คลิป รวมความยาวกว่า 10 นาที มาให้ผู้สื่อข่าวดู ซึ่งเป็นคลิปที่ลูกสาวถูกบังคับให้ตบหน้าเพื่อนอย่างไม่เต็มใจ ก่อนจะถูกเพื่อนทั้ง 5 คน ผลัดกันตบหน้ากลับมาอย่างแรงหลายครั้ง จนเป็นรอยแดงเต็มใบหน้า 
             
เด็กหญิงกล่าวว่า ภาพในคลิปเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ย.63 ในห้องน้ำโรงยิมของโรงเรียนช่วงพักเที่ยง ถูกเพื่อนหลอกว่าจะไปถ่ายรูปเล่นกันในห้องน้ำ แต่กลับถูกบังคับให้มาร่วมทำคลิปตบ โดยกลุ่มเพื่อนบังคับให้ตนตบหน้าเพื่อนก่อน ซึ่งตนไม่กล้า แต่ก็ยอมทำตาม ตบหน้าเพื่อนไปเบาๆ แต่กลับถูกเพื่อนทั้ง 5 คน ผลัดกันตบหน้าตนกลับมาอย่างแรงและหลายครั้ง ทำให้เจ็บระบมไปทั่วใบหน้า และยังถูกถ่ายคลิปอนาจารขณะที่ตนกำลังเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวด้วย    

ส่วนภาพโชว์หน้าอก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ก.พ.64 ขณะที่ตนกำลังวิดีโอคอลพูดคุยกับเพื่อน 1 ใน 5 คนนี้ ได้บังคับให้ตนถอดเสื้อโชว์หน้าอกผ่านวิดีโอคอล ตอนแรกตนได้ปฏิเสธ แต่ถูกเพื่อนพูดจาข่มขู่ทำให้หวาดกลัวว่าจะถูกทำร้าย จึงยอมทำตาม ไม่รู้ว่าเพื่อนจะนำแคปภาพส่งเข้าไปในกลุ่มแชต และเมื่อวันที่ 1 มี.ค.64 ก็ถูกเพื่อนคนนี้ใช้รองเท้านักเรียนตบมาที่ศีรษะตน ส่วนสาเหตุที่ตนต้องยอมทำสิ่งต่างๆ ตามที่เพื่อนกลุ่มนี้บังคับมาโดยตลอดเพราะเกิดความหวาดกลัว กลัวว่าหากไม่ทำตามก็จะถูกทำร้ายมากกว่านี้ และจะถูกตัดเพื่อนไม่มีใครคบ
               
แม่เลี้ยงของเด็กหญิง กล่าวให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวันที่ 3 มี.ค.64 ตนได้เห็นคลิปวิดีโอที่ลูกสาวถูกเพื่อนนักเรียนรุมตบในห้องน้ำโรงเรียน ตกใจและเสียใจเป็นอย่างมากที่เห็นลูกสาวถูกกระทำเช่นนั้น เมื่อถามลูกก็ทราบว่า ที่ยอมให้เพื่อนตบหน้าเพราะหวาดกลัว หากไม่ยอมจะถูกเพื่อนทำร้ายหนัก และจะไม่ยอมเป็นเพื่อนด้วย 

“ตนเองและแม่สามี จึงรีบพาลูกสาวไปที่โรงเรียนเพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว กลับได้รับคำตอบจากครูฝ่ายปกครองว่าเป็นคลิปเก่า ที่เด็กทะเลาะกัน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ทางโรงเรียนได้มีการภาคทัณฑ์กับเด็กในกลุ่มนี้ไว้แล้ว ซึ่งตนเองแปลกใจมากว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้หลายเดือนแล้ว เหตุใดโรงเรียนจึงไม่แจ้งให้ผู้ปกครองทราบ จนกระทั่งตนเองและสามีมาเห็นคลิปนี้เอง”

ต่อมา วันที่ 4 มี.ค.ผู้อำนวยการโรงเรียนได้เรียกตนเองและผู้ปกครองของเด็กคู่กรณีทั้ง 5 คนไปประชุมร่วมกัน และได้มีการเปิดคลิปตบให้ดูด้วย แต่ตนขอไม่ให้เปิดคลิปอนาจาร เพราะกลัวลูกสาวทนความอบอายไม่ได้ ซึ่งในที่ประชุมสรุปว่าเด็กกลุ่มนี้กระทำผิดจริง ทางโรงเรียนจึงให้ผู้ปกครองของเด็กคนแรกที่เป็นหัวโจกมาทำเรื่องย้ายออกไปจากโรงเรียน ส่วนเด็กที่เหลืออีก 4 คน ถูกภาคทัณฑ์ไว้  และตนได้พาลูกสาวเข้าไปแจ้งความต่อตำรวจ สภ.การุ้ง จ.อุทัยธานี เพื่อเอาผิดกับเด็กที่ก่อเหตุทั้ง 5 คน ฐานทำร้ายร่างกาย  กักขังหน่วงเหนียว ข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัว และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แล้ว
               
แม่เลี้ยงยังเปิดเผยอีกว่า รู้สึกสงสารลูกเป็นอย่างมากที่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะนอกจากลูกจะได้รับความเจ็บปวดทางร่ายกายแล้ว ยังเจ็บปวดทางจิตใจ เพราะลูกจะถูกเด็กที่โรงเรียน โดยเฉพาะเด็กผู้ชายล้อเลียนเรื่องคลิปอนาจารตลอดเวลาที่อยู่โรงเรียน แม้กระทั่งวันที่ตนเข้าไปในโรงเรียนกับลูกยังมีเด็กผู้ชายตะโกนล้อเลียนลูกถึงคลิปอนาจารจนลูกทนได้ไหวรีบชวนแม่ออกจากโรงเรียน ลูกบอกว่าถูกกระทำเช่นนี้มาตั้งแต่ต้นเทอมแล้ว แต่ที่ไม่เคยปริปากฟ้องครูหรือมาบอกพ่อแม่ปู่ย่า เพราะกลัวจะถูกทำร้ายหนักขึ้น ตนจึงอยากให้ทางโรงเรียนและผู้ปกครองของเด็กที่ก่อเหตุแสดงความรับผิดชอบให้มากกว่าแค่คำว่า “ขอโทษ” ส่วนเรื่องคดีความยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และไม่เพียงลูกสาวของตนที่ถูกกระทำ ยังมีเด็กหญิงอีกรายก็ถูกกระทำแบบนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งผู้ปกครองของเด็กหญิงอีกรายได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจแล้วเช่นกัน
               
ขณะที่พ่อและย่าของเด็กต่างเป็นห่วงความรู้สึกของเด็กหญิงเป็นอย่างมากหากต้องกลับไปเรียนที่เดิม จึงเตรียมย้ายเด็กหญิงออกจากโรงเรียน โดยช่วงนี้จะให้หยุดเรียนไว้ก่อน แล้วค่อยกลับไปโรงเรียนในช่วงที่มีการสอบปลายภาค เพื่อให้เด็กหญิงได้เรียนจบชั้น ม.1 ก่อน แล้วจะย้ายให้มาเรียนในโรงเรียนใกล้บ้านแทน






กำลังโหลดความคิดเห็น