คุณแม่โพสต์เศร้า ขอคำแนะนำการดูแลลูกสาว หลังลูกถูกเพื่อนในห้องบูลลี่ สุดทรมานเห็นลูกเครียดนอนร้องไห้ทั้งคืน ด้านชาวเน็ตแนะนำให้ย้ายโรงเรียนเพื่อไปอยู่สังคมที่ดีกว่า อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางโรงเรียนทราบเรื่องดังกล่าวและได้ลงโทษเด็กนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมแล้ว
เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความลงในกลุ่ม “HerKid รวมพลคนเห่อลูก” โดยคุณแม่รายนี้ ได้เข้ามาปรึกษาสมาชิกภายในกลุ่มเกี่ยวกับการที่ลูกตนเองโดนเพื่อนที่โรงเรียนบูลลี่ จนมีอาการเครียดและนอนไม่หลับ ร้องไห้ โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความลงในกลุ่มว่า
“สาเหตุมาจากว่าเมื่อวันพุธเราไปเคลียร์ที่โรงเรียนที่เด็กคนนี้ด่าเราว่ากะXXX ด่าเราผ่านลูกเราว่าเราเป็นกะXXX แล้วก็ด่าลูกเราต่อหน้าเพื่อนคนอื่นตอนซ้อมเต้น แล้วพอมีคนเห็นตอนไปเคลียร์ก็เลยมีเพื่อนเข้ามาถามว่ามันเรื่องอะไร แล้วเหมือนว่าลูกเราจะบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็เลยเป็นเรื่องไม่พอใจ ขอวิธีการดูแลลูกตัวเองจากการโดนบูลลี่ในโลกออนไลน์จากเพื่อนร่วมห้อง การลูกเราค่อนข้างเครียดแล้วนอนไม่หลับ ร้องไห้ เราต้องทำยังไงดี สงสารลูก ลูกไม่ใช่คนเข้มแข็ง กลัวลูกจะไม่ไหว ตี 1 กว่า ยังนอนร้องให้อยู่ แล้วหลับทั้งน้ำตาแบบนี้เลย เราเองนอนไม่หลับ ห่วงลูก ห่วงถึงวันจันทร์ที่จะถึง ลูกจะอยู่ยังไง สายตาเพื่อนคนอื่นจะมองลูกยังไง โดยปกติแล้วตอนกลางวันลูกจะไม่ได้มาเล่นเหมือนเด็กทั่วไป ลูกเราจะไปช่วยครูทำธนาคาร แต่ก็ยังห่วงว่าช่วงเวลาอื่นๆ จะเป็นยังไง ลูกจะไหวมั้ย ห่วงมาก เด็กที่บลูลี่ก็ค่อนข้างเป็นเด็กหัวแข็ง ก่อนหน้านี้ ก็ยังมีอื่นๆ อีกใช้คำพูดด่าทอรุนแรงกับลูกเราต่อหน้าเพื่อนคนอื่น คล้ายด่าประจาน กลัวใจลูกไม่ไหวกลัวมาก”
ทั้งนี้ ได้มีสมาชิกในกลุ่มเข้ามาร่วมคอมเมนต์ให้กำลังใจและช่วยกันหาทางออกอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ มีการแนะนำให้ผู้ปกครองย้ายโรงเรียนให้บุตรหลาน เพื่อให้ไปเจอสังคมที่ดีกว่า
ล่าสุด วันนี้ (1 มี.ค.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายเดิมได้อัปเดตเหตุการณ์ดังกล่าวว่าทางโรงเรียนได้ลงโทษเด็กโดยการหักคะแนนความประพฤติ 20 คะแนน ลงโทษเด็กที่ด่าเรากับลูกเรา โดยการพักการเรียนหลังสอบเสร็จ ตอนนี้ทางโรงเรียนเสียหายมากจากโพสต์ของเรา (แต่ทางเราไม่มีเจตนาทำให้โรงเรียนเสียหายและไม่เคยเอ่ยชื่อโรงเรียนนะคะ) ตรงนี้ยอมรับคำตำหนิของโรงเรียน ขอแม่ๆ ทุกคนที่เป็นห่วงลูกเรา อย่าเข้าไปเมนต์ในโรงเรียน เรารับปากทางโรงเรียนไว้ว่าจะมาคุยเรื่องนี้ให้ ส่วนเรื่องอื่นๆ ต้องฟื้นฟูกันตามลำดับ
สำหรับการ “บูลลี่” นพ.โกวิทย์ นพพร แพทย์ชำนาญการด้านจิตวิทยา โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ระบุว่า การบูลลี่ คือ พฤติกรรมรุนแรง กลั่นแกล้ง รังแกผู้อื่นทั้งทางวาจาและร่างกาย หากเกิดในชีวิตจริงมักเป็นการล้อเลียนรูปร่างหน้าตา สถานะทางสังคม รวมถึงการทำร้ายร่างกาย ส่วนโลกออนไลน์ส่วนใหญ่เกิดจากการประจานกันทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งหลายครั้งการบูลลี่สร้างผลกระทบทางด้านความรู้สึกมากมายจนอาจเกิดเป็นแผลทางใจฝังลึกจนยากเยียวยา หรืออาจลุกลามไปจนเกิดการปะทะและสร้างบาดแผลทางกายได้
พฤติกรรมข่มขู่กับการบูลลี่ อาจแยกกันไม่ได้เด็ดขาด ด้วยส่วนใหญ่มักเกิดจากการกระทำของผู้ที่คิดว่าตนมีอำนาจมากกว่ารังแกผู้ที่ด้อยกว่าหรือคนตัวใหญ่ชอบรังแกคนตัวเล็ก พฤติกรรมเหล่านั้นอาจเกิดซ้ำๆ ซึ่งหากต้องเผชิญการทำร้ายครั้งแรก ผู้ถูกกระทำอาจให้อภัยได้ แต่ถ้าเกิดขึ้นบ่อยๆ ซ้ำๆ อาจกลายเป็นความเครียดหรือความแค้นในที่สุด นอกจากนี้ ผู้กระทำส่วนใหญ่มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการให้ผู้อื่นอับอาย เจ็บตัว เสื่อมเสีย หรือด้อยค่าลง โดยสามารถจำแนกการบูลลี่ได้ ดังนี้
บูลลี่ทางร่างกาย เป็นการทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายให้เกิดการบาดเจ็บ มีบาดแผล ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากภายนอก บางกรณีอาจส่งผลต่อจิตใจอีกด้วย
บูลลี่ทางวาจา แม้ไม่มีบาดแผลทางกายให้เห็น แต่การพูดส่อเสียด ล้อเลียน ใส่ร้าย การประจานด้วยคำพูดให้ผู้อื่นได้ยิน นอกจากจะสร้างความอับอาย วิตกกังวล อาจสร้างความเครียด เก็บกด ส่งผลถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้า หรือหวาดกลัวสังคม ถือเป็นบาดแผลทางใจที่เจ็บปวดไม่น้อย
บูลลี่ทางสังคม เป็นการสร้างกระแสสังคมรอบข้างให้โหมกระหน่ำมายังเหยื่อของการบูลลี่ เสมือนการยืมมือคนรอบข้างให้ร่วมกันทำร้ายบุคคลเพียงคนเดียว เช่น การปล่อยคลิปของเหยื่อ หรือการสร้างข่าวลือ จนผู้เสพหลงเชื่อและพร้อมจะแชร์และกระพือข่าวให้ไปในวงกว้างขึ้น จนกว่าผู้ถูกกระทำไม่มีที่ยืนทางสังคม