สุรินทร์ - ผอ.สพป.สุรินทร์ เขต 3 เผยผลสอบข้อเท็จจริงครูหื่นทำอนาจารนักเรียนหญิง ป.3 กว่า 10 คน พบมีมูลชัดเจน ชง ศธ.สุรินทร์ตั้ง กก.สอบฟันวินัยร้ายแรงแล้วถึงขั้นปลดออก คาด 15 วันรู้ผล พร้อมตั้ง กก.อีกชุดลงพื้นที่เร่งเยียวยาฟื้นฟูสุขภาพจิตนักเรียนเหยื่อถูกกระทำ
วันนี้ (24 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้ากรณีกลุ่มผู้ปกครองนักเรียนเข้าแจ้งความที่ สภ.พนมดงรัก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ กล่าวหาว่าครูชาย ซึ่งเป็นครูประจำชั้นกระทำอนาจารเด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (ป.3) โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พนมดงรัก จำนวน 13 ราย บางรายถูกกระทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ ป.2 แต่ไม่กล้าบอกใคร ต่อมา นางภาณิชา อินทร์ช้าง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (ผอ.สพป.) สุรินทร์ เขต 3 มีคำสั่งให้ครูชายทราบชื่อคือ นายสายลับ อุ่นตาล อายุ 39 ปี ครูประจำชั้น ป.3 โรงเรียนบ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก เป็นชาว จ.เชียงราย ซึ่งบรรจุรับราชการครูมาแล้ว 9 ปี ย้ายไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สุรินทร์ เขต 3 พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และรอให้สหวิชาชีพสอบปากคำเด็กๆ ผู้เสียหายให้เสร็จสิ้นก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดวันนี้ นางภาณิชา อินทร์ช้าง ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (ผอ.สพป.) สุรินทร์ เขต 3 เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจากผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองคันนา เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา จึงได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงลงพื้นที่เมื่อวันที่ 23 ก.พ. และออกคำสั่งอีกชุดเพื่อให้ครูชายคนดังกล่าวเข้ามาช่วยปฏิบัติงานชั่วคราวที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. 64 เป็นต้นไป
จากนั้นเมื่อวานนี้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงได้ลงพื้นที่สอบสวนพบว่ามีมูลตามที่ผู้ปกครองได้ไปร้องทุกข์แจ้งความที่สถานีตำรวจ ซึ่งมีเด็กหญิงกว่า 10 คนที่ถูกกระทำอนาจาร จากนั้นได้สรุปรายละเอียด สำนวนสืบสวนของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และได้รายงานไปที่ นายอัมพร พินะสา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แล้ว ซึ่งท่านเป็นห่วง ให้หน้าห้องประสานมาทุกระยะ และรายงานไปที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมแนบรายชื่อกรรมการที่จะตั้งเป็นกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ซึ่งต่อไปจะเป็นภารกิจกระบวนการสอบเอาผิดวินัยร้ายแรง ซึ่งศึกษาธิการจังหวัดฯ จะออกคำสั่งมาให้ลงพื้นที่ดำเนินการต่อไป
ส่วนผลการสอบวินัยร้ายแรงจะออกมาอย่างไรก็อยู่ที่พยานหลักฐาน พยานบุคคลต่างๆ แต่ผู้ที่เคยกระทำผิดในกรณีลักษณะแบบนี้ ตามที่ กคศ.เคยลงโทษมาจะเป็นปลดออกจากราชการ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้เลย เพราะครูเป็นต้นแบบของประชาชนของชุมชน เป็นบุคคลที่สอนลูกนักเรียน เป็นพ่อเป็นแม่คนที่สอง และโรงเรียนต้องปลอดภัย คำว่าโรงเรียนเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก เด็กนักเรียนเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุด หากลูกนักเรียนมีความไม่ปลอดภัยก็ถือว่าต้องพิจารณาตนเองแล้วสำหรับบุคคลที่กระทำสิ่งเหล่านี้
“ขอฝากถึงพี่น้องเพื่อนบุคลากร ท่านใดเคยคิดจะทำหรือกระทำสิ่งเหล่านี้ก็ตาม ขอให้ยุติ เพราะมันไม่คุ้มค่าเลยกับการเป็นข้าราชการที่ดีของประเทศชาติ และอีกอย่างเราก็เป็นคุณพ่อคุณแม่คนที่สองของเด็กนักเรียน เพื่อให้เขาได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี” นางภาณิชากล่าว
นางภาณิชากล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กรณีนี้ในส่วนขั้นตอนการสืบสวนข้อเท็จจริงนั้นจบแล้ว พบว่ามีมูล พอมีมูลก็ส่งเรื่องไปยังสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุรินทร์ และจะตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงลงมา ซึ่งได้ส่งรายชื่อกรรมการไปแล้ว พร้อมลงนามได้ทันที และคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงก็จะได้ลงพื้นที่ตามกระบวนการสอบต่อไป ซึ่งกรณีนี้มีข้อมูลชัดเจน ภายใน 15 วันผลการสอบก็น่าจะออกมาได้ ส่วนครูชายผู้ก่อเหตุเมื่อวานนี้ได้ลาและจะพูดคุยกับเจ้าตัวในวันนี้ (24 ก.พ.)
ส่วนเด็กนักเรียนที่ถูกกระทำ ได้มอบหมายให้คณะกรรมการชุดหนึ่ง นำโดยรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3, ผอ.กลุ่มส่งเสริมนักวิชาการศึกษา และนักจิตวิทยา ซึ่งมีหน้าที่ดูแลในเรื่องการเยียวยาความรู้สึก สุขภาพจิตของเด็กที่ถูกกระทำ และทำความเข้าใจกับผู้ปกครองด้วยว่าให้ดูแลลูกหลานอย่างไรในช่วงนี้ ซึ่งมีหลายหน่วยงานที่ลงพื้นที่ ทั้ง พมจ. จากบ้านพักเด็กและครอบครัว และนักจิตวิทยาจากโรงพยาบาลพนมดงรัก และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องลงไปดูแลเด็กนักเรียนอย่างต่อเนื่อง