สุรินทร์ - สั่งย้ายด่วนครูหื่นทำอนาจาร นร.หญิง ป.3 กว่า 10 คน มาช่วยราชการ สพป.สุรินทร์ เขต 3 พร้อมตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริง ด้านตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนออกหมายเรียก เผยเร่งดำเนินคดีให้เร็วที่สุดเพราะกระทบหลายส่วน ผู้เสียหายหลายราย และเป็นคดีที่สังคมสนใจ
วันนี้ (23 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้ากรณีกลุ่มผู้ปกครองนักเรียนเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.พนมดงรัก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ กล่าวหาว่า ครูชาย ซึ่งเป็นครูประจำชั้น ทำอนาจารเด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (ป.3) โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พนมดงรัก จำนวน 13 ราย บางรายถูกกระทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ ป.2 แต่ไม่กล้าบอกใคร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด นางภาณิชา อินทร์ช้าง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (ผอ.สพป.) สุรินทร์ เขต 3 มีคำสั่งให้ครูชายโรงเรียนดังกล่าวในพื้นที่ ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นครูประจำชั้น ป.3 และเป็นชาว จ.เชียงราย ย้ายไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สุรินทร์ เขต 3 พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและให้กรรมการลงพื้นที่สอบสวนหาข้อมูลข้อเท็จจริงในวันนี้ เพื่อดำเนินการตามระเบียบ หากพบว่ามีความผิดจริงจะดำเนินการทางวินัยและกฎหมายต่อไป
โดยในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ นายเดชา การรัมย์ รอง ผอ.สพป.สุรินทร์ เขต 3 ได้เดินทางมายังโรงเรียนดังกล่าว พร้อมด้วยคณะกรรมการประเมินสถานศึกษา เพื่อสอบสวนและรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยมี นายณัฏฐ์ธเนศ สีน้ำคำ ผู้อำนวยการ (ผอ.) โรงเรียนบ้านหนองคันนา เรียกประชุมครูภายในโรงเรียน พร้อมคณะครูให้ข้อมูล และหารือเรื่องการแก้ไขปัญหาภายในที่เกิดขึ้น พร้อมจะได้ชี้แจงให้ผู้ปกครองทราบ พร้อมกับนำข้อมูลรายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบต่อไป
ขณะที่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา พ.ต.ท.วีระชัย ประทุมชาติ รอง ผกก.สอบสวน สภ.พนมดงรัก ได้นำเจ้าหน้าที่ จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สุรินทร์ และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ ไปยังโรงเรียนบ้านหนองคันนาเพื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากนักเรียนและจากผู้ปกครองทั้งหมด พร้อมรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.ท.วีระชัย ประทุมชาติ รอง ผกก.สอบสวน สภ.พนมดงรัก กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินคดี เพียงแต่รับแจ้งความไว้เบื้องต้นและทำการสอบปากคำผู้ปกครองทั้งหมดแล้ว ขณะนี้มีข้อมูลแค่เบื้องต้น ส่วนครูชายยังไม่ได้เรียกมาสอบปากคำแต่อย่างใด รอรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบก่อน ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะกระทบต่อหลายส่วน ผู้เสียหายหลายคน และเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจ ส่วนเด็กหญิงผู้เสียหาย จะได้มีสหวิชาชีพเข้าร่วมในการเยียวยาสภาพจิตใจ
ขณะที่ นายพิศาล เค้ากล้า นายอำเภอพนมดงรัก ได้ลงพื้นที่เพื่อรับทราบข้อมูล และจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย พร้อมจะได้นำเสนอต่อผู้บังคับบัญชาต่อไป