พ่อ แม่ แทบช็อก หลังลูกชายวัย 3 ขวบ กลับจากโรงเรียนดังย่านนนทบุรี พบรอยช้ำเต็มหลัง แม่โร่แจ้งความตำรวจ หลังโรงเรียนไร้คำตอบ ขอตรวจกล้องวงจรปิด อ้างมองไม่เห็น เสนอจ่ายค่ารักษาพยาบาล สอบสวนเหตุการณ์ภายใน 1 เดือน
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ “NooZap Pawornruj” โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความไว้ว่า “ลูกของเพื่อนโดนมาขนาดนี้น้องบอกว่าเพื่อนแกล้งมันใช่หรอแต่ทางโรงเรียนประวิงเวลาเพื่อครูรอให้หลักฐานหายหรอทางโรงเรียนขอไม่ให้โพสต์ลงในไลน์กลุ่มผู้ปกครองคืออะไร กูสั่นเลยเป็นใครทำลูกกูขนาดนี้ กูถือขวานบุกโรงเรียนเลย”
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 19 ก.พ. 64 ที่ รพ.ชลประทานปากเกร็ด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางพบ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี พร้อมสามี และลูกชายน้องบี (นามสมมติ) อายุ 3 ขวบครึ่ง ขณะนำตัวลูกชาย ซึ่งเรียนอยู่เนร์สเซอรี ในโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านเมืองนนท์ มาตรวจร่างกายเพิ่มเติม หลังจากที่พบรอยบาดแผลเหมือนถูกทำร้ายร่างกายเต็มแผ่นหลังและที่กกหู
น.ส.เอ แม่น้องบี เปิดเผยว่า วันที่ 16 ก.พ. 64 ได้รับน้องกลับมาจากโรงเรียนกำลังจะพาน้องไปอาบน้ำ แต่น้องมีอาการไม่อยากให้ถอดเสื้อบริเวณด้านหลัง และหลังจากที่ตนเห็นหลังลูกมีรอยแผลจึงถ่ายรูปและส่งให้ทางคุณครูดู และถามว่าเหตุเกิดจากอะไรแต่ทางคุณครูตอบกลับมาว่าไม่ทราบสาเหตุ เพราะขณะนั้นทางคุณครูมีการเปลี่ยนกะและให้น้องไปอยู่กับรุ่นพี่อีกคน ตนจึงเข้าไปติดต่อขอดูกล้องวงจรปิดแต่ทางคุณครูให้มาเช้าวันถัดไปวันที่ 17 ก.พ. แต่เมื่อดูกล้องวงจรปิดเห็นเพียงภาพที่น้องเดินผ่านไปมาตนจึงขออนุญาตแจ้งความเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติมและทางโรงเรียนได้มาร้องขอกับตนว่ายังไม่ให้เข้าไปแจ้งความเพื่อที่จะหาข้อเท็จจริงภายในวันนี้
หลังจากนั้น ทางโรงเรียนได้นัดตนเพื่อคุยและขอให้เอาใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลน้องที่จ่ายไปเอามาให้กับทางโรงเรียน ถัดมาวันที่ 18 ก.พ. ตนจึงขอดูกล้องอีกครั้ง ซึ่งในห้องมีกล้องแค่ตัวเดียวและไม่สามารถเห็นทุกมุมของห้องได้ ทางโรงเรียนจึงขอรับผิดชอบเบื้องต้นและขอเวลาในการสืบสวนใน 1 เดือน หรือถ้ามีหลักฐานเพิ่มเติมจะรู้ผลภายในอาทิตย์เดียว หรืออาจจะเร็วกว่านี้ ซึ่งตอนนี้ตนกังวลใจว่าใครที่ทำร้ายลูกชาย ทางโรงเรียนจะให้น้องเรียนฟรีจำนวนหนึ่งเทอมเพื่อสอบปากคำและหาข้อเท็จจริงแต่ตนก็ไม่สบายใจที่น้องจะต้องกลับไปเรียนที่เดิมอีกครั้ง หลังจากการสอบปากน้องบอกว่าโดนเพื่อนกระทำมา แต่ตนยังไม่ปักใจเชื่ออะไรสักอย่าง และหลักจากนั้น แผลที่หลังน้องเริ่มเห็นชัดขึ้นคาดว่าอาจจะไม่ใช่รอยเด็กที่เล่นกันแต่เหมือนเป็นรอยของผู้ใหญ่ที่มีการลงมือทำร้ายเด็ก ตนเริ่มกลัวและไม่อยากพาลูกกลับไปที่โรงเรียนนี้อีก แต่ครูอยากให้น้องกลับไปเรียนต่อและยื่นข้อเสนอจะให้มีครูเพิ่ม อีก 2 คน และติดกล้องวงจรปิดเพิ่มอีก 1 ตัว
ส่วนตัวแล้วคิดว่าทุกอย่างสายเกินไปแล้วและจะไม่ให้น้องเรียนที่นี่แล้ว เบื้องต้นตนได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ซึ่งพฤติกรรมของลูกชายได้เปลี่ยนไปมาก มีการก้าวร้าวขึ้น และหวาดกลัวไม่กล้าที่จะไปโรงเรียน และมีอาการนอนไม่หลับ เป็นมาแบบนี้ประมาณ 3-4 วันแล้ว ถ้าไม่ได้ดั่งใจจะทุบตีแม่ซึ่งก่อนหน้านี้น้องไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้มาก่อน จึงอยากให้ทางโรงเรียนเร่งหาคำตอบให้ไวที่สุด เพราะคิดว่าจะมีคนกระทำน้องแน่นอน แต่ตนคาดว่าไม่ใช่เด็กที่ทำน้อง เพราะบาดแผลค่อนข้างเยอะ และเหมือนโดนไม้บรรทัดและไม่ใช่รอยข่วนซึ่งวันนี้เข้าวันที่ 4 แล้วแผลยังไม่หายดีเลย