บุรีรัมย์ - แม่โพสต์โวยครูโรงเรียนใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ตบหน้าลูกสาว 7 ขวบ จนแก้มบวมแดง ตาปิด ปวดหัว ต้องส่งรักษา รพ.และเอกซเรย์สมอง เผยเป็นครั้งที่ 2 ลูกถูกกระทำจนลูกไม่อยากไปโรงเรียน ขณะที่ปลัดอำเภอ และ ผอ.โรงเรียนรุดตรวจสอบ ยันพร้อมตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริง
วันนี้ (12 ก.พ.) นายอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้นายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยนายจักรพงษ์ บุราสิทธิ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความเป็นธรรม, ผู้อำนวยการกลุ่มการศึกษา ร่วมกับผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลหนองยายพิมพ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง
หลังจากมีผู้ปกครองรายหนึ่งโพสต์ภาพพร้อมข้อความว่าลูกสาวถูกครูตบหน้า จนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยมีข้อความว่า “ให้โอกาสครูครั้งแรกมากราบขอโทษ แม่ก็ให้อภัยแล้วสัญญาว่าจะไม่ทำอีก แล้วมาขอร้องให้ลูกไปโรงเรียนเพราะเห็นว่าแม่แก่มากแล้วมันลำบากหลายอย่างเลยให้อภัยไป แต่มาวันนี้ยังตบอีกจนรอบนี้เข้าโรงพยาบาลนางรองแล้วต้องไปเอกซเรย์สมองที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์อีก เห็นเป็นคนจนๆ แล้วไม่ช่วยเหลือแล้ว รังแกยังไงก็ได้ ถึงชีวิตแม่คนนี้จะไม่มีเงินทองมากมาย แต่แม่จะช่วยลูกถึงที่สุด...เดี๋ยวจะได้รู้กัน”
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบยังบ้านของผู้ปกครองที่โพสต์ คือ น.ส.แวว (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ให้ข้อมูลว่า ด.ญ.เอ (นามสมมติ) ลูกสาวของตนเองอายุ 7 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลหนองยายพิมพ์ ปัจจุบันอยู่กับยาย ส่วนตนเองไปทำงานที่จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา แม่ได้โทรศัพท์ไปบอกว่าลูกสาวถูกครูที่โรงเรียนตบหน้าอย่างแรงจนหน้าบวมแดง ตาข้างขวาปิด และมีอาการปวดศีรษะ จนต้องนำตัวส่งไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลนางรอง นอนรักษาอยู่ 1 คืน หมอให้ยากลับมาพักฟื้นต่อที่บ้าน ซึ่งตนตกใจและเป็นห่วงลูกมากจึงรีบเดินทางกลับมาที่บ้าน พอมาเห็นสภาพลูกซึ่งยังอยู่ในอาการหวาดกลัว พอสอบถามก็บอกว่าถูกครูตบหน้า ไม่อยากจะไปโรงเรียน
แม่ยังบอกด้วยว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกถูกครูทำร้ายด้วยการใช้มือตบหน้า เพราะเมื่อประมาณวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ลูกสาวถูกครูคนดังกล่าวตบหน้าจนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไร หรืออาจจะเป็นเพราะลูกสาวของตนเป็นเด็กที่พัฒนาการช้าอาจจะทำอะไรไม่ทันเพื่อนอาจทำให้ครูโมโหหรือไม่ เพราะตนไม่อยากคาดคั้นลูกมาก แต่ครูได้มาขอโทษและรับปากว่าจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก ซึ่งตนให้โอกาสและไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราว เพราะตนเองเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนนี้ แต่พอมาเกิดครั้งที่สองซ้ำอีกตนยอมรับว่าเสียใจและสงสารลูกมาก
อย่างไรก็ตาม หลังจากทางปลัดอำเภอ และ ผอ.โรงเรียน ลงมาเยี่ยมน้องที่บ้านและสอบถามรายละเอียดด้วยตัวเอง โดย ผอ.ได้กล่าวขอโทษ พร้อมยืนยันจะตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นและจะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย และรับปากว่าจะไม่ให้เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีก เมื่อทาง ผอ.รับปากด้วยตัวเอง ตนก็จะให้โอกาสทางโรงเรียนอีกครั้งจะยังไม่เอาเรื่องกับครูคนดังกล่าว เพราะยังอยากให้ลูกไปเรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆ และไม่อยากให้เรื่องบานปลาย แต่อยากฝากให้ทางโรงเรียนดูแลลูกให้ดีกว่านี้ อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ไม่อย่างนั้นคงจะไม่ให้อภัยอีกเป็นครั้งที่สามแล้ว
ขณะที่ปลัดอำเภอ และ ผอ.โรงเรียน จะได้นำเรื่องรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นและดำเนินการตามขั้นตอน