ศูนย์ข่าวศรีราชา - “ลุงแป๊ะ” จะไม่ทน เตรียมจัดหนักเพจห้าวเป้ง เกรียนคีย์บอร์ด วิจารณ์การทำงานไร้ข้อมูลแท้จริง ซ้ำใช้คำหยาบ สั่งฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อมูลดำเนินคดีชี้ถึงเวลา “หมาเห่า” ต้องให้ “ฟักร้อน”
จากกรณีเพจ Pattaya Future-พัทยาฟิวเจอร์ ได้โพสต์ข้อความโจมตีการทำงานของนายกเมืองพัทยา เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเนื้อหาบางส่วนมีการระบุข้อเนื้อหาพร้อมตั้งสงสัยว่าเหตุใดชายหาดบางแสนจึงมีผู้คนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก แต่เมืองพัทยากลับไร้ซึ่งนักท่องเที่ยว
ขณะที่ข้อความบางส่วนระบุว่า “สงสัยเหมือนผมมั้ย? ทำไมบางแสนคนไปเที่ยวกันถล่มทลายแต่พัทยาเงียบกริบ มันก็เหมือนอะไร รู้มั้ยครับ? เพราะอันนั้นคือบ้านเค้า ส่วนพัทยามันคือแหล่งโกยเงินของเค้าไม่แปลกที่เค้าจะทำบ้านเค้าให้ดี ไม่แปลกที่เค้าจะโปรโมตบ้านเค้าให้ดี เพราะมันคือ “บ้านของเค้า” ถนนหนทางบ้านเราทำแล้วทำอีก”
และเนื้อหาบางตอนยังเรียกร้องให้ชาวพัทยาตาสว่าง และไม่ควรให้ใครเข้ามาหาผลประโยชน์นั้น
ล่าสุด วันนี้ (23 ก.พ.) นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้ออกมาเปิดเผยว่าหลังจากที่ตนเองได้ตั้งคำถามไปยังเพจดังกล่าวว่า “เอาสมองส่วนไหนคิด” เรื่องการกล่าวโจมตีการทำงานโดยไม่ติดตามข้อมูลที่แท้จริง และยังทำให้เพจ “Pattaya Watchdog” ออกมาต่อคำประโยคดังกล่าวของตนเองว่าการพูดในลักษณะดังกล่าวได้สะท้อนภาวะผู้นำของตนเอง
และยังอ้างว่าเป็นวาจาที่สร้างความเกลียดชังหรือไม่ ซ้ำยังแสดงท่าทางหัวเราะและเยาะเย้ยนั้น
ในส่วนตัวแล้วแม้จะมองว่าเพจเหล่านี้ต่างนำเสนอเรื่องราวในลักษณะที่ไม่สร้างสรรค์มานานแล้ว แต่ได้พยายามนิ่งเฉยเนื่องจากมีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อประชาชนและมองถึงการกระทำของเพจดังกล่าวเป็นเรื่องขำขันและยังได้แจ้งต่อคณะผู้บริหารให้ทุกฝ่ายตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง
นายสนธยา ยังเผยอีกว่า โดยส่วนตัวแล้วคิดเสมอว่า “บางแสนคือบ้านเกิด แต่พัทยาคือบ้านของเรา” ที่ต้องรับผิดชอบและพัฒนาดูแลพี่น้องประชาชนอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมา ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ตลอดระยะเวลา 2 ปี เห็นได้จากผลงานทั้งเรื่องขยะมูลฝอย ตามนโยบาย “สะอาดก่อนสว่าง” หรือด้านสาธารณสุขอย่างโครงการ “หมอถึงบ้าน”
รวมถึงการพัฒนาศูนย์การแพทย์ ศูนย์ไตเทียม ศูนย์ผู้สูงอายุ สาธารณูปโภค การท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม การกีฬา และอื่นๆ อีกมากมาย
และหากผู้ที่ได้ติดตามข้อมูลข่าวสารและข้อเท็จจริงที่ในด้านต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองพัทยาอย่างไม่มีอคติ จะเห็นว่าตนเองได้ทำงานเพื่อบ้านเมืองเป็นหลัก
ดังนั้น การที่เพจ “Pattaya Future” ออกมาโพสต์ข้อความโจมตีการทำงานเชื่อว่าน่าจะมีเรื่องของเกมการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
ขณะที่เพจ “Pattaya Watchdog” ก็มีการระบุข้อความเพิ่มเติมที่มีลักษณะของการจับผิดมาโดยตลอด และล่าสุดยังใช้คำว่า “ด้อยค่า”
"อยากให้เพจดังกล่าวกลับไปดูตัวเองเช่นกันว่าด้อยค่าหรือไม่ เพราะหากมีจุดประสงค์เพื่อบ้านเมืองจริงก็ควรให้ความเป็นธรรมกับคนทำงานและเข้ามาร่วมมือกันในการพัฒนา ซึ่งส่วนตัวแล้วหากมีข้อสงสัยใดๆ ที่สามารถสื่อสารได้ทุกช่องทาง ก็ยินดีที่จะเปิดรับการสื่อสารกันแบบตรงไปตรงมา ทั้งการเข้ามาพบปะพูดคุย นำเสนอ หรือมาร่วมทำงานก็เป็นเรื่องยินดี"
นายสนธยา ยังเผยเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการวิพากษ์วิจารณ์ของทั้ง 2 เพจถือเป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ แต่โดยส่วนตัวแล้วตนเองมีสิทธิที่จะชี้แจงและดำเนินการในบางกรณีเช่นกัน
“อยากขอบคุณทุกคอมเมนต์จากเพจต่างๆ และประชาชนที่นำเสนอข้อมูลเรื่องสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในเมืองพัทยา ส่วนที่มีการกล่าวหานั้น ที่ผ่านมา ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะอยากจะตั้งใจทำงานมากกว่า ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นเรื่องตลก เหมือนเสียง “หมาเห่า” แต่คงถึงเวลาที่ต้องเอา “ฟักร้อน” ต้มให้กินแล้ว และขณะนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เตรียมรวบรวมข้อมูลเอกสารเพื่อดำเนินคดีในส่วนของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แล้วเช่นกัน”
พร้อมยังฝากไปยังผู้ที่เข้ามาโพสต์ข้อความหรือแสดงความคิดเห็นในเพจบางเพจ รวมถึงเหล่า “เกรียนคีย์บอร์ด” ว่าสุดท้ายแล้วหากพบการกระทำผิดหรือละเมิดตนเองก็คงต้องแจ้งให้ทราบว่าผู้กระทำก็จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่โพสต์ หรือคอมเมนต์ด้วยเช่นกันว่าสิ่งใดควรทำ และสิ่งใดไม่ควรทำ