xs
xsm
sm
md
lg

“ครูตั้น” เผยตั้ง “เลขาฯ สกสค.” ถูกตามขั้นตอน ย้ำ “ศธ.ยุคนี้” มุ่งสร้างผลประโยชน์สู่ครู-บุคลากรทางการศึกษา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“รมว.ศธ.” เผย แต่งตั้ง เลขาฯ สกสค.ผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง พร้อมย้ำเกณฑ์การคัดสรรบุคลากร เน้นผลลัพธ์งาน-การแก้ไขปัญหา ที่สำคัญ ศธ. วันนี้ไร้การแสวงหาผลประโยชน์ จะมีเพียงผลประโยชน์ของ “ครู-บุคลากรทางการศึกษา”

วันนี้ (19 ก.พ.) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงกรณีที่ถูกอภิปรายการแต่งตั้ง นายธนพร สมศรี เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการ และสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่า สำหรับเรื่องการแต่งตั้ง นายธนพร นั้น ตนมั่นใจผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง

นอกจากนี้ ด้านผลงานของ นายธนพร นั้น ก็เป็นที่ประจักษ์มาแล้ว นับตั้งแต่ นายธนพร ได้เข้ามาดำรงตำแหน่ง รองเลขา สกสค. ซึ่งในขณะนั้นมาพร้อมกับ ดร.ดิศกุล เกษมสวัสดิ์ ที่มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การค้า และผู้อำนวยการ สกสค. โดยมีการทำหน้าที่ในภารกิจที่สำคัญๆ มาแล้วหลายๆ เรื่อง โดยตนมั่นใจในเรื่องของความโปร่งใส และไม่มีการแสวงหาผลประโยชน์แน่นอน

นายณัฏฐพล บอกด้วยว่า การที่มีผู้มาอภิปรายตนในเรื่องดังกล่าว ผู้อภิปรายรายนี้ ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์ และไม่สามารถโยงมาถึงเรื่องการทุจริตของตนในเรื่องใดๆ เลย ซึ่งเรื่องนี้ตนมีแนวทางชัดเจน

“ส่วนการคัดสรรคนมาร่วมงาน ผมเน้นคนที่มีความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ เน้นที่ผลงาน และต้องมีความสามารถในการแก้ไขปัญหา กระทรวงศึกษาธิการเป็นองค์กรที่ผมกำกับดูแลอยู่ โดยตัวผมเองก็ต้องไว้วางใจทุกๆ คนเช่นกัน” นายณัฏฐพล กล่าว

ขณะเดียวกัน นายณัฏฐพล กล่าวอีกว่า ส่วนท่าน ส.ส.ผู้ที่อภิปรายตนเอง แม้ว่าท่านจะจบการศึกษาด้านวิศวะ แต่ในอดีตท่านก็เคยนั่งบริหารงานในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดังนั้น ประเด็นนี้ ตนคิดว่า ขึ้นอยู่กับมุมมอง โอกาส ความตั้งใจ และความเข้าใจของแต่ละคน

“ดังนัน ผมคิดว่าวันนี้ตำแหน่ง เลขาฯ สกสค. ของคุณธนพร ต้องรับว่า คุณธนพร มีความเข้าใจปัญหาขององค์กรนี้อยู่มาก และสิ่งสำคัญเขาได้ติดตามเรื่องการทุจริตต่างๆ ที่เกิดขึ้นใน สกสค. มาอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงที่ผ่านมา และในวันนี้ผมเอง ก็ติดตามเรื่องนี้อย่างเข้มข้น” นายณัฏฐพล กล่าว

นอกจากนี้ เขายังย้ำด้วยว่า ตนในฐานะประธานบอร์ด สกสค. และตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่บอกว่า “เรื่องที่ค้างคาอยู่ ต้องได้รับการแก้ไข และต้องหาคำตอบให้ได้ เราไม่ปล่อยเรื่องนี้ให้ค้างคาแน่” แต่ก็ต้องยอมรับว่าในบางเรื่องอาจจะต้องใช้เวลานานกว่าอีกเรื่อง เนื่องจากมีความซับซ้อนมากกว่า เพราะบางเรื่องในอดีตอาจจะไม่ได้ใส่ใจ จึงทำให้เกิดความเสี่ยงในการขาดอายุความ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ นายธนพร ก็ได้เข้ามาแก้ไขปัญหา

ส่วนกรณีที่มีการอภิปรายเรื่องการแต่งตั้ง ผู้อำนวยการ สกสค. ทั้ง 64 จังหวัดนั้น เกี่ยวกับประเด็นนี้ นายณัฏฐพล กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเองได้ชี้แจงในสภาไว้อย่างชัดเจนว่า ไม่ได้เป็นโมเดลบุรีรัมย์อย่างที่เห็น โดยตนเองก็มีรายละเอียดที่ชัดเจนอยู่ เพราะมีบุคคลหลากหลายจากทุกจังหวัด และทำหน้าที่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศเช่นกัน ถ้าคนที่คุ้นเคยกับกระทรวงศึกษาธิการ ก็จะเข้าใจดีถึงการทำงานในองค์กรนี้ และยังสามารถทำงานในจังหวัดที่ไม่ใช่ภูมิเนาตัวเองได้

นายณัฏฐพล ย้ำด้วยว่า จากนี้ไป คนที่เคยได้ผลประโยชน์จากกระทรวงศึกษาธิการ วันนี้เรื่องแบบนี้จะไม่มีแล้ว เพราะวันนี้ผลประโยชน์ในกระทรวงศึกษาธิการ จะมีให้เฉพาะแต่ผลประโยชน์ของครู และบุคลากรทางการศึกษาเท่านั้น

“ผมมั่นใจในแนวทางการแก้ปัญหาภาระของครู และบุคลากรทางการศึกษา เพราะเมื่อวานนี้ (18 ก.พ.) ผมไม่มีโอกาสได้พูดถึงเรื่องนี้เต็มที่นัก แต่ผมบอกได้เลยว่า สำหรับปัญหาของครูในเรื่องต่างๆ ผมยืนยันว่า เรากำลังเข้าสู่กระบวนการทำให้ครู และบุคลากรทางการศึกษาต้องดีขึ้น ทั้งเรื่องขบวนการทำงาน และสภาพจิตใจ”

นายณัฏฐพล บอกว่า สิ่งนี้ถือเป็นองค์ประกอบในภาพรวม จึงต้องมีแผนการบูรณาการการศึกษา ที่ต้องมีความร่วมมือกันกับทุกภาคส่วนในกระทรวงศึกษาธิการ โดยเราจะขับเคลื่อนกระทรวงศึกษาธิการเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ทำไม่ได้ หากยังมีคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย แต่ในวันนี้คนส่วนใหญ่ได้เดินไปในทิศทางเดียวกันแล้ว และตนก็มีความมั่นใจในแนวทางการแก้ไขปัญหาส่วนนี้

ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่มีการหยิบยกขึ้นมาอภิปรายนั้น ทั้งในเรื่องการคุกคาม หรือปัญหาต่างๆ ของนักเรียน นายณัฏฐพล ยอมรับว่า ปัญหาการถูกคุกคามของเด็กนักเรียน ยังคงเกิดขึ้นอยู่ในกระทรวงศึกษาธิการ และยังเกิดกับสถานศึกษาในทุกประเทศทั่วโลก แต่ตนไม่เคยหลบปัญหาในส่วนนี้ แต่ได้พยายามหาแนวทางและมาตรการในการป้องกัน ปราบปรามเรื่องคุกความเหล่านี้

“ซึ่งในวันนี้ (19 ก.พ.) ก็ยังเกิดขึ้นอยู่ โดยผมเองได้รับแจ้งเรื่องนี้ และเห็นเอกสารแล้ว ผมก็สามารถตัดสินใจได้ภายในวันเดียว ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับครูมีสัมพันธ์กับเด็กในเบื้องต้นอาจจะมีการขอแลกเกรด เรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นในกระทรวงศึกษาธิการไม่ได้ แต่ยังเกิดขึ้นอยู่ โดยต้องยอมรับว่า ในทุกองค์กรมีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่เราต้องหาทางขจัด และหาทางป้องกันคนดีให้อยูในสังคมได้ และขจัดคนไม่ดีออกจากองค์กรนี้ไป โดยกรณีนี้ ครูคนนี้ถูกให้ไปช่วยงานในเขตพื้นที่ และผมได้เร่งรัดในขบวนการสืบสวนสอบสวนให้รวดเร็ว และรอบครอบ” นายณัฏฐพล กล่าว

นายณัฏฐพล บอกด้วยว่า สำหรับคนเป็นครูไม่ว่าจะมองว่าเด็กคิดอะไร ครูต้องมีหน้าที่ชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องให้เด็ก และเยาวชนของประเทศ เพราะเขายังไม่มีประสบการณ์มากพอ

“นี่คือการบูรณาการศึกษา วันนี้โลกเปลี่ยนไป การที่เราจะพัฒนาบุคลากรในกระทรวงศึกษาฯ พวกเราต้องมีความเข้าใจตรงกันในแนวทางของการศีลธรรมและจริยธรรม โดยเฉพาะในส่วนของครูและผู้บริหาร การศึกษาเราเรียกว่า ต้องมีความอดกลั้นในเรื่องของกิเลสในเรื่องอื่นๆ”

ส่วนเรื่องอาหารกลางวัน นายณัฏฐพล กล่าวว่า ตนเองมีความชัดเจน เพราะเราไม่ได้ขยับขึ้น 1 บาท โดยเราได้คำนึงถึงโรงเรียนขนาดเล็ก แต่เข้าไปเกี่ยวกับแผนการบูรณาการของประเทศ หากเราเห็นภาพชัดและมีดาต้าที่ชัดเจน จะสามารถจัดสรรงบประมาณตามความเหมาะสมในเรื่องของอาหารกลางวันได้แน่นอน ซึ่งประเด็นนี้ ตนยืนยันว่า ต้องจัดสรรเป็นขั้นบันได แต่เรื่องนี้ยังพอรอได้ เพราะสามารถขยับขึ้นในงบปี 2565 ได้

นายณัฏฐพล กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า กรณีที่มีการคอมเม้นท์ในเพจในเชิงไม่สร้างสรรค์นั้น นี่คือ การสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในเมืองไทย การสร้างความเกลียดชัง เป็นเรื่องของวิจารณญาณ เพราะมีความต้องการให้ข้อมูลแก่น้องๆ ในเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์


กำลังโหลดความคิดเห็น