สุรินทร์ - “ไทด์ เอกพันธ์” เปิดใจหนุน “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” แฝดพี่ปกป้องสถาบันฯ เต็มตัว เผยถึงยื่นหนังสือลาออกจากมูลนิธิร่วมกตัญญูก็ไม่มีใครให้ออก ยันบิณฑ์เป็นลูกผู้ชายแสดงความรับผิดชอบออกไปเพื่อทำหน้าที่ในนาม “นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” พร้อมชวนคนไทยร่วมแสดงพลัง 1 พ.ย. แย้มเตรียมรุกจัดโครงการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
วันนี้ (28 ต.ค.) ที่วัดโพธิ์ศรีวิเวก บ้านปะ ต.จอมพระ อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดงชื่อดัง พร้อมด้วยเลขาฯ มูลนิธิร่วมกตัญญู กรุงเทพฯ และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู และเครือข่ายอาสากู้ภัยในพื้นที่ ได้เดินทางมาร่วมทอดกฐินสามัคคีเพื่อสมทบทุนสร้างพระอุโบสถที่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ โดยมี นางรัตนา สมสกุลรุ่งเรือง ประธานมูลนิธิร่วมกตัญญู เป็นเจ้าภาพอุปถัมภ์ ท่ามกลางประชาชนในพื้นที่ที่เดินทางมาร่วมแห่กฐินสามัคคีนับพันคน และมีการเต้นรำกันอย่างสนุกสนานพร้อมกับขบวนกลองยาวแห่รอบพระอุโบสถ 3 รอบ ขณะที่ ยาว ลูกหยี ดาราตลก ก็มาร่วมแห่กฐินในครั้งนี้ด้วย พร้อมกับร่วมเต้นรำกับชาวบ้านอย่างสนุกสนาน
ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดงชื่อดัง เปิดเผยถึงกรณีที่ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ลาออกจากมูลนิธิร่วมกตัญญูตามที่เป็นข่าว ว่า ตนยังทำงานอยู่กับมูลนิธิร่วมกตัญญูเหมือนเดิม เพราะตนเป็นหัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคล ส่วนคุณบิณฑ์ เขามีจุดยืนของเขาคือประกาศอย่างเต็มตัวว่าเขาจะปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พวกเราก็เหมือนกัน ตนก็เหมือนกัน ปกป้องพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว เพราะเราเป็นคนไทย แต่บิณฑ์เขาไม่อยากให้มูลนิธิฯ ได้รับผลกระทบจากการที่เขาพูดอะไรไปโดยที่อาจจะไม่ตรงกับคนที่เขาคิดต่างกับเรา เขาก็เลยมีสปิริตแสดงจุดยืนของเขา คือขอลาออกจากการเป็นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู แล้วจะกลับมาเป็นอาสาสมัครอีกเหมือนเดิมหรือเปล่านั้นเป็นเรื่องของอนาคตต่อไป
หากทุกอย่างสงบเรียบร้อย บ้านเมืองมีความสุขร่มเย็นเหมือนเดิม เขาอาจจะเดินเข้ามาสมัครเป็นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเหมือนเดิมก็ได้ พวกเราพร้อมที่จะอ้าแขนรับเขากลับมาอยู่แล้ว โดยเฉพาะท่านประธานมูลนิธิร่วมกตัญญู คนที่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิร่วมกตัญญู ถ้าเกิดว่าเขามาทำหนังสือขอลาออก ไม่มีใครให้เขาออกอยู่แล้ว แต่ด้วยความเป็นลูกผู้ชายของเขา เขาขอลาออกเพื่อจะไปต่อสู้ให้เต็มตัว โดยที่ไม่มีคำว่าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู แต่เป็น “นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” คนเดียว ที่จะไปปกป้องพระมหากษัตริย์
ส่วนกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 พ.ย. 63 ที่วัดพระแก้วนั้น ตนคิดว่าสมควรและถึงเวลาแล้วที่คนไทยทุกคนที่อาศัยในผืนแผ่นดินที่มีจุดยืน หรือศูนย์รวมจิตใจของเราคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 3 อย่างนี้ที่คนไทยเราจะขาดไม่ได้ ที่ได้อยู่บนผืนแผ่นดินนี้อย่างมีความสุข ทำมาหากิน ค้าขายกัน คนไทยไม่มีภัยพิบัติต่างๆ ที่รุนแรงเหมือนประเทศอื่นๆ อย่างเช่นโควิด-19 ที่ผ่านมาเมืองไทยก็รอดพ้น อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุขเพราะอะไร ไม่ใช่เพราะบุญบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์หรือที่คอยปกป้องพวกเรา
ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะต้องออกมาแสดงความกตัญญูต่อผืนแผ่นดินไทย ปกป้องพุทธศาสนา ปกป้องพระมหากษัตริย์ คุณจะเรียกร้องรัฐธรรมนูญ จะเรียกร้องประชาธิปไตย มีข้อโน้นข้อนี้ ตนไม่ได้ห้าม พวกเราไม่ได้ห้าม แต่ขออย่างเดียวให้ออกมาปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ นี่เป็นสิ่งที่เหยียบย่ำหัวใจคนไทยไม่ได้ วันที่ 1 พ.ย. ตนขอให้ทุกคนไปร่วมใจกันที่ท้องสนามหลวงหรือวัดพระแก้ว
ตอนนี้โครงการรับบริจาคต่างๆ ไม่มี เพราะเราไม่มีโครงการที่จะเดินไปแจกของอะไรต่างๆ ไม่มีแล้ว ตอนนี้เป็นเรื่องของการรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อย่างเดียว อาจจะมีอีกโครงการหนึ่ง ถ้าหากว่าที่ท้องสนามหลวงหรือที่วัดพระแก้วประสบความสำเร็จ คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กับตนจะไปทุกจังหวัด อยากให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนตามจังหวัดต่างๆ ออกมาแสดงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เริ่มจากจังหวัดไหน ไล่กันสัปดาห์ละ 1 จังหวัด เราจะทำทุกวันอาทิตย์ เช่นสัปดาห์หน้าเราจะไป จ.อุบลราชธานี เปิดเลย คนทั้งจังหวดอุบลราชธานีใครที่จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ใส่เสื้อเหลืองมารวมกันทั้งจังหวัด พ่อค้าแม่ค้าคนไหนไม่ต้องขาย วันนั้นเปิดให้กินฟรี ถึงเวลา 6 โมงเย็น ร้องเพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมีแล้วก็ส่งเสียงกึกก้องทั่วฟ้าเมืองไทยคือ “ทรงพระเจริญ” นี่คือกิจกรรมที่วางไว้
“ส่วนวันนี้มูลนิธิร่วมกตัญญูจะรับเป็นเจ้าภาพกฐิน ปีละ 10 กว่าวัด ส่วนปีนี้ทอดกฐิน 9 วัด บางทีรับเป็นกฐินหลวงบ้างอะไรบ้างต่างๆ นานา โดยเฉพาะวัดไหนที่อยากจะมีปัจจัยสร้างโบสถ์สร้างวิหาร อย่างเช่นที่วัดแห่งนี้ที่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ โบสถ์ที่นี่มูลนิธิร่วมกตัญญูมาสร้างเอาไว้ให้ สร้างพระประธานให้ด้วย แล้วที่ใกล้จะเสร็จนี้ทางมูลนิธิก็จะจัดการสร้างให้เสร็จ” ไทด์ เอกพันธ์ กล่าวในตอนท้าย