“บิณฑ์” ลาออกจากร่วมกตัญญู หลังโดนสาวกชู 3 นิ้ว รุมด่า ทวงบุญคุณเงินบริจาค

“บิณฑ์” ประกาศลาออกจาก “มูลนิธิร่วมกตัญญู” แล้ว หลังโดนสาวกชู 3 นิ้ว รุมด่า ทวงบุญคุณเงินบริจาค โวยไม่ได้ชาติชั่วจะตบหน้าเด็กชู 3 นิ้ว ซัดคนโยงเรื่องนี้หน้าตัวเมีย ประกาศขอสู้พร้อมจัดการกับพวกที่คิดทำลายสถาบัน ใครไม่อยากติดตามเลิกศรัทธาก็ออกไป ขอแค่คนรักสถาบันก็พอ

โดยรุมวิจารณ์หนักอีกรายสำหรับ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์”ที่ออกมาพูดถึงเรื่องราวที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงชูนิ้วกลาง ขณะที่ขบวนเสด็จผ่านกลุ่มผู้ชุมนุม ว่าถ้าเห็นจะตบให้ สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วน ถึงขึ้นออกมาทวงเงินที่เคยร่วมบริจาคช่วยเหลือมูลนิธิไป บ่ายวันนี้ (26 ต.ค.) บิณฑ์ได้ไลฟ์เฟซบุ๊ก เล่าเรื่องราวที่อัดอั้นตันใจ ยันไม่เคยต่อว่าเด็กที่ออกมาชู 3 นิ้วเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ถ้ามีใครทำร้ายสถาบันให้เห็นต่อหน้าต่างหากที่ตนจะตบให้

“สวัสดีครับเพื่อนๆ ที่อยู่หน้าแฟนเพจของผม วันนี้ผมมาช่วยเคสที่อยู่แถวอยุธยา ตอนนี้ช่วยเคสเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็อยากจะมาคุยเรื่องประเด็นที่หาว่าคนอย่างผม จะไปตบเด็กที่ชู 3 นิ้ว ผมไม่มีความคิดอุบาทว์ ชาติชั่วแบบนั้นหรอกครับ ที่ผมบอกว่าถ้าผมเจอต่อหน้า ใครที่ยกนิ้วกลาง ไอ้คนที่ยกนิ้วกลางให้ขบวนเสด็จนั่นแหละ ผมจะตบจริงๆ

ถ้าเป็นรถพ่อแม่คุณขับมา มีคนยกนิ้วกลางให้ คุณจะทำยังไง ผมโมโห ผมเห็นภาพแล้วมันโมโห เด็กไม่เกี่ยวกับผม เด็กจะชู 3 นิ้วหรือกี่นิ้วไม่เกี่ยวกับผม เขามาเรียกร้องประชาธิปไตย มาเรียกร้องอนาคตของเขา อันนั้นเรื่องของเขา ผมไม่เคยไปชุมนุมกับม็อบ ตั้งแต่เสื้อเหลือง เสื้อแดง ม็อบสมัยไหนผมไม่เคยไปยุ่ง ไม่เคยขึ้นเวที ผมมีเวทีเดียวคือเวทีพระมหากษัตริย์ อย่ามายุ่งกับผม คนที่โยงเรื่องที่ผมจะตบเด็กมารวมกับเรื่องชู 3 นิ้ว อย่าหน้าตัวเมีย เอาความจริงที่ข่าวเขาเขียนกัน

ผมบอกแล้วว่าถ้าผมอยู่ในเหตุการณ์ ถ้าใครชูนิ้วเดียววันนั้นตรงขบวนเสด็จ ผมจะตบ ผมยอมติดคุก คนที่ฉีกพระบรมฉายาลักษณ์ เอารูปในหลวงไปแปะ ไปเขียนคำหยาบคาย พูดจาดูถูกดูหมิ่นหยาบคายนั้นแหละที่ผมจะทำ ไม่เกี่ยวกับเด็กชู 3 นิ้ว อันนั้นผมสนับสนุนเลยครับ ถ้าทำแล้วมันเกิดอนาคตที่ดีกับประเทศชาติ เพื่อส่วนรวม ผมยินดี”

เล่า “ร่วมกตัญญู ”โทร.มาขอร้องไม่ให้ยุ่งเกี่ยว ซึ่งตนทำไม่ได้เพราะตนรักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
“ทุกวันนี้เราต้องรับรู้สิครับว่าสิ่งหนึ่งที่คนไทยมารวมกันอยู่ได้เป็นปึกแผ่น สามัคคีกัน ไม่ใช่เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์เหรอครับ คุณมีชาติ คุณต้องมีศาสนาและพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่คุณจะมาเอาพระมหากษัตริย์ออกแล้วคุณจะมาเอาประธานาธิบดี อันนั้นเพ้อเจ้อครับ

แล้วอีกอย่างที่ผมไม่สบายใจในตอนนี้เอามากๆ องค์กรของผมมูลนิธิร่วมกตัญญูโทร.มามากมายเหลือเกินว่าอย่า ไม่ต้องเข้าไปยุ่ง ผมบอกตรงๆ ผมรัก ผมเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์(เสียงสั่น) ถ้าไม่ให้ผมไปยุ่ง ไม่ให้ผมไปขัดขวางสิ่งชั่วร้าย พวกที่มันจะทำลายสถาบัน ผมอยากจะสู้เพื่อประเทศ กับร่วมกตัญญูผมทำมา 34 ปี ทั้งชีวิตของผม ตอนนี้มีคนมาบอกหาว่าทุกบาททุกสตางค์ของคนที่ช่วยมาเพราะคนนี้นั้น ผมว่าไม่จริง อย่ามาอ้าง คนดีๆ เขาช่วยผม คนเลวๆ ไม่มาช่วยผมหรอก ยิ่งพวกที่คิดลบล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมรู้ว่าพวกนั้นไม่เคยมาช่วยอะไรผมหรอก มีแต่ชาวบ้านที่ช่วยผม ฉะนั้นอย่ามาอ้างว่าอุตส่าห์ช่วยเงินน้ำท่วม อุตส่าห์ช่วยนั้นช่วยนี้ อย่ามาอ้าง ถ้าช่วยก็คือต้องช่วยกันต่อไป”

ประกาศลาออกจากมูลนิธิ “ร่วมกตัญญู” ขอเป็นนาย “บิณฑ์” ธรรมดาที่ยังเดินหน้าช่วยเหลือสังคมอยู่ และขอออกมาต่อต้านคนที่คิดร้ายต่อสถาบัน ถามจะปล่อยให้มันทำแบบนี้ต่อไปเหรอ
“ผมต้องขอโทษมูลนิธิด้วย วันนี้เพื่อความสบายใจผมขอลาออกจากมูลนิธิตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะได้ไม่ต้องมาเป็นกังวลเรื่องผมว่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องสถาบัน แล้วทำให้คนต่อว่ามูลนิธิ ไม่เป็นไรครับ (ถอดชุด) ผมจะใช้เป็นนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ซึ่งไม่มีมูลนิธิร่วมกตัญญู ผมต้องขอโทษ เพราะผมต้องทำ ทุกวันนี้มันมาถึงที่สุดแล้ว มันหนักกว่าทุกๆ ครั้งที่ผ่านๆ มาเกี่ยวกับสถาบัน ต่อจากนี้ผมจะขอสู้ด้วยตัวผมเอง

และทุกเคสที่รอการช่วยเหลือจากผมอยู่ผมก็จะช่วย แต่ไปในนามของบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เรื่องนี้ผมทำผิดอะไร ผมออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมทำมากี่ปีแล้ว (ร้องไห้) ตั้งแต่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ อยู่ ผมก็ออกมาต่อต้าน ทำไมต้องหาว่าผมเป็นคนที่ออกมาต่อว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ คุณจะปล่อยให้มันทำแบบนี้ต่อไปเหรอ

เตรียมเดินหน้าต่อสู้เพื่อสถาบัน ถามต่อวันนี้จะไปชุมนุมกันที่สถานทูตเยอรมันเพื่ออะไร ลั่นถึงเวลาแล้วที่ต้องทำให้ทุกอย่างชัดเจน
“ตอนนี้ผมเป็นคนธรรมดาแล้วนะครับ ไม่ใช่คนของมูลนิธิร่วมกตัญญู แล้ววันนี้พวกคุณจะไปสถานทูตเยอรมันเพื่ออะไรผมถามหน่อย ผมถามหน่อย (เน้นเสียง) ผมนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผมยอมที่จะต่อสู้เพื่อสถาบัน เพื่อคนไทยที่รักพระมหากษัตริย์ โอ้โห พอผมลุกขึ้นมา พวกล้างสถาบันก็มาอ้างนั้นอ้างนี่ อ้างตลอด ไม่มีการฟังเหตุผลด้วยว่าเพราะอะไร นิสัยผมไม่มีหรอกครับ ทำร้ายเด็ก คนแก่ นินทาคน ด่าคนไม่มี ผมมั่นใจ

วันนี้มันอัดอั้นมาก ผมต้องขอโทษท่านประธานมูลนิธิ (ยกมือไหว้) และอาสาสมัคร น้องๆ ทุกคนที่เคยร่วมทำงานกันมาหลายสิบปี (เสียงเครือ) แต่ยังไงผมก็ยังจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอยู่ แต่ไม่ได้ไปในนามของมูลนิธิร่วมกตัญูญู คือผมว่ามันต้องมีจุดยืนกับตัวเอง ถามว่าทุกวันนี้ผมอยู่สบายไหม ผมอยู่สบาย แต่ผมไม่มีความสุข ถ้ายังเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับบ้านเมือง ผมเชื่อหลายๆ คนก็ไม่มีความสุข ถึงเวลาแล้วครับที่เราจะต้องให้ชัดเจนครับ อย่าให้พวกมันฮึกเหิม ใครออกมาต้องกลัวมัน ไปด่า ไปตามราวีเขา ไอ้คนพวกนี้เราต้องจัดการมัน”

เชื่อเด็กๆ ที่ไปชุมนุมหลายคนไม่รู้เรื่องล้มล้างสถาบัน ตอนนี้ตนยอมไม่ได้แล้ว ขอเดินหน้าทำสิ่งที่ถูกต้อง จะไม่ปล่อยให้ใครมาทำอะไรสถาบันพระมหากษตริย์ได้
“ผมว่าเด็กหลายๆ คนไม่รู้เรื่องตรงนี้ (ถอนหายใจ) ทุกวันนี้ผมไม่มีอะไรมากมาย ผมมีแม่ มีพี่น้อง ครอบครัว มีมูลนิธิร่วมกตัญญู มีสถาบันพระมหากษัตริย์ เอาเป็นว่าผมจะไม่ปล่อยให้พวกชาติชั่วมาทำอะไรสถาบันพระมหากษตริย์ได้ ผมจะสู้ 30 กว่าปีที่ผ่านมา ผมทำคุณค่า มีประโยชน์ให้กับสังคม ให้กับประเทศชาติมากมาย ถึงแม้ชีวิตนี้ผมจะต้องเป็นอะไรไป ผมก็รู้สึกภูมิใจมาก
ต้องขอโทษนะครับเพื่อนๆ วันนี้ผมต้องประกาศแล้วว่าผมยอมไม่ได้ และผมต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าตราบใดที่ผมยังอยู่ในนามของมูลนิธิร่วมกตัญญูผมคงจะทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ เพราะต้องนึกถึงองค์กรที่เป็นองค์กรส่วนรวม วันนี้ผมต้องแยกออกมา ขอบคุณมากครับทุกกำลังใจ ผมรู้ว่ามีหลายคนร่วมต่อสู้เคียงข้างไปกับผม แล้ววันนั้นเราจะออกมารวมพลังให้ทุกคนเห็นว่าพวกเรายังต้องการสถาบันพระมหากษัตริย์”

ตนเลือกแล้วขอสู้เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ หากใครไม่พอใจรีบเลิกติดตามตนได้เลย ย้ำชู 3 นิ้วไม่ว่า ชูนิ้วเดียวเมื่อไหร่ได้เห็นดีกัน
“ใครที่เคยติดตามแฟนเพจผม เป็นเพื่อนกับผม ใครที่ไม่พอใจก็รีบลบเลยครับ เชิญ ผมไม่ว่าอะไร ใครจะไม่นับถือผม ไม่ศรัทธาในตัวผม ออกไปเลยครับ ผมต้องการคนจริงใจ ผมต้องการคนที่รักพระเจ้าอยู่หัว คนที่รักสถาบัน กล้าที่จะออกมาปกป้อง อย่าไปกลัวคนพวกนี้ ผมขอโทษที่วันนี้ผมพูดจาหยาบคายเกินไป เข้าใจนะครับ ชู 3 นิ้วผมไม่ว่า ผมไม่เคยมีอคติกับเด็กๆ พวกนี้ แต่ถ้าชูนิ้วเดียวเมื่อไหร่ ก็ต้องเห็นดีกัน (ถอนหายใจ) ขอบคุณครับ ผมจะสู้”