สุโขทัย - แม่ทัพภาคที่ 3 นั่งหัวโต๊ะบูรณาการกำลังเร่งฟื้นฟูเหยื่อน้ำท่วมสุโขทัย ขณะที่น้ำยมลดระดับแต่น้ำป่าระลอกใหม่อาจทะลักอีกไม่กี่วันนี้ รองผู้ว่าฯ เผยน้ำไหลบ่าเร็วเกินคาดจนพนังสร้างไม่ทันเสร็จโดนซัดพังก่อน
วันนี้ (27 ส.ค.) พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้เดินทางไปเป็นประธานการประชุมสั่งการสถานการณ์น้ำท่วมที่ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย โดยมีตัวแทนหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม เช่น มหาดไทย ชลประทาน สาธารณสุข ฯลฯ และสั่งการให้ พลตรี กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ ผู้บัญชาการช่วยรบที่ 3 ขึ้นบินสำรวจสภาพน้ำท่วม จ.สุโขทัย และแม่น้ำยมสายเก่า อ.พรหมพิราม-อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก
ณ ขณะนี้พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำยมเริ่มลดลง แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นในวงกว้าง 3 อำเภอ คือ อ.เมืองสุโขทัย อ.ศรีสำโรง และ อ.สวรรคโลก เพิ่มเป็น 19 ตำบล 90 หมู่บ้าน มีประชาชนเดือดร้อนกว่า 16,500 คน หรือกว่า 5,700 ครัวเรือน
สำหรับระดับน้ำยมบริเวณหมู่ 1 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย (จุดพนังกั้นน้ำพัง) ลดลง 30 เซนติเมตร แต่มวลน้ำยังคงไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน จึงสั่งการให้ทหารเร่งช่วยเหลือและฟื้นฟู โดยล้างทำความสะอาดบ้านเรือนของประชาชนที่ถูกน้ำท่วม
แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุพนังแตก ทหารจากกองทัพภาคที่ 3 ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือเฉพาะหน้าและเฝ้าประตูน้ำทั้ง 26 บาน รวมทั้งได้สนธิกำลังศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบัญชาการช่วยรบที่ 3, ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพลทหารราบที่ 4, ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพลพัฒนาที่ 3 จัดกำลังพล 366 นาย รถ 52 คัน รถครัวสนาม 1 คัน และเรืออีก 15 ลำ เข้าช่วยเหลือประชาชนกระจายคนไปทำความสะอาดล้างดินโคลนที่เข้าบ้านเรือนประชาชน พร้อมจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ตรวจสุขภาพให้แก่ประชาชน
“ณ วันนี้น้ำเริ่มลดระดับลงแล้ว แต่คาดว่าเร็วๆ นี้น้ำป่าจะมาอีก ซึ่งทางชลประทานก็บอกว่าสามารถรับน้ำได้”
นายพูลทรัพย์ สมบูรณ์ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เปิดเผยว่า เรื่องพนังพังที่ปากแควนั้นเป็นโครงสร้างชั่วคราว ใช้งบประมาณราว 180 ล้านบาท สร้างตามแนวตลิ่งระยะทาง 1,300 เมตร โดยผู้รับเหมาสร้างยังไม่ทันเสร็จ คงเหลืองานค้างอยู่ประมาณ 40-50 เมตร ซึ่งจริงๆ ผู้รับเหมาประเมินว่าอีก 1 สัปดาห์จะดำเนินการแล้วเสร็จ แต่บังเอิญน้ำป่าไหลบ่ามาเร็วกว่าที่คาด แรงน้ำจึงซัดพนังพังเสียก่อน แต่ไม่มีปัญหาทางจังหวัดจะดำเนินการดูแลต่อโดยเฉพาะบ้านที่พังอยู่ริมแม่น้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้กำลังทหารกองทัพภาคที่ 3 ได้ระดมความช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเฉพาะจุดพนังกั้นน้ำที่พังเสียหาย พื้นที่หมู่ 1 ต.ปากแคว จนน้ำยมไหลทะลักท่วมบ้านเรือนที่อยู่ริมตลิ่งและพื้นที่ต่ำ ซึ่งหลังน้ำลดลงใต้ถุนบ้านเต็มไปด้วยโคลนเลน โดยเร่งกวาด-ล้างบ้านเรือน ขนย้ายข้าวของให้ชาวบ้านอย่างเต็มกำลังเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับเป็นปกติโดยเร็วที่สุด
นางสาวสุกัญญา ธรรมราช อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 56 หมู่ 1 ต.ปากแคว อ.เมือง จ สุโขทัย เปิดเผยว่า ช่วงที่เกิดเหตุพนังแตกนั้นตนได้ไลฟ์สดเผยแพร่ทางโซเชียลฯ ว่าไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแล โดยเฉพาะทหารและ ตชด. เพราะหลังจากพนังแตก-น้ำท่วมบ้านเป็นวันที่สอง จนไม่มีข้าว ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ แบตเตอรี่มือถือเหลือเล็กน้อย จึงได้ไลฟ์สดขอความช่วยเหลือ เพราะไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาจริงๆ บ้านถูกน้ำหลากแทบจะพัง กระทั่งวันนี้ทหารและ ตชด.ได้ลงมาช่วยก็ต้องขอขอบคุณจริงๆ