รองโฆษก ทบ.เผย “ประยุทธ์” ห่วงสถานการณ์พายุโซนร้อนซินลากู ทบ.ระดมช่วยน้ำท่วมเหนือ-อีสานทันที เร่งฟื้นฟูพื้นที่ควบคู่เตรียมรับผลกระทบระลอกสองซินลากู
วันนี้ (3 ส.ค.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า จากสถานการณ์พายุโซนร้อนซินลากูที่ส่งผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคใต้ จนเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ พร้อมกำชับให้ทุกเหล่าทัพเร่งดูแลช่วยเหลือและคลี่คลายสถานการณ์ให้ดีที่สุดนั้น ในส่วนของกองทัพบก ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 2, 3 และ 4 ได้จัดกำลังพล 1,600 นาย และยุทโธปกรณ์ อาทิ รถยนต์บรรทุก 65 คัน และเรือท้องแบน เข้าช่วยเหลือประชาชนโดยทันที โดยเฉพาะที่ จ.เลย น่าน พะเยา ลำปาง และจ.อุตรดิตถ์ ช่วยอพยพประชาชน สิ่งของ สัตว์เลี้ยง ใช้รถ และเรืออำนวยการเดินทางและขนย้ายสิ่งของ แจกจ่ายถุงยังชีพ โดยในช่วงกลางคืนเจ้าหน้าที่ได้จัดชุดดูแลความปลอดภัย ปัจจุบันระดับน้ำลดลงแล้วอยู่ในระหว่างการฟื้นฟู
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวต่อว่า ล่าสุดในการประชุมที่กองทัพบก ทาง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สั่งการผ่าน เสนาธิการทหารบกย้ำให้หน่วยทหารในทุกจังหวัดที่เกิดอุทกภัยดำรงความต่อเนื่องในการช่วยเหลือประชาชนอย่างครบวงจร โดยเฉพาะการช่วยอพยพประชาชน ขนย้ายสิ่งของไปในพื้นที่ปลอดภัย จัดรถครัวสนามและส่งชุดแพทย์ออกดูแลประชาชนร่วมกับทางจังหวัด ควบคู่ไปกับการซ่อมแซมถนน บ้านเรือน ฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะ โดยให้นำยุทโธปกรณ์ที่ประจำหน่วยมีอยู่มาประยุกต์ใช้ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ พร้อมมอบให้แม่ทัพภาคบูรณาการการใช้กำลังในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ รวมทั้งการเตรียมรับสถานการณ์พายุโซนร้อนที่อาจจะเข้ามาเป็นระลอกที่ 2
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวอีกว่า สำหรับการช่วยเหลือในพื้นที่ต่างๆ มีดังนี้ จ.เลย ในพื้นที่ อ.เมือง อ.เชียงคาน อ.ปากชมกำลังพล 150 นาย จากมณฑลทหารบกที่ 28 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 8 และกองพลทหารราบที่ 4 พร้อมรถยนต์บรรทุกได้ออกสำรวจความเสียหาย ช่วยทำความสะอาดพื้นที่หมู่บ้าน และซ่อมแซมบ้านเรือนที่ชำรุด โดยทางจังหวัดมีการจัดตั้งโรงครัวพระราชทานซึ่งมณฑลทหารบกที่ 28 ส่งรถครัวสนามเข้าร่วม ขณะที่โรงพยาบาลค่ายศรีสองรักษ์จัดรถพยาบาลและชุดหมอเดินเท้าเข้ารักษาประชาชน ขณะที่ จ.น่านในพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ เมืองสันติสุข อ.เวียงสา อ.ภูเพียง และ อ.นาหมื่น ทางมณฑลทหารบกที่ 38 จัดกำลังพลและรถยนต์บรรทุกเคลื่อนที่สำรวจความเสียหาย ขนย้ายสิ่งของ และให้บริการรถโดยสารเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ส่วน จ.พะเยา มณฑลทหารบกที่ 34 ส่งทหาร 100 นาย เข้าสำรวจความเสียหายในอ.เชียงม่วง และ อ.ดอกคำใต้ ด้าน จ.ลำปาง อ.วังเหนือ อ.แจ้ห่ม อ.เมืองลำปาง น้ำลดเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งมณฑลทหารบกที่ 32 เข้าช่วยขนย้ายสิ่งของ ส่งชุดหมอเดินเข้าเข้าตรวจสุขภาพ จ.อุตรดิตถ์ มณฑลทหารบกที่ 35 จัดกำลังพลจิตอาสา เข้าช่วยขนย้ายสิ่งของในพื้นที่ อ.น้ำปาด สำหรับ จ.ระนอง จากสถานการณ์วาตภัยใน อ.สุขสำราญ บ้านเรือนชำรุดเสียหาย ซึ่งทหารจากกรมทหารราบที่ 25 นำกำลังพลเข้าช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของ พร้อมประสานหน่วยราชการซ่อมแซมเบื้องต้น
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า ส่วนกรณีการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือเฟอร์รีล่มที่ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ทางกองทัพภาคที่ 4 ส่งเฮลิคอปเตอร์สนับสนุนปฏิบัติการค้นหาทางอากาศ ตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. รวมทั้งกำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 45 เข้าสนับสนุนการค้นหาผู้รอดชีวิต ซึ่งขณะนี้ยังสูญหายอีก 4 คน ซึ่งการค้นหายังคงดำเนินต่อในวันนี้ ส่วนที่ จ.กาญจนบุรี ชุดปฏิบัติการทางน้ำ กองพลทหารราบที่ 9 ได้ร่วมกับมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เข้าค้นหานักท่องเที่ยว 1 ราย ที่ประสบอุบัติเหตุทางน้ำ ณ แคมป์ช้างวังโพธิ์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยเริ่มค้นหาตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันที่ 2 ส.ค. ปัจจุบันยังไม่พบร่างผู้ประสบภัย เนื่องจากสภาพภูมิอากาศ ไม่เอื้ออำนวย และไม่มีแสงสว่างที่เพียงพอ ซึ่งในวันนี้ (3 ส.ค.) การค้นหายังคงดำเนินการต่อเนื่อง