เชียงราย - เปิดใจเจ้าสัวใหญ่เชียงราย อาสานำโรงแรมร่วม Local Quarantine (LQ) รับกักตัวกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 เผยวิกฤตไวรัสหนักกว่าต้มยำกุ้ง วันนี้ยังมองไม่เห็นแววเศรษฐกิจฟื้น แนะรัฐบาลเร่งหาเงินกระตุ้นต่อเนื่อง
ช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19 ระบาดที่ผ่านมา โรงแรมในเชียงรายที่ขันอาสาเข้าร่วมโครงการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงดูอาการ หรือ Local Quarantine (LQ) จำนวน 2 แห่ง หนึ่งในนั้นคือโรงแรมเวียงอินทร์ ริเวอร์ไซด์ เชียงราย โรงแรมหรูติดแม่น้ำกก ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย ของนายเรืองชัย จิตรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้าเชียงราย จำกัด ดีลเลอร์รถยนต์รายใหญ่ของเชียงราย และเจ้าของโรงแรมหรูอีกหลายแห่งในเชียงราย และเชียงใหม่
นายเรืองชัย กล่าวว่า โรงแรมเวียงอินทร์ ริเวอร์ไซด์ เชียงราย ได้ใช้เป็นสถานกักดูอาการผู้ที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่เชียงราย เนื่องจากช่วงแรกๆ มีผู้คนจากพื้นที่เสี่ยงเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะจาก จ.ภูเก็ต
แต่ปัจจุบันผู้ต้องสงสัยติดเชื้อภายในประเทศไม่มีแล้ว เหลือเพียงคนไทยที่เดินทาง หรือตกค้างในพม่า และ สปป.ลาว ที่พากันเดินทางกลับประเทศ ซึ่งมีทั้งคนที่ไปทำงาน หรือบางคนบวชเป็นภิกษุสามเณรแล้วกลับมา ทางจังหวัดจึงต้องการสถานที่กักตัวดูอาการที่เหมาะสม โรงแรมเราจึงขันอาสาดำเนินการให้จนครบถ้วน รวมๆ แล้วโรงแรมรับดูแลคนที่เข้ามากักตัวทั้งสิ้นประมาณ 700 คน ซึ่งน่าดีใจที่ทั้งหมดไม่พบการติดเชื้อเลย
นายเรืองชัย กล่าวอีกว่า โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 80 ไร่ และอยู่นอกเมือง ไม่ได้อยู่ท่ามกลางชุมชนหนาแน่นของตัวเมืองเชียงราย รวมทั้งมีอาคารตั้งอยู่แยกกันไปกว่า 9 อาคาร ซึ่งสามารถคัดแยกกันได้ระหว่างผู้เข้าพักตามปกติกับผู้ที่ต้องกักตัวใน LQ ดังนั้นจึงมีลูกค้าทั่วไปจองห้องพักกันตามปกติ เพียงแต่ถ้าเทียบกับช่วงเวลาปกติก็ถือว่ามีไม่มากนัก เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 เหมือนกันทั่วประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับที่พักโรงแรมและอื่นๆ ที่รองรับนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศเหมือนโรงแรมเวียงอินทร์ ริเวอร์ไซด์ เชียงราย ของเรา
เจ้าสัวเรืองชัย กล่าวอีกว่า ช่วงที่เกิดปัญหาไวรัสโควิด-19 ใหม่ๆ และทางจังหวัดจำเป็นต้องมีสถานที่รองรับ ตนคิดดูแล้วว่าเรามีโรงแรมอยู่ 3 แห่ง จึงได้เสนอไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทันที ซึ่งก็ตรงกับที่ทางจังหวัดต้องการพอดี เพราะโรงแรมแห่งนี้อยู่นอกเมือง เนื้อที่กว้างขวาง ทางชุมชนก็ไม่ได้เดือดร้อน เพราะไม่ได้อยู่ปะปนกัน ส่วนโรงแรมอื่นๆ ของตนก็เริ่มเปิดให้บริการตามปกติ โดยโรงแรมเวียงอินทร์ในเขตตัวเมืองเชียงรายก็เพิ่งเปิดรับนักท่องเที่ยวหลังจากปิดไปนานหลายเดือนเพราะวิกฤตดังกล่าว
"ตามปกติโรงแรมผมมีกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวต่างชาติ 80% และคนไทย 20% ดังนั้นจึงได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะเมื่อชาวต่างชาติเข้ามาไม่ได้ก็มีแต่นักท่องเที่ยวคนไทย ผู้ที่สายป่านไม่ยาวพอก็พบปัญหาอย่างแน่นอน ซึ่งผมยอมรับว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นทางออกเพราะวิกฤตครั้งนี้หนักกว่าวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 หรือวิกฤตต้มยำกุ้ง เพราะครั้งนั้นมีการลดค่าเงินบาท ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้อานิสงส์จากค่าเงินเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่กรณีวิกฤตไวรัสโควิด-19 ทำให้ชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศไม่ได้"
นายเรืองชัย กล่าวถึงข้อเสนอแนะสำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาว่า รัฐบาลจำเป็นต้องอัดฉีดงบประมาณไปยังส่วนต่างๆ ต่อไป เช่น สิงคโปร์ที่นำเงินคงคลังมาใช้ตั้งแต่ 2 เดือนก่อนแล้ว หรือแม้แต่ประเทศอังกฤษก็กู้เงินคงคลังออกมาใช้กับภาวะนี้เช่นกัน
ส่วนกรณีประเทศไทยนั้น ตนเห็นว่าจำเป็นต้องหาเงินมาให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าโดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะโครงการส่งเสริมไทยเที่ยวไทยที่ผ่านมาจะส่งผลเพียงระยะสั้น เมื่อพ้นช่วงการส่งเสริมไปแล้วผู้คนก็หยุดเที่ยวกันอีก ขณะที่ตลาดหลักด้านการท่องเที่ยวยังคงเป็นชาวต่างชาติที่ยังเดินทางเข้ามาไม่ได้
สำหรับนายเรืองชัย นอกจากจะเป็นนักธุรกิจรายใหญ่ในพื้นที่เชียงราย ยังชอบทำงานเพื่อสังคมและเสียสละอยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนของจังหวัดหลายเรื่อง เช่น การร่วมกับอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย จัดการแสดงในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติที่ จ.เชียงราย ครั้งที่ 46 ที่ผ่านมา สนับสนุนภารกิจของตำรวจ ภ.จว.เชียงราย และอื่นๆ อีกมากมาย
กระทั่งได้นำโรงแรมเวียงอินทร์ ริเวอร์ไซด์ เชียงราย เข้าสู่การเป็น LQ ซึ่งก็ยังพบว่ามีผู้ที่กักตัวฝากข้อความชื่นชมบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล และโรงแรม ที่ปฏิบัติอย่างดีเหมือนเป็นนักท่องเที่ยวและเข้าพักโรงแรมตามปกติ บางคนชมว่าอาหารที่นี่อร่อย ให้บริการประทับใจ จึงจะเดินทางไปพักเมื่อเดินทางไปท่องเที่ยวในโอกาสหน้าอีกด้วย