ดูสภาวะของประเทศขณะนี้ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม โครงสร้างของกระบวนการยุติธรรม การทุจริต คอร์รัปชันที่ยังไปแรงอย่างนี้ คนเฝ้าติดตามสถานการณ์และรับรู้ข้อมูลต่างๆ คงบอกได้ว่าโอกาสจะรอดพ้นจากวิกฤตรุนแรง แทบเป็นไปไม่ได้
มีการประเมินแล้วว่าวิกฤตช่วงหลังจากการลดค่าเงินบาทในปี 2540 ที่ว่าสาหัส สถาบันการเงิน บริษัทต่างๆ ล้มครืนไปมากมาย ใช้เวลาหลายปีกว่าจะฟื้นนี้ ถ้าเทียบกับวิกฤตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นนั้น เป็นเพียงแค่งานรื่นเริงช่วงวันหยุดยาวเทศกาลเท่านั้น
อะไรที่รออยู่ข้างหน้า ต้องใช้ฝีมือเหนือกว่าเทวดา ถ้าจะพอรอดได้ ปาฏิหาริย์ยังน้อยไป ทุกวันนี้ไม่มีสัญญาณด้านดีว่าเราจะรอดพ้นไปได้ จากพื้นฐานของเศรษฐกิจที่เราเป็นอันดับโหล่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน เป็นผลงานของคณะ 2 ลุงช่วงกว่า 6 ปี
เรากับมีปัญหาเงินเฟ้อต่ำ ประชาชนขาดอำนาจการซื้อ หนี้ครัวเรือนสูง 80 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ประชาชาติ หนี้ภาครัฐ ธุรกิจเอกชนก็เพิ่ม ต้องกู้ และกู้
เป็นยุคของเงินหายาก หามาได้แล้ว มีค่าน้อย กำลังคืบคลานเข้าสู่สภาวะเงินฝืด คนว่างงานกว่า 7 ล้านคน คนจนลงทะเบียนกว่า 14 ล้านคน กว่า 15 ล้านคนต้องจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ย หลังจากหยุดการชำระครบ 3 เดือน จะมีเงินจ่ายหรือไม่
ถ้าไม่มี หรือมีน้อย ภาคธุรกิจก็ขาดสภาพคล่อง สถาบันการเงินจะอยู่อย่างไรกับระดับหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้และหนี้เสียที่ถูกประเมินว่าจะเพิ่มขึ้น เพราะโอกาสฟื้นตัวแทบมองไม่เห็นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าถ้าภาคการส่งออก การท่องเที่ยวยังแทบดิ้นไม่ได้
สภาวะการระบาดของโคโรนาไวรัสยังไม่มีวี่แววว่าจะลดรา แถมยังมีรอบใหม่ในสหรัฐฯ ซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คนอเมริกันว่างงาน ยากจนลง คนวัยหนุ่มสาวที่เคยทำงานลำบาก หลายแสนคนต้องซมซานตากหน้าไปอยู่กับพ่อแม่เอาตัวรอด
นี่เป็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในครึ่งปี นับจากการระบาดของโคโรนาไวรัส แต่ละวันมีแต่ข่าวบริษัทขนาดใหญ่ สินค้ายี่ห้อดังต้องปิดตัว เข้าสู่กระบวนการล้มละลาย โรงแรมดังๆ ในประเทศไทยประกาศขาย รอคนมีเงินจากจีนมาซื้อในราคาต่อรองได้
ทรัพยากร ศักยภาพในการแก้ไขวิกฤตของประเทศไทยกำลังร่อยหรอ เหลือแต่ทางเลือกคือการกู้เงิน รัฐบาลยังไม่ยอมปรับการใช้จ่ายสำหรับงบประมาณปี 2564 ซึ่งเตรียมไว้ก่อนการระบาด ซึ่งไม่รับกับสถานการณ์ ที่เปลี่ยนคือตัวเลขเงินกู้ที่จะเพิ่มขึ้น
จากเดิมกว่า 5 แสนล้านบาท ก็เขยิบไปกว่า 6 แสนล้านบาท แถมต้องอุดรูโหว่งบปี 2563 ที่รายได้จากเงินภาษีไม่เข้าเป้า ก็คาดเดาได้ว่าเศรษฐกิจตายซากอย่างนี้ จะหวังรายได้จากภาษีเหมือนเดิมไม่ได้ ถ้ากู้มาก สักวันก็อยู่ในขั้นอันตราย ไปต่อลำบาก
จะหวังฟื้นตัว ไม่ง่ายเพราะสภาวะซบเซาเป็นไปทั่วโลก ทุกประเทศต้องระวังหาทางออกให้ตัวเอง ประเทศไหนยังมีการเงิน การคลังมั่นคง ก็เอาตัวรอดได้
ในบ้านเรา นักเลือกตั้งยังฟัด แย่งผลประโยชน์กันยิ่งกว่าหมาแย่งชามข้าว ไม่รู้สึกรู้สาว่าบ้านเมืองอยู่ในภาวะวิกฤต ที่เป็นอย่างนี้เพราะผู้นำประเทศและพวกมีปัญหาหนักด้านความรู้ ความสามารถ หาคนเก่งคนดีมาทำงานด้วยไม่ได้ เพราะคนดีไม่ไว้วางใจ
สภาพอย่างนี้จึงดูน่าพิศวง มีคำถามง่ายๆ ว่า คณะ 3 ลุงจะยังอยากอยู่ต่อไปทำไม หลังจากอยู่มากว่า 6 ปี ทั้งยังพยายามสร้างเครือข่ายเพื่ออยู่ต่ออีก หรือว่าแผนเดิมนั้นไม่คาดฝันว่าจะต้องมีวิกฤตโคโรนาไวรัสเข้ามาแทรก ทำให้เสียแผนจะอยู่ยาว 20 ปี
รู้อย่างนี้ เห็นอย่างนี้ จะยังอยากอยู่ไปทำไม เป็นเพราะคิดว่าตัวเองเก่งฉกาจ มีอำนาจ มีกฎหมายพิเศษ ไม่มีใครกอบกู้สถานการณ์เลวร้ายอย่างนี้ได้ เว้นแต่พวกตัวเอง
ไม่ได้รู้สึกเลยใช่หรือไม่ว่าเศรษฐกิจตายซาก แก้ไขยากอย่างนี้ เป็นเพราะผลงานของพวก 3 ลุง ที่เห็นชัดในช่วง 5 ปีแรกของการถลุงอำนาจไม่มีนักเลือกตั้งปนอยู่ แต่การทุจริต คอร์รัปชันเบิกบาน มีกลุ่มเสือหิวกลุ่มใหม่ สีใหม่ ลายใหม่ เข้ามากินแทนพวกเดิม
ที่ต้องอยู่ต่อ เหมือนนั่งทับของเน่าเหม็น นั่งบนหลังเสืออยู่ ลงไม่ได้ ใช่หรือไม่?
หรือรู้อยู่ว่าจะอยู่ต่ออย่างนี้ เพราะสภาวะอย่างนี้จะหาคนดีศรีแผ่นดินมากอบกู้คงไม่อยากมีใครเข้ามา แม้คณะ 3 ลุงจะอยู่เป็นเกราะกำบังก็ตาม เมื่อเห็นเสือหิวห้อมล้อมอย่างนี้คนสติดี ไม่หลงตัวเอง ไม่กล้าเข้ามาเด็ดขาด มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง แม้แต่เจ๊าก็ยังยาก
มีโพลน่าตกใจเมื่อการสำรวจความเห็นของประชาชนมีตัวเลขให้เห็นว่า 44 เปอร์เซ็นต์มองว่าขณะนี้ไม่มีใครเหมาะสมเป็นผู้นำประเทศ ลุงห้าวเป้งยังได้แค่ 25 เปอร์เซ็นต์ เป็นระดับที่โลกสวย อวยกันสุดๆ ก็ให้ได้เพียงแค่นี้ ถ้ามากจะค้านความจริง
ประเทศไทยจึงอยู่ในสภาวะที่น่าสงสาร ดูแล้วน่าสิ้นหวัง เพราะการวางท่าทำให้ตัวเองดูดี เป็นได้ไม่กี่วัน พอเข้าสภาก็ทำเสียงดังใส่นักเลือกตั้งให้ระวังตัว อย่าทำผิดกฎหมาย ทั้งๆ ที่ลุงเองได้ทำผิดกฎหมายโทษอาญามหันต์นั่นคือการทำรัฐประหาร!
มีการละเมิดกฎหมายอะไรที่ร้ายแรงกว่าการรัฐประหารอีกหรือไม่ ยังดีที่ทำสำเร็จ ถ้าแพ้เป็นกบฏ แม้กระนั้น ทำมาแล้ว ก็ยังไม่ยอมคืนอำนาจให้ประชาชน เพราะมีคำเตือนบอกก่อนว่า “ถ้าพี่คิดจะทำ จากนั้นพี่ต้องเป็นเอง อย่าพลาดแบบบิ๊กบัง”
ทุกวันนี้ ประชาชนยังไม่รู้ว่าคณะ 3 ลุงจะถลุงอำนาจและนำพาบ้านเมืองไปทางใด จะดีขึ้นก็คงยาก ถ้าดูพวกเสือหิวที่หวังเข้ามาฟัดงบประมาณ ถ้าจะแย่ลง จะถึงขึ้นบ้านเมืองเข้าสู่วิกฤตหนัก ยากต่อการแก้ไข เหมือนประเทศหนี้เยอะในละตินอเมริกามั้ย
ลุงห้าวเป้งยังดูมีบารมีในสายตานักเลือกตั้งหรือไม่ เพราะกลุ่ม 4 กุมารอ้วนพีโดนขับไล่ทุกวันไม่เห็นหัวลุงผู้นำ เป็นแบบนี้จะให้ประชาชนมองอย่างไร คิดอย่างไร มีความเชื่อมั่นได้อีกหรือ ขนาด 4 กุมารอ้วนพียังเป็นอย่างนี้ ถ้าเลวกว่านี้ บ้านเมืองจะรอดหรือ
สุดท้าย คณะ 3 ลุงถลุงอำนาจจบแล้ว จะมีใครตากหน้ารับผิดชอบกับหายนะ?!