"โสภณ องค์การณ์"
ผ่านวันครบรอบ 23 ปีของการลดค่าเงินบาท วันที่ 2 กรกฎาคมปี 2547 ซึ่งก่อให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจอย่างหนักจนมาถึงวันนี้เราเผชิญกับอีกหนึ่งวิกฤตซึ่งประเมินดูแล้วมีความรุนแรงซับซ้อนกว่ามาก ไม่ใช่เกิดจากปัญหาเศรษฐกิจโดยตรงก็ตาม
เมื่อส่วนหนึ่งเป็นเพราะการระบาดของโรคโคโรนาไวรัส ยังไม่หยุด และลามไปทั่วโลก โดยเฉพาะในทวีปอเมริกาและยุโรป ชาติต่างๆ ในโลกคงต้องใช้มาตรการเยียวยา ทุ่มเงินเพื่อฟื้นฟู โดยใช้เวลามากกว่าครั้งก่อน
ประเทศไทยมีการระบาดไม่มากนัก แต่ความบอบช้ำทางเศรษฐกิจซึ่งตายซากมาก่อนการระบาด มีสภาวะหดตัว ติดลบ 8.1 เปอร์เซ็นต์ บ๊วยในชาติอาเซียน ก็คงต้องใช้เวลานานเช่นกัน มาการที่ผ่านมา ยังไม่ได้ผลให้เห็นชัดเจน
วิกฤตครั้งนี้ประเทศไทยมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากกว่าในปี 2547 ยังไม่ถึงขั้นต้องยืมจากไอเอ็มเอฟ แต่โครงสร้างของเราผุกร่อนกว่าเดิม ด้วยปัญหาหนี้ครัวเรือนถึง 80% ของจีดีพี หนี้ภาครัฐเพิ่มซึ่งจะสร้างปัญหาใกล้ติดเพดานการกู้
เห็นได้ชัดแล้วว่ามาตรการต่างๆ รวมทั้งเงินกู้มหาศาลเอาไม่อยู่แน่ และถ้าจะกู้ต่อไปจะสร้างภาระหนักหนาสาหัสสำหรับการเงินการคลังของประเทศ ซ้ำร้ายขณะนี้รัฐบาลเหมือนเรือเผชิญมรสุมขนาดใหญ่ลอยเท้งเต้ง ไร้ทิศทางกลางทะเลคลื่นแรง
กัปตันเรือไม่อยู่ในสภาพที่คุมได้ ฝีมือการจัดการก็เห็นอยู่ว่า ถ้าเก่งจริงแล้วบ้านเมืองคงไม่อยู่ในสภาวะเช่นนี้ ใน “เรือแป๊ะ” ลูกเรือมัวแต่ทะเลาะกัน แย่งตำแหน่งหน้าที่ ไม่ใส่ใจว่าผลสุดท้ายเรือจะรอดไปจากมรสุมร้ายหรือไม่
เดิมพันสำหรับการแย่งชิงของนักเลือกตั้งครั้งนี้ คือทรัพย์สินแผ่นดินมหาศาลและผลประโยชน์ต่างๆ ซึ่งจะตามมากับตำแหน่งและอำนาจ ขณะที่ภาคธุรกิจประชาชนอื่นๆ ต่างอกสั่นขวัญผวาว่าเรือแป๊ะจะถึงวาระอับปางหรือไม่
ผู้นำรัฐบาลยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าทิศทางของเรือแป๊ะจะไปอย่างไรเพราะภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้คนที่ดูแลเศรษฐกิจ เช่นคณะ 4 กุมาร ก็ยังไม่รู้ชะตากรรมว่าจะได้ทำงานต่อหรือไม่ โดนถูกเขย่าเก้าอี้และสาดน้ำลายพิษทุกวัน
สภาวะเช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่านักเลือกตั้งทั้งหลายยังไม่ทิ้งนิสัยเดิม คือเอาผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องเป็นหลัก บ้านเมืองจะฉิบหายก็ช่าง
ในป่ารอยต่อของลุงป้อมก็เป็นเหมือนป่าดงดิบที่มีสิงสาราสัตว์ รวมทั้งพวกหลงยุคมาจากโลกล้านปีปะปนอยู่ ล้วนแต่เป็นกลุ่มสารพัดพิษไม่เว้นแม้แต่พวกเดียวกันถ้าขัดผลประโยชน์บรรลัย เป็นการเมืองแบบอำมหิต เลือดเย็น ไร้ยางอาย
ทุกวันนี้ผู้นำรัฐบาลไม่สามารถตอบคำถามได้ว่าจะปรับคณะรัฐมนตรีตามแรงกดดันของสมาชิกป่ารอยต่อหรือไม่ ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่ามีคนกระเหี้ยนกระหือรือ ไม่เกรงอกเกรงใจคนที่ยังอยู่ในตำแหน่ง ขาดมารยาททางสังคมการเมืองที่มีอารยะ
แสดงความหิวกระหายอำนาจและตำแหน่ง ไม่ปิดบังซ่อนเร้นเจตนา!
รู้ทั้งรู้ว่าสภาพเศรษฐกิจอยู่ในขั้นวิกฤติยากต่อการแก้ไขยิ่งกว่าช่วงหลังปี 2540 แต่ผู้นำรัฐบาลยังไม่มีความรู้สึกว่าเป็นภาระจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องแก้ไขแสดงความเป็นผู้นำมีวุฒิภาวะ สร้างความเชื่อมั่นอุ่นใจให้ประชาชนอย่างเต็มที่
การที่นักเลือกตั้งฟากรัฐบาลฟัดกันอย่างนี้ ความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจก็ไปไม่ได้เพราะถูกสกัดกั้นโดยกลุ่มที่อยากจะเข้ามาใหม่ เมื่อเป็นเช่นนี้จะหวังให้นักธุรกิจอยากลงทุน หรือแม้จะหาช่องทางเอาตัวรอดก็ยังยาก
ช่วงนี้กำลังเข้าสู่การอภิปรายงบประมาณปี 2564 ซึ่งมี 3.3 ล้านล้านบาทพร้อมกับการกู้งวดใหม่กว่า 5 แสนล้านบาท แต่โครงการต่างๆ ยังเห็นชัดเจนว่าเป็นงบใช้จ่ายประจำ งบใช้หนี้ ยังไม่สะท้อนให้เห็นความเร่งด่วนที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
ประเทศไทยจึงอยู่ในสภาพที่น่าสงสาร คนมีอำนาจทั้งทางราชการและในระบบต่างๆ ของการเมืองอย่างมุ่งหาตำแหน่งและผลประโยชน์เพื่อตัวเองและพวกพ้อง พวกอวดอ้างความสามารถยังไม่มีแผนให้ชาวบ้านได้รู้ว่าจะมีทางออกอย่างไร
หรือรู้อยู่แล้วว่าไม่ว่าจะเอาแผนอะไรมาประชาชนก็ไม่ ให้ความน่าเชื่อถือเพราะพฤติกรรมและประวัติด่างพร้อย เป็นที่รู้จักในสังคมการเมืองนั่นเอง
นักเลือกตั้งที่เสนอหน้าเข้ามาไม่มีใครสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นว่าเป็นกลุ่มคนใจซื่อมือสะอาด มีความรู้ ความสามารถจะแก้วิกฤติของประเทศได้
ตรงกันข้ามประชาชนที่เฝ้าดูสถานการณ์ด้วยความกังวลได้แต่รู้สึกหวาดผวาว่าโอกาสที่ประเทศจะรอดพ้นวิกฤติไปนั้นดูริบหรี่เหลือเกิน
ต้องไม่ลืมว่างบประมาณทั้งงบประจำ และงบพิเศษจากการกู้ก็กำลังร่อยหรอ เป็นเบี้ยหัวแตก น้ำพริกละลายแม่น้ำ ขณะที่มีคนยากจนลงทะเบียนอยู่แล้ว 18 ล้านคน ที่จะรอรับเงินแจกหรือเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
มีคนว่างงานอยู่แล้วประมาณ 7 ล้านคน และยังจะต้องมีต่อไปเมื่อเศรษฐกิจยังไม่พ้นวิกฤติ ทรัพยากรประเทศอาจถูกผ่องถ่ายไปเข้าสู่กลุ่มทุนใหญ่
เห็นได้ชัดว่ากระทรวงพลังงานคือเดิมพันอันโอชะ ได้แล้วกินนาน
ยังมีคนกว่า 15 ล้านคน ซึ่งได้รับการพักหนี้ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ก็จะต้องถึงวาระต้องจ่ายตามปกติ จะมีเงินหรือไม่ จะเป็นหนี้มีปัญหาให้แก่ธนาคารหรือไม่ ยังต้องรอดู แบงก์ชาติจึงสั่งให้มีการเตรียมตั้งสำรองหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้
คนมองโลกสวย หวังว่าชีวิตจะดีขึ้น นอกจากกลุ่มที่อิงอำนาจการเมือง ก็คือพวกที่หลงเชื่อหมอดู โหร และผีบุญทั้งหลายที่วาดวิมานในอากาศให้คนมอง
ระวัง วิกฤตเกิดในปี 2540 เทียบกับที่เป็นอยู่ เหมือนสวรรค์กับนรก!