สภาพการณ์ของบ้านเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้ถือว่าเป็นวิกฤตร้ายแรงทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และความเสี่ยงภัยจากการระบาดของโรคโนเวล โคโรนาไวรัส ซึ่งกำลังสร้างความตื่นกลัวทั่วโลก
เป็นตัวแปรสำคัญในภาคเศรษฐกิจทั่วโลก ถ้าภาวการณ์ระบาดยืดเยื้อ ผู้เชี่ยวชาญและชาวบ้านธรรมดามองก็เห็นชัดว่าจะสร้างความหายนะกันทั่ว แม้แต่คนมีทรัพย์สินมั่งคั่ง ไม่มีภาระหนี้สิน ก็ยังต้องระวัง ถ้ามีปัญหาสุขภาพไม่แข็งแรง
เมื่อการระบาดและการตายไม่หยุด ก็มีการประเมินผลกระทบ และตั้งคำถามว่าบ้านเมืองจะไปอย่างไร และเราจะอยู่หรือไปต่ออย่างไร ด้านชีวิตความเป็นอยู่
ก่อนหน้านี้บ้านเรามีปัญหาเศรษฐกิจยืดเยื้อเรื้อรัง การส่งออกตก ค่าเงินบาทแข็ง สินค้าไทยราคาแพงกว่าคู่แข่ง ภัยแล้งคุกคาม ปัญหาฝุ่นพิษ หนี้ครัวเรือน คนระดับต่ำกว่าชนชั้นกลางอยู่ในสภาพย่ำแย่ การว่างงานขยายตัว คนไม่มีเงินใช้สอย
มาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” ไร้ผลเพราะชาวบ้านรู้ทันว่านั่นเป็นโครงการเอื้ออวยธุรกิจขนาดใหญ่ เจ้าสัว ผู้กุมชะตากรรมเศรษฐกิจของประเทศ กุมอำนาจเหนือรัฐ เพราะเป็นนายทุนหนุนทั้งพรรคการเมือง ข้าราชการ ผู้กุมอำนาจรัฐละโมบ ทุกยุค
การรัฐประหารยังต้องขอเบิกเงินจากบรรดาเจ้าสัวมาเป็นทุน ถ้าสำเร็จก็จัดการคืนให้ผ่านนโยบายโครงการต่างๆ ประเคนให้ ชดใช้ เอากำไรอีกหลายเท่ามาแบ่งกัน ทำให้ประเทศไทยอยู่ในกำมือทุนนิยมการเมืองสามานย์ ไม่มีวันพ้นจากการครอบงำ
ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ การประเมินสภาพเศรษฐกิจตายซากสรุปผลว่า ช่วงการลดค่าเงินบาทในปี 2540 มีแต่ธุรกิจใหญ่ คนรวยมีปัญหา คนระดับล่างไม่กระเทือนมากนัก มีภาคชนบทรองรับ กลับไปใช้ชีวิตแบบพอเพียง เอาตัวรอดมาได้ ไม่ลำบาก
ช่วงนั้นมี “คนเคยรวย” “เปิดท้ายขายของ” เศรษฐกิจล่ม เศรษฐีตกยาก สูญเสียความเป็นเจ้าของธุรกิจ สถาบันการเงินถูกต่างชาติเข้ามาซื้อ แทบไม่เหลือกลุ่มทุนเก่ายอมให้นักลงทุนต่างชาติมาเป็นเจ้าของ ตัวเองมีแค่ตำแหน่ง ไร้อำนาจ
ช่วงปี “เผาหลอก เผาจริง” มีการประเมินว่ายุคนี้ “คนรวยรอด” เพราะเรียนรู้บทเรียนจากปี 2540 ไม่ประมาทอีกแล้ว คนระดับล่างทยอยตายเรียบเพราะปัญหาหนี้สารพัด ธุรกิจตายซาก คนไม่มีเงินซื้อ เพราะไม่มีช่องทางทำมาหากิน
ประเมินว่าภัยแล้งปีนี้จะซ้ำเติมความเลวร้ายที่เป็นอยู่ จะมีคนว่างงาน ฆ่าตัวตาย สิ้นไร้ไม้ตอก ทรัพย์สินติดจำนองถูกยึดมากน้อยแค่ไหน มีแต่ข้าราชการ คนรัฐวิสาหกิจและพวกเกษียณอายุ มีเงินใช้ต่อเนื่อง ถ้าไม่มีหนี้ภาระผ่อน ไม่เดือดร้อน
บรรดาเศรษฐีติดอันดับแสนๆ ล้านบาทในประเทศร่ำรวยไม่หยุด เตรียมเงินไว้ซื้อ “ของถูก” จากพวกที่จะต้องภาวะล้มด้านธุรกิจ และความเป็นมนุษย์ด้วย
แล้วไง เหมือนธรรมชาติไม่ต้องการให้มหาเศรษฐีสุขสบาย ได้เปรียบคนยากจนเกินไป จึงจัดการให้ไวรัสโคโรนามาแจ้งเกิดในจีน มีคนป่วย ตาย ในอัตราน่าตกใจ คนยิ่งตื่นตระหนกเพราะติดเชื้อระบาดไปกว่า 60 ประเทศ เกือบทั้งโลก
ทำให้การท่องเที่ยวสะดุดหยุดชะงัก ส่งผลกระทบไปทั่วทุกวงการ เช่น การบิน โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ธุรกิจสารพัด ไม่มีธุรกิจใดจะอยู่รอดปลอดภัย เว้นแต่โรงพยาบาลซึ่งมีคนไข้ต่อเนื่อง การผลิตหน้ากากอนามัยและสิ่งป้องกันขาดตลาด
เมื่อหุ้นตก ความมั่งคั่งทางกระดาษ ส่งผลให้ราคาหุ้น มูลค่าหลักทรัพย์หายวับไปอย่างน้อย 2 ล้านล้านบาทในบ้านเรา คนไม่เดินในห้างสรรพสินค้า ไม่เดินทาง เครื่องบินลดเที่ยวบิน โรงแรมไม่มีแขกพัก นักท่องเที่ยวหายไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์
ยิ่งกว่าสวรรค์ล่มสำหรับธุรกิจของเศรษฐีตระกูลใหญ่อยู่สุดยอด มีทรัพย์สินแสนๆ ล้าน ใครมีธุรกิจโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ โมเดิร์นเทรด ผลิตอาหาร สินค้าต่างๆ ป้อนร้านค้าปลีก ก็ต้องเผชิญกับชะตากรรมพลิกผันชั่วข้ามคืน
ถ้าสถานการณ์การระบาดยืดเยื้อ มีโอกาสร่อแร่เอาง่ายๆ เพราะส่วนใหญ่กู้เงินมาทั้งนั้นเพื่อสร้างธุรกิจ เครือข่ายต่างๆ เพื่อสูบเงินจากผู้บริโภคในระบบทุนสามานย์
ห้างสรรพสินค้าทุกวันนี้แทบจะร้าง นอกจากไม่เสี่ยงกับเชื้อโรค ยังอาจบาดเจ็บล้มตายไม่รู้ตัวเพราะพวกผิดหวังในความรักมักไปไล่ล่ายิงล้างแค้น เป็นรูปแบบยอดนิยมนอกจากการเลือกรมควันฆ่าตัวตายเดี่ยวและหมู่ด้วยเตาอั้งโล่
สภาพเช่นนี้ เจ้าสัวหลายแสนล้านบาท แทบจะต้องยกส้นเท้าก่ายหน้าผาก เพราะดอกเบี้ยเริงร่าเขยิบขึ้นทุกวัน ถ้าคนไม่อยากเสี่ยงไปเดินห้าง ซื้อของ ยอดขายตก ผู้เช่าในศูนย์การค้ายิ่งลำบากเพราะต้องจ่ายค่าเช่า แต่ไม่มีลูกค้ามาซื้อของ
ธนาคารต่างๆ ที่ปล่อยเงินก้อนใหญ่ให้เจ้าสัวกู้ ก็ยิ่งเอาทั้งส้นเท้าและสารพัดสิ่งมาก่ายหน้าผาก เพราะเจ้าสัวไม่เอาเงินส่วนตัวมาเสี่ยง แต่ใช้เงินกู้แบงก์ พลาดท่าก็ประกาศล้มละลายบนฟูก ทนอาย 3 ปีก็กลับมาใช้ชีวิตอู้ฟู่เริงร่าเหมือนเดิม
แต่เศรษฐกิจของประเทศ ชาวบ้านทั่วไป จะย่ำแย่ย่อยยับอย่างไร ไม่ต้องสงสัย ดังนั้น ปี 2540 คนระดับล่างรอด คนรวยเจ๊ง ปีนี้อาจต้องลำบากทุกระดับเพราะไวรัสไม่เลือกเล่นงาน โครงการใหญ่ต่างๆ ที่เจ้าสัวประมูลมาได้ด้วยราคาแพง จะไปได้มั้ย
แต่เจ้าสัวมีช่องทางดิ้น ลูกจ้าง พนักงานนั่นแหละคือผู้เสียสละ ถ้าไม่เลิกจ้างก็ขอให้หยุดงานไม่จ่ายค่าจ้าง อ้างว่าเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด ลูกน้องจะอยู่กิน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถอย่างไรเป็นปัญหาส่วนตัว ไปพึ่งเงินกู้นอกระบบ หรือแหล่งอื่นที่ยังหยิบยืมได้
คนจนอยู่ได้ตามสภาพ เจ้าสัวคงมีผู้กุมอำนาจใจบุญเข้ามาอุ้มแน่ อย่าห่วง!