ศูนย์ข่าวขอนแก่น - คนไข้ชาวมุกดาหารเตรียมฟ้องปลัดกระทรวงสาธารณสุข หลังทันตแพทย์ลืมหัวกรอฟันไว้ในเหงือกนานถึง 5 ปี กระทบการใช้ชีวิตประจำวัน ลิ้นรับรสผิดปกติ ทั้งเคยร้องเรียน สคบ.-สำนักงานสาธารณสุข จ.นราธิวาส แต่ไม่ได้รับการเยียวยา
วันนี้ (17 ส.ค.) ที่คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นางกฤติกา ฤทธิขันธ์ อายุ 34 ปี หรือ หนุ่ย เดินทางมาจากจังหวัดมุกดาหารเพื่อเข้าพบทันตแพทย์ โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มข. เพื่อติดตามอาการ หลังผ่านำหัวกรอที่ติดอยู่ในเหงือกนาน 5 ปี ออกเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2562 แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับการเยียวยาจากโรงพยาบาล
นางกฤติกา ฤทธิขันธ์ กล่าวว่า ตนได้เข้ารับการผ่าฟันคุดที่โรงพยาบาลตากใบ จังหวัดนราธิวาส และเกิดเหตุลืมหัวกรอฟันในเหงือกของนางกฤติกาไม่สามารถนำออกได้ ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าไม่เป็นไรหากแผลประสานกันชิ้นส่วนดังกล่าวจะหลุดไปเอง ต่อมาต้นปี 2562 นางกฤติกาไปรักษารากฟัน และ X-ray พบว่าหัวกรอฟันยังติดอยู่ในเหงือกจนมีการอักเสบ และได้ผ่าหัวกรอฟันออกเมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ที่โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
แม้จะได้รับการผ่าเอาหัวกรอฟันออกแล้วอาการดีขึ้นแต่ไม่หายขาด เพราะจากที่มีอาการชาตั้งแต่กกหูขวาถึงริมฝีปาก ตอนนี้ชาเฉพาะริมฝีปาก ลิ้นชาแค่ปลายลิ้น ทั้งลิ้นยังรับรสได้ผิดปกติ ส่วนหูขวาตึง ผลจากการลืมหัวกรอฟันในเหงือกได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของตนมาก ที่ผ่านมาได้ขอรับการเยียวยาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร้องเรียนไปทั้ง สคบ., สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส แต่กลับไม่มีหน่วยงานใดเยียวยา กรณีของตนไม่เข้าเกณฑ์ มาตรา 41 พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการทางสาธารณสุข เพราะตนใช้สิทธิ์สามีที่เป็นข้าราชการในการเบิกค่ารักษา
ทั้งนี้ หลายหน่วยงานได้แนะนำให้ตนฟ้องร้อง จึงเตรียมฟ้องปลัดกระทรวงสาธารณสุข ข้อหาหรือฐานความผิด ละเมิด เรียกค่าเสียหาย พ.ร.บ.ความรับผิดชอบทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2526 พ.ร.บ.วิธีพิจารณาผู้บริโภค 2551 ในวันที่ 27 สิงหาคม 2563 นี้ ซึ่งที่ผ่านมาตนต้องกู้หนี้ยืมสินมาเป็นค่าใช้จ่ายช่วงที่ต้องพักรักษาตัวหาเงินไม่ได้ และเป็นค่าเดินทางไปโรงพยาบาล เป็นเงินกว่า 2 แสนบาท
สำหรับกรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2558 หลังจากนางกฤติกาเข้ารับการผ่าฟันคุดตรงฟันกรามด้านขวา ที่โรงพยาบาลตากใบ จ.นราธิวาส โดยในวันผ่าตัดหมอทราบว่ามีชิ้นส่วนอุปกรณ์หล่นอยู่ในเหงือก แต่ไม่สามารถนำออกมาได้ และแจ้งนางกฤติกาว่าเมื่อแผลประสานชิ้นส่วนที่ติดอยู่จะหลุดออกมาเอง ไม่เป็นอันตราย
แต่ผลจากการผ่าฟันคุดทำให้ริมฝีปากชาราว 6 เดือน-2 ปี หลังผ่าฟันคุดนางกฤติกาไปพบหมอ 3 ครั้งในช่วง 2 เดือนเพื่อรักษาอาการปากชา ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2558 สามีของนางกฤติยาซึ่งรับราชการตำรวจ ได้โยกย้ายพื้นที่ปฏิบัติงาน จึงไม่ได้รับการรักษาต่อเนื่อง และทำใจกับอาการริมฝีปากชา ใช้ชีวิตได้ตามปกติ และคิดว่าหัวกรอฟันได้หลุดออกมาแล้วตามที่หมอบอก กระทั่งเดือนมกราคม 2562 ได้ไปรักษาฟันด้านซ้าย โดยหมอเอกซเรย์ พบว่าหัวกรอฟันยังคงติดอยู่ในเหงือกจนเหงือกบวมไปทับฟันกราม เกิดอาการปวดฟันรุนเเรง
จากนั้นต้นเดือนเมษายน 2562 ทีมทันตแพทย์โรงพยาบาลในอุบลราชธานีเตรียมผ่านำหัวกรอออก แต่จู๋ๆ นางกฤติกาได้รับแจ้งว่าผ่าไม่ได้เพราะกระดูกหุ้มหัวกรอแล้ว ไม่คุ้มที่จะผ่าเพราะต้องเจาะ กรามจะชาหนักกว่าเดิม ทันตแพทย์จึงถอนฟันที่ถูกเหงือกบวมทับออก รักษาอาการปวดฟันรุนแรง และหลังถอนฟันซีกนี้มีอาการปวดรุนแรงมากจนต้องฉีดมอร์ฟีน ซึ่งนางกฤติการะบุว่าเคยร้องขอความช่วยเหลือไปยังทันตแพทยสภา แต่ไม่มีหน่วยงานใดช่วยเหลือ และหาทางรักษาตัวเองมาตลอด
จึงตัดสินใจเดินทางจากจังหวัดมุกดาหารมาตรวจรักษาที่โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตามคำแนะนำของหลายคน จนกระทั่งเช้าวันที่ 28 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมานางกฤติกาได้เข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยใช้เวลา 30 นาทีจึงผ่านำหัวกรอฟันออกจากเหงือกได้