ลำปาง - แฉซ้ำอีก ครูบาฉาวเจ้าสำนักสงฆ์ดังลำปาง โด๊ปกัญชาก่อนตุ๋ยเณรสมาธิสั้นวัย 15 ปีจนหลอน ขณะที่พ่อเหยื่อผวาโดนข่มขู่ วอนผู้รู้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยด้านคดี
กรณี ด.ช.บี อดีตสามเณรอายุ 15 ปี เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง ว่าถูกครูบาเจ้าสำนักสงฆ์ชื่อดังล่วงละเมิดทางเพศ จนกระทั่งพระใบฎีกาชนาเมธ อตฺตทีโป ดร.พระนพสิทธิ์ สุทธจิตโต พระวินยาธิการฝ่ายธรรมยุต หรือตำรวจพระ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สอบผู้เสียหายไปแล้วนั้น
ล่าสุด หลังมีการนำเสนอข่าวออกไป หลายหน่วยงานที่ทราบข่าวต่างมาให้กำลังใจและนำสิ่งของมามอบ ด.ช.บี และครอบครัว เนื่องจากทราบว่าฐานะทางบ้านของ ด.ช.บี ไม่ค่อยดีนัก อีกทั้งแม่ยังเป็นใบ้และไม่ค่อยสบาย
ด.ช.บี เปิดเผยว่า ก่อนที่ครูบาจะลงมือล่วงละเมิดทางเพศเกือบทุกครั้งจะต้องมีการเสพอะไรบางอย่างลักษณะมีควันคล้ายกับกัญชาจนมีอาการเมา หัวเราะ ส่วนที่ตนไม่กล้าบอกใครเนื่องจากกลัวและถูกข่มขู่ไม่ให้ตนออกไปนอกสำนักสงฆ์ จนกระทั่งถูกกระทำจนทนไม่ไหว
ด้านพ่อของ ด.ช.บี อายุ 44 ปี เปิดเผยว่า เพิ่งมาทราบเรื่องไม่กี่วันก่อนที่จะพาลูกชายไปแจ้งความเพราะลูกไม่ยอมบอกอะไรเลย เนื่องจากถูกพระข่มขู่ โชคยังดีที่มีหลวงตาช่วยพาลูกหนีไปอยู่ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ก่อนที่จะมาสึกที่วัดจามเทวี ในตัวเมืองลำปาง และแจ้งเรื่องให้รู้
ส่วนตัวไม่คิดว่าเป็นถึงครูบาจะมาทำเรื่องแบบนี้ได้ ตอนนี้ยอมรับว่าหวั่นใจบ้าง เพราะไม่รู้ว่าจะสู้อิทธิพลของพระรูปนี้ได้หรือไม่ เนื่องจากพระมีลูกศิษย์ลูกหามากมายและสำนักสงฆ์ดังกล่าวถือว่ามีชื่อเสียงในจังหวัดลำปาง แต่ตนก็จะสู้ให้ถึงที่สุดเพราะทำกับลูกชายตนเองมากจนเกินไป
“ตอนนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านกฎหมายมาช่วยเหลือ เพราะถูกทางพระข่มขู่ว่าจะฟ้องกลับ ประกอบกับที่ตนเองไม่รู้กฎหมายและฐานะยากจนไม่มีเงินที่จะไปปรึกษาทนายความ ทุกวันนี้บ้านที่อยู่อาศัยผนังบ้านยังทำจากไม้ไผ่อยู่เลย”
นายซี (นามสมมติ) อายุ 34 ปี เปิดเผยว่า เณรได้โทร.ไปหาป้าที่ตนรู้จักและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ป้าจึงขอให้ตนไปช่วยเณร ซึ่งขณะนั้นเณรได้สึกแล้วไปเฝ้าแม่ที่ป่วยอยู่ รพ.เกาะคา เมื่อไปเห็นสภาพของเด็กตอนนั้นอยู่ในอาการซึม หวาดกลัว และกลัวผู้ชาย พอเห็นตนเองยังจะวิ่งหนี รู้สึกสงสารมากจึงเข้าช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ โดยไปรับพ่อเด็กมาแจ้งความที่ สภ.เมืองลำปาง ส่วนพระรูปดังกล่าวจะทำจริงหรือไม่ก็ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่สอบสวน และเป็นเรื่องของกฎแห่งกรรม และสามัญสำนึกของแต่ละบุคคล
ในด้านคดีขณะนี้ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน แต่ยังไม่มีการเรียกตัวหรือตั้งข้อหาครูบารูปดังกล่าวแต่อย่างใด และขณะนี้ยังรอผลการตรวจร่างกายจากแพทย์ รพ.ลำปาง เพื่อประกอบสำนวนคดี