กาญจนบุรี - นายกเล็ก อบต.ไล่โว่ พร้อม ปภ.สาขาทองผาภูมิ ลงพื้นที่ป่าทุ่งใหญ่ฯ หาทางช่วยเหลือชาวนา 5 หมู่บ้าน ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการขาดน้ำ เหตุฝนทิ้งช่วงในรอบ 50 ปี
วันนี้ (30 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย วุฒิพิมลวิทยา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย นายอุทัย ขันทอง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี (สาขาอำเภอทองผาภูมิ) เดินทางไปเยี่ยมเกษตรกรชาวนาในพื้นที่บ้านสะเนพ่อง หมู่ 1 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งหมู่บ้านดังกล่าวตั้งอยู่ใจกลางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ ด้านตะวันตก
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากปัจจุบันเกษตรกรที่เป็นชาวนากำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากเกิดวิกฤตฝนตกทิ้งช่วง เป็นเหตุทำให้พื้นที่ที่เป็นนาดอน ขาดแคลนน้ำอย่างหนัก ข้าวที่ปลูกเอาไว้ได้ประมาณ 10 วัน เกิดยืนต้นตาย ส่วนพื้นที่ลุ่มพอมีน้ำใช้สำหรับทำนาอยู่บ้างแต่ก็ไม่เพียงพอเพราะน้ำที่มีต้องใช้น้ำจากภูเขา
เบื้องต้น พบชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมีประมาณ 50 ครัวเรือน จาก 5 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านสะเนพ่อง หมู่ 1 บ้านกองม่องทะ หมู่ 2 บ้านไล่โว่-สาละวะ หมู่ 4 บ้านทิไล่ป้า หมู่ 5 และบ้านจะแก หมู่ 6 เนื้อที่รวมกันประมาณ 1,000 ไร่ โดยสถานการณ์ภัยแล้งครั้งนี้ถือว่าเกิดขึ้นในรอบ 50 ปีเลยทีเดียว
โดยนายสมยศ พุ่มไพรวัลย์ 1 ในเกษตรกรชาวนาบ้านสะเนพ่อง กล่าวว่า ตนเพิ่งปลูกข้าวไปได้ประมาณ 10 วันที่ผ่านมา บนเนื้อที่ 1 ไร่ จากทั้งหมด 15 ไร่ ส่วนน้ำที่นำมาปลูกก็เป็นน้ำภูเขาของหมู่บ้านที่ใช้ร่วมกัน ขณะนี้ข้าวที่ปลูกเอาไว้เริ่มยืนต้นตายแล้ว เพราะไม่มีน้ำ
หากจะนำน้ำจากภูเขามาใช้อีกก็เกรงใจเพื่อนบ้าน เพราะทุกคนก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน จึงจำเป็นต้องยอมให้ข้าวยืนต้นตาย โดยปกติเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน น้ำจะไหลลงมาจากภูเขาเข้ามาในที่นาของตนที่เป็นนาดอน สามารถทำนาเอาไว้กินเองทุกๆ ปี โดยไม่เคยเดือดร้อนมาก่อน ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ครั้งนี้ถือว่าแล้งที่สุดในรอบ 50 ปี จากผลกระทบดังกล่างชาวบ้านจึงได้ขอความช่วยเหลือไปยัง อบต.ไล่โว่ เพื่อเข้ามาหาทางให้ความช่วยเหลือต่อไป
ด้าน นายสมชาย วุฒิพิมลวิทยา นายก อบต.ไล่โว่ กล่าวว่า หลังจากได้รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านแล้ว อบต.ไล่โว่ จะทำการเร่งสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลการทบจากภัยแล้งของ อบต.ไล่โว่ทั้งหมด เบื้องต้น พบว่ามีอยู่ประมาณ 1,000 ไร่
สำหรับแนวทางการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นมีอยู่ 2 แนวทาง คือ แนวทางแรก พื้นที่ทำนาที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำหรือลำห้วยต่างๆ อบต.ไล่โว่ จะประสานขอความช่วยเหลือไปยังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี (สาขาทองผาภูมิ) เพื่อขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำลงไปในที่นา ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่ ปภ.ได้ร่วมเดินทางมาสำรวจด้าย
แนวทางที่ 2 จะใช้แนวทางการเยียวยา ตามระเบียบราชการ กระทรวงการคลัง เชื่อว่าจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของชาวตำบลไล่โว่ได้ โดย อบต.ไล่โว่ จะเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
เนื่องจากหากชาวบ้านไม่สามารถทำนาได้ จะทำให้ไม่มีข้าวบริโภคในปีหน้า ซึ่งข้าวถือเป็นสิ่งสำคัญของชาวบ้านในตำบลไล่โว่ ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง ที่ดำรงวิถีชีวิตอยู่ในพื้นที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้วยการปลูกข้าวไว้บริโภคมาอย่างยาวนาน
ส่วนนายอุทัย ขันทองหน.ปภ.จ.กาญจนบุรี (สาขาทองผาภูมิ) เปิดเผยว่า หลังจากได้รับการประสานขอความช่วยเหลือจาก อบต.ไล่โว่ ทางเราก็ได้เดินทางเข้าพื้นที่ในการสำรวจข้อเท็จจริง เพื่อหาทางช่วยเหลือชาวบ้านในทันที ภายหลังจากได้รับการร้องขอจากทาง อบต.ไล่โว่ ได้รีบเดินทางลงพื้นที่
สำหรับแนวทางการให้ความช่วยเหลือนั้น เบื้องต้น ทาง ปภ.จะนำเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านในการสูบน้ำเข้าที่นาของชาวบ้านที่มีพื้นที่อยู่ใกล้กับลำห้วยก่อน ส่วนสาเหตุที่ไม่สามารถนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เข้ามาในพื้นที่ได้ เนื่องจากมีปัญหาในการเคลื่อนย้าย เพราะเส้นทางการเดินทางนั้นเป็นเส้นทางขึ้นลงภูเขาที่สูงชันและคับแคบ จึงยากต่อการเคลื่อนย้ายเครื่องมือหนัก คาดว่าภายใน 1-2 วันข้างหน้า จะสามารถนำเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กเข้ามาได้ ทั้งหมดนี้จะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบต่อไป