ศูนย์ข่าวศรีราชา - กรมชลฯ รุดดูปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซากเมืองพัทยา พร้อมเสนอแนวทางขยายพื้นที่แก้มลิง หวังดึงน้ำฝนเข้าอ่างเก็บน้ำในพื้นที่เพื่อใช้ยามขาดแคลน
วันนี้ (14 ก.ค.) นายทวีศักดิ์ ธนเดโชบล รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่เมืองพัทยา เพื่อตรวจสภาพปัญหาน้ำท่วมขังหลังเกิดฝนตกหนัก โดยได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้หาแนวทางแก้ไขและจัดการการใช้ประโยชน์จากน้ำฝนที่ตกลงมาในพื้นที่เพื่อกักเก็บไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง
จากการสำรวจ พบว่า เมืองพัทยามักเกิดปัญหาน้ำท่วมขังอย่างหนักและภาพน้ำท่วมที่ออกอากาศผ่านสื่อต่างๆ เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการลงทุนในพื้นที่
ขณะที่ นายเกียรติศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รองปลัดเมืองพัทยา ได้ให้ข้อมูลว่า เมืองพัทยา เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งรองรับน้ำฝนจากฝั่งทิศตะวันออก ประกอบกับเมื่อมีการถมดินเพื่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ ทำให้คูคลองที่ถูกบุกรุกและตื้นเขิน และเมื่อมีมวลน้ำไหลบ่าจำนวนมากก็มักจะเกิดน้ำท่วมขัง
อีกทั้งท่อระบายของเมืองพัทยาที่มีมาแต่เดิมมีขนาดไม่เพียงพอในการรองรับมวลน้ำขนาดใหญ่ ปัจจุบัน เมืองพัทยาจึงมีโครงการในการขยายแนวท่อ และการจัดทำอุโมงค์ระบายน้ำบริเวณถนนสายชายหาดเพื่อลดผลกระทบน้ำไหลบ่าลงสู่ชายหาด
รวมทั้งโครงการดักน้ำบริเวณถนนเลียบทางรถไฟ จำนวน 3 โครงการ ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนและอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ เช่น การปรับปรุงสถานีสูบน้ำ จำนวน 6 แห่งตลอดแนวถนน การขยายแนวท่อจากเดิมให้มีขนาด 2 เมตร เพื่อการรองรับน้ำที่มากขึ้น และการผันน้ำลงสู่แหล่งธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นคลองกระทิงราย คลองเสือแผ้ว และคลองนาเกลือ
และการผันน้ำเข้าสู่พื้นที่แก้มลิงบริเวณตำบลห้วยใหญ่ ขนาดพื้นที่กว่า 20 ไร่ เพื่อหน่วงน้ำที่จะไหลบ่าเข้าสู่พื้นที่ในอนาคตได้กว่า 60-70%
นายทวีศักดิ์ ธรเดโชบล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อตรวจสภาพปัญหาเรื่องน้ำท่วมขังและการนำน้ำมาใช้ประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC โดยจะบูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการบริหารจัดการน้ำเพื่อให้ลดปัญหาและเกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับเมืองพัทยา มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากเนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยจะมีมวลน้ำไหลบ่าและไหลทิ้งลงสู่ทะเลเป็นจำนวนมาก จึงมีแนวคิดในการที่จะเข้ามาศึกษาเพื่อลดปัญหาน้ำท่วมขังและการนำน้ำกลับมาใช้ประโยชน์สูงสุด
และจากการลงพื้นที่ พบว่า เมืองพัทยามีอ่างเก็บน้ำสำคัญที่อยู่ใกล้เคียง 2 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำมาบประชัน ซึ่งมีปริมาตรความจุน้ำ 16 ลบ.ม. และอ่างเก็บน้ำชากนอก ที่มีปริมาตรความจุ 7 ล้าน ลบ.ม.แต่ ปริมาณน้ำทั้ง 2 อ่างอยู่ในภาวะขาดแคลน จึงมีแผนที่จะศึกษาและจัดหางบประมาณในการพัฒนาและขุดลอกพื้นที่แก้มลิงของเมืองพัทยา ใน ต.ห้วยใหญ่ขนาด 20 ไร่ และ ต.หนองใหญ่อีกกว่า 80 ไร่ เพื่อหน่วงน้ำที่ไหลบ่าเข้าสู่พื้นที่ลดปัญหาน้ำท่วมขัง
อีกทั้งยังมีแผนจัดการตั้งสถานีสูบและวางท่อส่งน้ำเพื่อผันน้ำไปกักเก็บในอ่างในการลดปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และยังจะได้นำเรื่องเข้าหารือและจัดสรรงบประมาณเพื่อมาดำเนินการต่อไป