เชียงราย - คอนเทนเนอร์ผลไม้ไทยผ่าน R3a เข้าจีนยังป่วนรับกฎสกัดโควิด สปป.ลาว ทั้งตกค้างรอคนขับ/หัวลาก-อุบัติเหตุซ้ำ หวังจีนเร่งคลายล็อกเปิดท่าเรือกวนเหล่ยริมน้ำโขงเพิ่มช่องทางขนส่งเร็ววัน
หลัง สปป.ลาวกำหนดระเบียบการขนสินค้าระหว่างประเทศผ่านเส้นทางอาร์สามเอ ไทย-แขวงบ่อแก้ว แขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว-ด่านฯ บ่อเต็น-บ่อหาน (โมฮาน) ชายแดนสิบสองปันนา สป.จีน ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ให้รถบรรทุกสินค้าเปลี่ยนคนขับ/หัวลากทั้งของไทยและจีนเป็นของ สปป.ลาวเท่านั้น ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนหัวลากทั้งที่ชายแดนห้วยทรายและบ่อเต็นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนทำให้สินค้าผลไม้ไทยตกค้างอยู่ปลายทาง R3a ชายแดนลาว-จีนกว่า 300 คันมาแล้ว
ล่าสุดแม้ทางการ สปป.ลาวจะแก้ไขปัญหาด้วยการกำหนดจุดถ่ายเทตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกสินค้าระหว่างหัวลากของ สปป.ลาว และจีน แต่เมื่อ 7 พ.ค. 63 ที่ผ่านมาคณะกรรมการเฉพาะกิจป้องกันโควิด ฝ่ายต่างประเทศ สปป.ลาว ได้ออกมาตรการเข้า-ออกประเทศฉบับใหม่ ซึ่งมีความเข้มงวดเกี่ยวกับการป้องกันโควิด ระบุว่าหากผู้ใดจะเข้ามาลาวต้องมีใบรับรองการตรวจโควิด และต้องเข้ากักบริเวณ 14 วันในโรงแรมหรือศูนย์กักกัน โดยผู้นั้นต้องออกค่าที่พักเอง ทำนองเดียวกันกับคนที่จะออกจาก สปป.ลาว ก็มีใบรับรองผลตรวจโควิด และต้องเข้ากักกัน 14 วัน
ทำให้การขนถ่ายสินค้าไม่รวดเร็วเหมือนปกติ นอกจากนี้ยังเกิดปัญหารถหัวลากอย่างน้อย 2 คันประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำบนถนน R3a ที่คดเคี้ยวและสูงชัน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะหัวลากไม่สอดคล้องกับตู้คอนเทนเนอร์ กลไกรถหัวลากจีนขับได้ยากกว่ารถหัวลากจากไทยทำให้เสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุเพิ่ม
น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวว่า หลังจากเกิดปัญหาดังกล่าวทางรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หารือกับประเทศต่างๆ ทั้ง สปป.ลาว และจีน จนเกิดการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น แต่ในระยะยาวนั้นตนเห็นว่าหากเพิ่มทางเลือกในการขนส่งสินค้าไปทางเรือแม่น้ำโขงก็จะเป็นผลดีต่อการส่งออกสินค้าของไทยได้มากขึ้น
เพราะไทยมีท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 2 ต.สบกก อ.เชียงแสน อยู่แล้ว สามารถรองรับเรือสินค้าได้วันละกว่า 12-14 ลำ ทางหอการค้ายังเคยเสนอให้มีการเพิ่มศักยภาพด้านเครนยกสินค้าไปแล้วด้วย ขณะที่ระยะทางการขนส่งจาก อ.เชียงแสน-ท่าเรือกวนเหล่ย เมืองท่าหน้าด่านริมน้ำโขงของจีน ก็ห่างกันประมาณ 265 กิโลเมตรใกล้เคียงกับทางบก (R3a) และสามารถเชื่อมไปถึงเมืองกาหลั่นป้า เมืองเชียงรุ้ง หรือจิ่งหง สิบสองปันนา ได้อีกด้วย
“การขนส่งสินค้าทางเรือจะทำให้ต้นทุนต่ำกว่าทางบกอีก 2-3 เท่าตัว และขนส่งตรงจากไทยไปจีนโดยไม่ต้องผ่านรายทาง อย่างไรก็ตามยังคงติดปัญหาเรื่องที่ทางการจีนยังปิดท่าเรือกวนเหล่ยตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 รอบสองอยู่ แต่ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลาย และการขนส่งทางเรือก็ไม่ได้ใช้คนพลุกพล่านมากนัก จึงคาดหวังว่าจีนจะเปิดท่าเรือแห่งนี้เพื่อรองรับสินค้าในแม่น้ำโขง ซึ่งทราบว่าฝ่ายต่างๆ ก็กำลังหารือกันอยู่คาดว่าจะทราบผลในไม่กี่วันนี้”
ทั้งนี้ หากมีการขนส่งทางแม่น้ำโขงก็พบว่าระดับน้ำมีความเหมาะสม โดยศูนย์ควบคุมแม่น้ำล้านช้าง เมืองจิ่งหง แจ้งว่ามีการระบายน้ำออกจากเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงลงมาในปริมาณ 1,115 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำลึกมากกว่า 2 เมตรติดต่อกันมานานนับเดือนแล้ว
รายงานข่าวจากด่านศุลกากรเชียงของระบุว่า สินค้าผลไม้สดเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของไทยบนถนนอาร์สามเอติดต่อกันมาตลอดปี 2562 ที่ผ่านมา และปี 2563 ก็ยังคงครองอันดับ 1 โดยในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมามีการส่งออกปริมาณ 38,086,314.80 กิโลกรัม มูลค่า 990,000,144.61 บาท และเดือน ก.พ.ส่งออกปริมาณ 20,019,375 กิโลกรัม มูลค่า 699,749,180.13 บาท รองลงไปเป็นสินค้าประเภทโคกระบือมีชีวิต วัสดุก่อสร้าง เครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ