เชียงราย – สถานการณ์การค้าตามแนวชายแดนเชียงรายลุ่มน้ำโขงหยุดชะงักทั้งคนทั้งสินค้าไม่มีการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะสินค้าประเภผลไม้จากจีนเรือจอดตกค้างอื้อไม่สามารถนำเข้ามาได้ เหลือแต่การค้าไทย-เมียนมา-สปป.ลาว เท่านั้นที่ยังทำการค้าอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การป้องกันไวรัสโคโนาสายพันธุ์ใหม่ใน จ.เชียงราย พบว่าศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีการระบาดฯ ยังคงตั้งจุดคัดกรองตามจุดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ จ.เชียงราย โดยเฉพาะชาวจีนอย่างต่อเนื่องโดยพบว่าตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมีผู้เดินทางจากประเทศจีนผ่านท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย แล้วจำนวน 9,645 คน ด่านพรมแดน อ.แม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา จำนวน 1,640 คน ด่านพรมแดน อ.เชียงของ ไทย-สปป.ลาว จำนวน 985 คน และด่านพรมดน อ.เชียงแสน ไทย-สปป.ลาว จำนวน 4,854 คน รวมทั้งหมดจำนวน 17,124 คน
ซึ่งที่ผ่านมามีการพบผู้ต้องสงสัยเป็นเด็กหญิงจีนวัย 4 ขวบที่มาจากเมืองกว่างโจวเพียงคนเดียวและได้รับการยืนยันว่าไม่พบเชื้อแล้วและยังไม่พบผู้ต้องสงสัยรายใหม่แต่อย่างใดกระนั้นนักท่องเที่ยวชาวจีนก็ลดน้อยลงตามมาตรการปิดด่านที่เข้มงวดของทางการจีนไปโดยปริยาย
รายงานข่าวแจ้งว่าด้านด่านพรมแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.ท่าขี้เหล็ก ตรงกันข้าม อ.แม่สาย พบว่าทางการเมียนมาได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปประจำการร่วมกับด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ในการตรวจบุคคลเข้าออกชายแดนโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากฝั่งไทย ขณะที่ชายแดนเมียนมา-จีน พบว่าที่เขตปกครองตนเองชาวไตรุ่ยลี่ติดกับเมืองมูเซ ประเทศเมียนมา ได้มีการปิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดทั้งโรงแรม สถานบันเทิง ฯลฯ และงดการจัดแสดงทุกชนิด ส่วนที่บริเวณด่านพรมแดนก็ตรวจสอบการเข้าออกเมืองอย่างเข้มงวดโดยไม่อนุญาตให้คนจากต่างถิ่นเดินเข้าไปยังรุ่ยลี่ และขอความร่วมมือให้ผู้คนนอกพื้นที่ที่ตกค้างอยู่ภายในเมืองให้เดินทางกลับออกมาทั้งหมดแล้วด้วย
ด้านการค้าชายแดนของ จ.เชียงราย พบว่าเกิดภาวะชะงักงันอย่างขนานใหญ่เมื่อทางการเมียนมาได้เข้มงวดจุดจอดเรือตามเมืองท่าในแม่น้ำโขงทุกจุดทั้งที่ท่าเรืองบ้านโป่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ห่างจาก อ.เชียงแสน ไปทางทิศเหนือประมาณ 17 กิโลเมตร เมืองท่าสบโหลยในเขตปกครองพิเศษที่ 4 ห่างจาก อ.เชียงแสน ไปทางทิศเหนือประมาณ 200 กิโลเมตร
ส่วนจุดการค้าระหว่างเมียนมา-จีน ก็ถูกปิดไปหลายแห่ง เช่น ด่านต้าล่อของเมืองลา ฯลฯ และตามเมืองท่าก็ไม่อนุญาตให้ชาวจีนที่มีความเสี่ยงขึ้นฝั่งด้วย เช่นเดียวกับท่าเรือในเขตเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำตรงกันข้าม อ.เชียงแสน ก็ปิดตัวไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเดินทางเข้าไปเช่นกัน ส่งผลให้เรือสินค้าจีนจำนวนมากต่างจอดเรียงรายริมฝั่งตามเมืองท่าต่างๆ โดยไม่มีการขนส่งสินค้าใดๆ
ขณะที่ด่านพรมแดนจีน-สปป.ลาว ที่เมืองบ่อหาน มณฑลยูนนาน ติดต่อกับเมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา ห่างจาก อ.เชียงของ ไปทางทิศเหนือบนถนนอาร์สามเอประมาณ 254 กิโลเมตร พบว่าทางการจีนไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเดินทางผ่านด่านและมีการเข้มงวดเรื่องการตรวจโรคอย่างหนัก
โดยมาตรการดังกล่าวปฏิบัติมาตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมาแล้วส่งผลทำให้รถบรรทุกสินค้าของไทยประเภทผลไม้ เช่น มังคุด ฯลฯ พากันไปจอดตกค้างอยู่ที่ด่านเมืองบ่อเต็นมาแล้วหลายวัน อย่างไรก็ตามล่าสุดในวันนี้มีรายงานว่ามีรถบรรทุกและคนงานจากประเทศจีนเข้ามารับสินค้าดังกล่าวในฝั่งเมืองบ่อเต็นแล้วจากนั้นได้ขนส่งสินค้าที่คงค้างเข้าไปในประเทศจีนได้สำเร็จ
นายอนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่าจากการสอบถามไปยังผู้ประกอบการค้าชายแดนที่ติดต่อกับค้าขายกับประเทศจีนมานานทราบว่าตั้งแต่มีปัญหาเรื่องไวรัสดังกล่าวทำให้การส่งออกสินค้าเกิดภาวะชะงักงัน สถานการณ์คือทางการจีนไม่ได้มีการปิดด่านพรมแดนโดยทุกด่านยังคงสามารถส่งสินค้าเข้าไปได้แต่เนื่องจากถนนภายในมณฑลยูนนาน เช่น ทางไปนครคุนหมิงซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑล ฯลฯ มีการตั้งจุดตรวจหรือปิดซึ่งบุคคลภายนอกไม่อาจจะทราบได้ ดังนั้นจึงไม่กล้าเสี่ยงที่จะขนสินค้าผ่านด่านพรมแดนเข้าไปในประเทศจีนได้โดยตรงทำให้รถบรรทุกสินค้าอาจไปรอกันที่ด่านเมืองบ่อเต็นจนรถบรรทุกสินค้าจีนเข้ามารับไปดังกล่าวซึ่งภาวะการณ์เช่นนี้คงต้องรอต่อไปจนกว่าจะเบาบางลง
ด้าน น.ส.ผกายมาศ เวียร์ร่า รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่าปัจจุบันการค้าชายแดนด้าน จ.เชียงราย ถือว่าได้รับผลกระทบอย่างหนักเพราะไม่สามารถส่งสินค้าไปตามด่านต่างๆ ของจีนได้ทั้งๆ ที่ตลาดในประเทศจีนเองมีความต้องการสินค้าโดยเฉพาะประเภทอาหารจากประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ส่วนด้านท่องเที่ยวทางเรือในแม่น้ำโขงยิ่งหยุดสนิทเพราะภาวะการเฝ้าระวังโรคดังกล่าวจึงเป็นโจทย์ที่ว่าทางรัฐบาลจะพิจารณาหาวิธีการผ่อนเบาวิกฤตินี้ให้ผ่านพ้นไปได้อย่างไรต่อไป กระนั้นในส่วนของการค้าไทย-เมียนมา และไทย-สปป.ลาว ยังคงดำเนินไปตามปกติ
รายงานข่าวแจ้งว่าในปี 2562 ที่ผ่านมาสำนักงานพาณิชย์ จ.เชียงราย ได้รายงานผลการค้าชายแดนระหว่าง จ.เชียงราย กับประเทศเมียนมา สปป.ลาว และจีนตอนใต้ ว่ามีมูลค่ารวมกันจำนวน 52,688.72 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 44,218 ล้านบาท และนำเข้ามูลค่า 8,470 ล้านบาท โดยทั้งหมดเป็นการค้ากับประเทศจีนกว่า 27,330 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค เชื้อเพลิง ผลไม้ ฯลฯ ส่วนสินค้าที่นำเข้าส่วนใหญ่จะเป็นผักผลไม้ ดอกไม้ สินแร่ ฯลฯ ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าการค้าหลายชนิดเป็นการค้าผ่านแดนซึ่งพบว่าจากวิกฤติไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ครั้งนี้ทำให้การค้าผ่านแดนดังกล่าวประสบความชะงักงันไปด้วยเช่นกัน.