xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่นำแถลงจับมือเผาป่าแม่แตง-เชียงดาว 3 ราย พร้อมเผยเร่งรวบรวมหลักฐานจ่อจับอีกเพียบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ควงผู้ตรวจกระทรวงทรัพย์ พร้อมผู้การฯ เชียงใหม่ และ ผบ.มทบ.33 แถลงจับมือเผาป่าแม่แตงและเชียงดาว 3 รายล่าสุด สารภาพหาของป่าและแผ้วถางพื้นที่ทำการเกษตร เผย จนท.เร่งรวบรวมหลักฐานจ่อจับอีกเป็นร้อย


ช่วงเที่ยงวันนี้ (14 เม.ย. 63) ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอแม่แตง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ หัวหน้าผู้ตรวจกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, พลตรี สืบสกุล บัวระวงศ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 และพลตำรวจตรี พิเชษฐ จิระนันตะสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ ร่วมสอบปากคำ พร้อมแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุลักลอบเผาป่าจำนวน 2 ราย

รายแรกคือ นายประดิษฐ์ ทองเหลือ อายุ 60 ปี ชาวอำเภอแม่ริม เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการลาดตระเวนได้พบผู้ต้องหาบริเวณแนวป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลาแม่แสะ อำเภอแม่แตง ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยพบอาวุธปืนยาว เครื่องกระสุน และไฟแช็ก 1 อัน จึงได้นำควบคุมตัวมาสอบสวน ซึ่งพบว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับที่เจ้าหน้าที่ได้พบและว่ากล่าวตักเตือนกรณีเข้ามายังพื้นที่ป่าไปก่อนหน้านี้ แต่ยังเพิกเฉยฝ่าฝืนเคอร์ฟิว และลักลอบเข้าพื้นที่ป่า ซึ่งเจ้าตัวสารภาพว่าเข้าป่ามาเพื่อหาของป่าล่าสัตว์ โดยนายประดิษฐ์ให้การว่าแค่เข้าไปเที่ยวในป่า ส่วนไฟแช็กก็มีไว้เพื่อสูบบุหรี่เท่านั้น ขณะเข้าไปในป่าและกำลังสูบบุหรี่ก็เห็นไฟลุกไหม้ป่าแล้ว


ส่วนรายที่สองคือ นายเปา เลาหาง อายุ 53 ปี ชาวอำเภอเชียงดาว เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนา พร้อมด้วยชุดลาดตระเวน และกำลังพลหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 ได้เข้าลาดตระเวนพื้นที่ป่าเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ เละเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่า เมื่อวันที่ 11 เมษายน โดยทำการดักซุ่มสังเกต จนพบนายเปา พร้อมอุปกรณ์มีดและไฟแช็ก กำลังสุมเผากองไม้บริเวณป่าทิศตะวันออกบ้านห้วยลึก ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว ตรวจสอบพบพื้นที่ป่าเสียหายประมาณ 3 ไร่ จึงได้ควบคุมตัวดำเนินคดี เจ้าตัวรับสารภาพแผ้วถางเพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก

นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาอีกหนึ่งราย คือ นายเรวัต สิงห์คำ อายุ 42 ปี ที่ควบคุมตัวไปดำเนินคดีก่อนหน้านี้แล้ว โดยจับกุมได้บริเวณบ้านลีซูใหม่สัมพันธ์ ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว พร้อมของกลาง เป้ 1 ใบ น้ำผึ้งป่า 6 ขวด และไฟแช็ก 1 อัน หลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเกิดจุดความร้อนในพื้นที่จึงเข้าไปลาดตระเวน กระทั่งพบนายเรวัติเดินออกมาจากป่าจึงควบคุมตัวไว้พร้อมของกลาง


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย แยกเป็น ข้อหาเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้และสัตว์ป่า ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า และตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่เรื่องกำหนดเขตการควบคุมการเผาในที่โล่งทุกชนิดฯ และข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน (เคอร์ฟิว) ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งฟ้องศาลฯ ขณะที่การดำเนินคดีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาจนถึงวันนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาและดำเนินคดีรวมวันนี้อีก 3 คดี เป็น 31 คดี สามารถขยายผลจากในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรแม่อาย 4 คดี สถานีตำรวจภูพิงคราชนิเวศน์อีก 3 คดี รวมทั้งสิ้น 38 คดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำสำนวนเพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้ที่ลักลอบเผาป่าทุกราย โดยจะมีการขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหารายอื่นๆ เพิ่มเติม สำหรับคดีที่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ตำรวจกำลังเร่งรวบรวบพยานหลักฐาน โดยเฉพาะการนำพื้นที่การทำประโยชน์ของประชาชนในเขตป่าสงวนที่ทับซ้อนกับเหตุเพลิงไหม้มาตรวจสอบ ยืนยันว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำงานกันอย่างหนักเพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเผาป่า และควบคุมไม่ให้เกิดจุดความร้อนที่มาจากการเผา ซึ่งมีผลให้ค่ามลพิษทางอากาศของจังหวัดเชียงใหม่เกินมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเพื่อพิสูจน์ทราบ เพื่อติดตามจับกุมผู้ลักลอบเผาป่าอีกหลายร้อยรายมาดำเนินคดีโดยเร็ว






กำลังโหลดความคิดเห็น