ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-เชียงใหม่เร่งเครื่องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์โควิด-19 กรณีรุนแรง จับมือโรงพยาบาลและคณะแพทย์ มช.ปรับปรุงพื้นที่เพิ่มเตียงรับผู้ป่วย โดยเฉพาะอาการรุนแรง และพร้อมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขนาด2,000-3,000เตียง
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับทีมแพทย์จากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โรงพยาบาลประสาท และโรงพยาบาลสันทราย ร่วมกันตรวจเยี่ยมและแถลงการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของของโรคโควิด-19 ที่โรงพยาบาลประสาท อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ วานนี้(3 เม.ย.63) ซึ่งเป็นความร่วมมือของโรงพยาบาลทุกแห่งเพื่อเตรียมมาตรการรองรับการเข้าสู่ระยะที่ 3
โดยมีหลักการสำคัญคือทำอย่างไรให้มีผู้เสียชีวิตน้อยที่สุด ในเบื้องต้นจังหวัดเชียงใหม่มีเตียงรองรับผู้ป่วยอาการรุนแรงทั้งสิ้น 22 เตียง อยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ 7 เตียง โรงพยาบาลนครพิงค์ 15 เตียง โดยมีความร่วมมือกันระหว่างโรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะเตรียมเตียงเพิ่มให้อีก 93 เตียง ในช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคม
ขณะที่คนไข้อาการปานกลาง มีเตียงที่สามารถพัฒนาได้ทั้งหมด 240 เตียง ยังไม่รวมโรงพยาบาลชุมชนต่างๆ ที่สามารถปรับเพื่อรับผู้ป่วยอาการเล็กน้อยได้อีก 260 เตียง หรือในกรณีที่มีความจำเป็นต้องทำโรงพยาบาลสนาม ยังสามารถทำได้อีก 2,000 เตียง สำหรับงบประมาณที่ใช้อยู่วางไว้ที่ 12 ล้าน เป็นงบจากโรงพยาบาลทุกแห่ง รวมทั้งงบของจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมนำมาใช้เพื่อการป้องกันและดูแลอย่างเต็มศักยภาพ เพราะหากเตรียมความพร้อมได้มากโอกาสเสียชีวิตจะน้อย
สำหรับโรงพยาบาลประสาทนั้น ถูกจัดให้เป็นสถานที่ดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่ ที่อาการไม่หนัก ได้จัดหอผู้ป่วยรองรับไว้ 2 ชั้น ชั้นละ 12 ห้อง รวมเป็น 24 ห้อง เปิดรับผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมามีผู้ป่วยสะสม 17 ราย กลับบ้านไปแล้ว 6 ราย ส่งต่อไปโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ 1 ราย ปัจจุบันมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรับการรักษาอยู่ 10 ราย
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า ในหลักการแล้วเมื่อสถานการณ์เกิดขึ้นทุกโรงพยาบาลจะต้องรวมกันเป็นหนึ่ง บริหารงานร่วมกัน โดยมีการขอกรมธนารักษ์ สนับสนุนใช้พื้นที่ศูนย์ประชุมนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ7รอบพระชนมพรรษาเป็นโรงพยาบาลสนาม โดยผู้ติดเชื้อจะแบ่งออกเป็น อาการหนักมาก มีความจำเป็นต้องใช้หอผู้ป่วยหนัก แนวโน้มผู้ป่วยในกลุ่มนี้คือผู้สูงอายุ จึงประชาสัมพันธ์ เรื่องรดน้ำดำหัวในช่วงประเพณีปีใหม่เมือง ขอให้ยกเลิกไปก่อน ให้ผู้สูงอายุอยู่ห่างจากคนนอกบ้าน อีกกลุ่มคือผู้ป่วยที่มีอาการปานกลางไม่จำเป็นต้องใช้หอผู้ป่วยหนัก
ขณะที่ผู้ป่วยติดเชื้อเล็กน้อย ได้ขอใช้พื้นที่ศูนย์ประชุมนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ7รอบพระชนมพรรษา เป็นโรงพยาบาลสนามขนาด 2,000 – 3,000 เตียง อย่างไรก็ตามขอให้พี่น้องชาวเชียงใหม่ช่วยกันปฏิบัติตามข้อแนะนำต่างๆ โดยเฉพาะ social distancing และกระบวนการตามที่สาธารณสุขแนะนำ ซึ่งหากไม่เข้าไปสามารถไปขอคำแนะนำจากคณะกรรมการโควิดประจำหมู่บ้าน ชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ถ้าดูแลตัวเองดี มีวินัย คิดถึงคนส่วนรวม ก็จะปลอดจากโรค
