xs
xsm
sm
md
lg

ปรับโรงแรมเป็น รพ.สนาม 1.6หมื่นห้องพักฟื้นผู้ป่วย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

“อนุทิน” บุกให้กำลังใจ “รพ.พระนั่งเกล้า” พร้อมเวชภัณฑ์-อาหารสำเร็จรูป ที่ได้รับจากเอกชน “สาธิต” ตั้งเป้าปรับโรงแรมเป็น “รพ.สนาม” ใช้พักฟื้นผู้ป่วย-กลุ่มเฝ้าระวัง รวม 1.6 หมื่นห้องใน เม.ย.นี้ วางเกณฑ์คัด “ผู้ป่วย” เข้ม

วานนี้ (2 เม.ย.) ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งนำนำอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ หน้ากากอนามัย จำนวน 2,000 ชิ้น หน้ากาก N95 จำนวน 200 ชิ้น ชุด PPE จำนวน 200 ชุด และอาหารกึ่งสำเร็จรูป มามอบให้ผู้ปฏิบัติงาน

“วันนี้มาเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางแพทย์ ซึ่งเป็นผู้ที่ปฏิบัติงานอยู่ด่านหน้า มีความเสี่ยงในการทำงาน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน ยังได้กล่าวขอบคุณภาคเอกชนที่ได้ร่วมมอบอุปกรณ์ และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ รวมทั้งเครื่องอุปโภคและอาหารกึ่งสำเร็จรูปให้แก่รัฐบาลด้วยว่า สิ่งของที่ชิ้นมีคุณค่า มีความหมายกับผู้ปฏิบัติงานทางการแพทย์และผู้ป่วยทุกคน ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่มอบให้รัฐบาล จะรีบส่งมอบไปยังพื้นที่ทันที ให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลและด่านต่างๆ รวมถึงผู้ป่วยและญาติ โดยคณะกรรมการตรวจรับสิ่งของและจัดส่งจะดำเนินการด้วยความโปร่งใสตรวจสอบได้

“หมอตี๋” เร่งเครื่อง Hospitel

อีกด้าน ที่โรงแรมเดอะพาลาสโซ กทม. นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงฯ ร่วมกับผู้บริหารโรงแรมเดอะพาลาสโซ และผู้บริหารโรงแรมปรินซ์ตัน แถลงข่าวความคืบหน้าในการนำโรงแรมมาใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 และกลุ่มเฝ้าระวังที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น

นายสาธิต เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับสมาคมโรงแรมไทย เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนโรงแรมให้เป็นโรงพยาบาลสนาม 2 รูปแบบ คือโรงพยาบาลสนามที่ใช้พักฟื้นผู้ป่วยโรคโควิด-19 (Hospitel) และโรงพยาบาลสนามที่ใช้สังเกตอาการของผู้เข้าข่ายเฝ้าระวังฯ (Hotel Isolation) รวมทั้งได้เตรียมทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการแยกกักตัวเองจากครอบครัว โดยโรงแรมปรินซ์ตัน และโรงแรมพาลาซโซ ได้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน Hospitel ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) แบ่งเป็นโรงแรมปรินซ์ตันมีจำนวน 270 ห้อง ขณะนี้รับผู้ป่วยพักฟื้นตามเกณฑ์กรมการแพทย์ประมาณกว่า 50 คน อยู่ห้องแยกทุกคน และโรงแรมพาลาซโซอีก 439 ห้อง

“ขอความกรุณาให้สังคมเข้าใจในสถานการณ์ ที่มีความจำเป็นต้องมีสถานที่รองรับผู้ติดเชื้อ จึงขอให้ชุมชนรอบข้างเข้าใจและยอมรับการอยู่ร่วมกันให้ได้ และขอให้มั่นใจในมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขในระบบจัดการไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นด้วย” นายสาธิต กล่าว

เช็คยิบผู้ป่วยเข้าพัก Hospitel

ด้าน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวเสริมถึงเกณฑ์การพิจารณารับผู้ป่วยเข้าพักใน Hospitel ว่า ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลมาแล้วไม่น้อยกว่า 7 วัน, มีผลภาพถ่ายรังสีปอด (chest x - ray) คงที่, ผู้ป่วยยินดีให้ความร่วมมือ สื่อสารได้รู้เรื่อง ดูแลตนเองได้ดี ไม่ก้าวร้าว หรือไม่มีความเสี่ยงทางจิตเวช, ผู้ป่วยต้องไม่มีไข้ โรคประจำตัวควบคุมอาการได้ดี, ผู้ป่วยมียามาจากโรงพยาบาลครบตามแผนการรักษา และโรงพยาบาลต้นทางยินดีมารับผู้ป่วยกลับเข้ารักษาหากผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลง โดยมีทีมบุคลากรทางการแพทย์ดูแลติดตามอาการทุกวัน จำนวน 3-5 คนต่อผู้ป่วย 100 คน และทุกห้องจะต้องมีเครื่องมือทางการแพทย์อย่างน้อย 2 ชิ้น ซึ่งส่วนใหญ่โรงพยาบาลจะจัดให้ คือ เทอร์โมมิเตอร์แบบอัตโนมัติ และเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว

วาง 5 คุณสมบัติคัดโรงแรม

สำหรับเกณฑ์ประเมินความเหมาะสมของโรงแรมในการตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามนั้น นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ระบุว่าแบ่งเป็น 5 หมวด ประกอบด้วย 1.โครงสร้างอาคารและวิศวกรรมต้องมีความปลอดภัย และห้องพักต้องเป็นห้องปรับอากาศแยกส่วน ไม่เป็นระบบท่อส่งลมร่วมกัน, 2.มีการจัดเตรียมบุคลากรสนับสนุนที่ผ่านการอบรมอย่างถูกต้อง, 3.มีความเพียบพร้อมของเครื่องมือทางการแพทย์ อุปกรณ์สำนักงานและอื่นๆ, 4.มีการจัดเตรียมยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลไว้ให้บริการอย่างเหมาะสม และ 5.การจัดการสิ่งแวดล้อมและเป็นมิตรกับชุมชน มีระบบการจัดการขยะติดเชื้อ การบำบัดน้ำเสีย การกำจัดสิ่งปฏิกูลที่ได้มาตรฐาน

“ขณะนี้ มีโรงแรมทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมแล้ว 132 แห่ง อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ คาดว่าจะขยายจำนวนห้องพักฟื้นผู้ป่วยและผู้เข้าข่ายเฝ้าระวังได้มากกว่า 16,000 ห้อง ในช่วงเดือน เม.ย.นี้” นพ.ธเรศ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น