ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-จังหวัดเชียงใหม่ปล่อยแถวบูรณาการทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจเข้มการออกนอกเคหสถานของประชาชนหลังมีกานประกาศเคอร์ฟิว ใน เวลา 22.00 น. - 04.00 น. คนให้ความร่วมมือเงียบทั้งเมือง
ช่วงคืนวานนี้(3 เม.ย.63) ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยพลตรีสืบสกุล บัวระวงศ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 พลตำรวจโทประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมปล่อยแถวพิธีปล่อยแถวการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เคอร์ฟิว เวลา 22.00 น. - 04.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่, ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง, ตำรวจท่องเที่ยว, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และอาสาสมัครเข้าร่วมจำนวน 162 คน
เพื่อบูรณาการการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ไวรัสโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2563 ห้ามบุคคลทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา 22.00 น ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่มีความจำเป็นหรือเป็นผู้ปฏิบัติงานเฉพาะด้านและมีความจำเป็นจะต้องปฏิบัติงานตามข้อกำหนด
จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บริเวณลานข่วงประตูท่าแพ ซึ่งมีการตั้งจุดตรวจ รวมทั้งเต็นท์สำหรับตรวจคัดกรองวัดไข้กลุ่มเสี่ยงด้วย ซึ่งขณะตรวจเยี่ยมพบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติสองคนนั่งคุยกันอยู่จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวพูดคุยสร้างความเข้าใจในการประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกจากเคหะสถานหรือโรงแรมที่พักหลังเวลา 22.00 น.
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ถือเป็นการบูรณาการกำลังของทุกภาคส่วน ในการตั้งด่านตรวจบังคับใช้ฎหมาย ให้ครอบคลุมทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้สถานการณ์ฉุกเฉินจากภัยของโรคติดเชื้อโควิด-19 ยุติได้โดยเร็ว เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทุกคน ซึ่งจะมีใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจังต่อผู้ที่จงใจฝ่าฝืน โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 38 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนชาวเชียงใหม่ทุกคนได้ร่วมมือร่วมใจปฏิบัติตามข้อกำหนดอันนี้ซึ่งถือเป็นภารกิจอันสำคัญ เพื่อร่วมกันทำเพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ
ทั้งนี้พบว่าประชาขนชาวเชียงใหม่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเนื่องจากทราบกำหนดเวลาตามการประกาศเคอร์ฟิวล่วงหน้า จึงไม่ออกจากเคหะสถาน กันจนทำให้เมืองเชียงใหม่เริ่มเงียบเหงามาตั้งแต่เวลา21.00น จนกระทั่งถึงเวลา22.00น.แทบจะไม่มี ยวดยานวิ่งในเขตตัวเมืองเชียงใหม่เลย ถามถนนสายหลักต่างก็โล่งแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จะมีนักท่องเที่ยวไม่กี่คนที่ออกมานี่งเล่นที่ข่วงประตูท่าแพแต่เจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปประชาสัมพันธ์และบอกข้อกำหนดให้เข้าใจก็ยินดีกลับที่พักตามเวลา
