พระนครศรีอยุธยา - กรุงเก่าพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 1 ราย เดินทางมาจากร่วมปฏิบัติธรรมในประเทศอินโดนีเซีย รวมตอนนี้ในพื้นที่พบ 4 ราย ด้านเจ้าหน้าที่ปล่อยแถวเตรียมเข้มความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน
เวลา 21.00 น.วันนี้ (3 เม.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันปล่อยแถวการปฏิบัติหน้าที่ภายใต้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 2)
เพื่อสร้างความปลอดภัย และเป็นไปด้วยความเรียบร้อยให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเป็นการบูรณาการร่วมกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร และมูลนิธิต่างๆ รวมทั้งสิ้น 158 นาย รถยนต์ 18 คัน รถจักรยานยนต์ 20 คัน และจักรยาน 10 คัน
ทั้งนี้ ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร และได้ออกข้อกำหนด (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 แล้วนั้น เพื่อให้มีมาตรการต่างๆ เพิ่มขึ้นตามความจำเป็น เพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินให้ยุติลงได้โดยเร็ว นายกรัฐมนตรี จึงออกข้อกำหนดเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา 22.00 นาฬิกา ถึงเวลา 04.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่มีความจำเป็น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ภายใต้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 2) ในภาพรวมของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุด ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในส่วนของกลุ่มที่มีการสอบสวนโรค 100 กว่าราย ผลปรากฏว่าไม่มีการติดเชื้อ แต่มีผู้ติดเชื้อ 3 รายเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นกลุ่มที่อยู่นอกกลุ่มสอบสวนโรค ซึ่งกระบวนการสอบสวนโรคทำการสอบสวนอย่างละเอียดว่าแหล่งที่เขาติดมาเป็นอย่างไร
และในวันนี้มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เดินทางมาจากการปฏิบัติธรรมที่ประเทศอินโดนีเซีย เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ซึ่งทางราชการได้มีการแนะนำให้กักตัวไว้ ซึ่งทั้ง 6 รายเป็นพี่น้องที่ไปปฏิบัติธรรม และมาอยู่ในมูลนิธิแห่งหนึ่งในอำเภอพระนครศรีอยุธยา ซึ่งวันนี้พบ 1 ราย ได้ส่งตรวจที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ซึ่งทำให้ตอนนี้อีก 5 รายที่อยู่ด้วยกันได้นำเชื้อไปตรวจตามกระบวนการและควบคุมไว้
ซึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีประชาชนที่เดินทางเข้ามาหลังจากที่มีสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ประมาณ 4,000 ราย ซึ่งบุคคลเหล่านี้ทางราชการรู้หมดแล้วว่าเป็นใคร ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ไปให้คำแนะนำในการกักตัว ซึ่งมีประมาณ 300 กว่ารายได้พ้นการกักตัวแล้ว ในส่วนที่ยังคงกักตัวอยู่ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบดูแลอยู่ตลอด
ในส่วนของการปล่อยแถวในวันนี้ ได้สนธิกำลังทุกภาคส่วน ซึ่งในวันนี้เป็นวันแรกอาจจะมีหลายส่วนที่ปฏิบัติได้ไม่สมบูรณ์ เรามีการประสานผู้ที่ไปตรวจในวันนี้ เน้นในเรื่องของการแนะนำ และจะมีการเข้มงวดในวันถัดไป และอีกส่วนหนึ่งคือสถานประกอบการซึ่งในจังหวัดมีอยู่กว่า 2,000 แห่ง ต้องมีการเคลื่อนย้ายคน เรามีการตรวจเข้มในทุกจุดซึ่งจะมีทุกอำเภอ
เพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของคน เพราะการที่ยังเคลื่อนย้ายหรือออกมาซื้อของ ยังเป็นโอกาสของการแพร่เชื้อโรคได้ จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการเข้มงวด ก็ต้องขอความร่วมมือพี่น้องชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เราอาจจะลำบากสักหน่อยในช่วงนี้ แต่สิ่งเหล่านี้จะเป็นผลดีในการช่วยพวกเราให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำงานอย่างเต็มที่ ตรวจตรา ดูแล เพื่อควบคุมโรคให้ดีที่สุด แต่สิ่งสำคัญที่สุดต้องได้รับความร่วมมือจากพี่น้องชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทุกคน