กาญจนบุรี - ผู้ว่าฯ กาญจน์ เผยสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) สะสมทั้งหมด 23 ราย เข้าข่าย 2 ราย ติด 1 ราย แต่อยู่ กทม. คือผู้ใช้เฟซบุ๊กนามนะจ๊ะ เสียงเหน่อ
เย็นวันนี้ (17 มี.ค.) ที่ห้องประชุมแควน้อย ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานแถลงข่าวสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการเฝ้าระวังการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี นพ.นิพนธ์ พัฒนกิจเรือง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี นายอนันต์ นาคนิยม ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา หัวหน้าสำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าร่วมแถลง
ทั้งนี้ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี แถลงว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา จังหวัดกาญจนบุรี ได้กำหนดมาตรการควบคุมแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัส โดยให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ในส่วนของหน่วยงานต่างๆ ให้ดำเนินการตามภารกิจที่รับผิดชอบ โดยมีเป้าหมายลดโอกาสการแพร่เชื้อและชะลอการระบาดของโรค มีมาตรการสำคัญระดับบุคคล สังคม ควบคุมพื้นที่การระบาด การรองรับผู้ป่วยจำนวนมาก การดูแลกลุ่มเสี่ยงสูงเตรียมความพร้อมของเวชภัณฑ์ บุคลากรทางการแพทย์ จนถึงปัจจุบันนี้จังหวัดกาญจนบุรี ยังสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้
สำหรับสถานการณ์ของกลุ่มบุคคลที่ติดเชื้อและกำลังเฝ้าระวังมี 4 กรณี คือ 1.พบผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลี จากการเข้าไปทำงานอย่างผิดกฎหมาย หรือที่เรียกกันว่าผีน้อย มีจำนวน 5 ราย ได้มีการกักตัวเฝ้าติดตามอาการระยะเวลา 14 วัน และติดตามอาการอย่างใกล้ชิดทุกวัน
2.เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา พบบุคคลที่ใช้นามว่า นะจ๊ะ เสียงเหน่อ ถ่ายภาพของตนเองมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก พร้อมกับบรรยายระบุว่า ตนเองได้รับโทรศัพท์จาก รพ.รามาธิบดี ว่า ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงโทรศัพท์กลับมาแจ้งญาติให้ระวังตัวเองและสังเกตอาการของตัวเองและคนในครอบครัว
ดังนั้น ทีมเฝ้าระวังสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) อำเภอพนมทวน ได้ออกสอบสวนผู้สัมผัสควบคุมโรค และค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติม พบว่า มีผู้สัมผัสใกล้ชิดจำนวน 10 ราย พร้อมให้เฝ้าระวังตัวเองเป็นเวลา 14 วัน และปฏิบัติตัวตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
3.พบผู้ที่เป็นเซียนมวยได้รับเชื้อมาจากนอกพื้นที่ และได้เดินทางกลับมายังจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง จึงได้มีการกักตัวในพื้นที่เหมาะสม และนำส่งไปตรวจหาเชื้อไวรัสยังห้องแล็บ ผลการตรวจครั้งที่ 1 พบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยันเป็นครั้งที่ 2
จากการติดตามมีผู้สัมผัสใกล้ชิดพบมี จำนวน 5 ราย จึงได้ให้เฝ้าระวังตัวเองเป็นเวลา 14 วัน และปฏิบัติตัวตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หากผลการตรวจของเซียนมวยยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็จะนำผู้ใกล้ชิดเข้าสถานที่กักตัว และส่งไปตรวจหาเชื้อไวรัสต่อไป
และ 4.พบผู้ที่เข้าไปเที่ยวผับทองหล่อ กทม.ซึ่งเป็นคนจังหวัดกาญจนบุรี 1 ราย ได้ไปยังสถานที่เสี่ยง ขณะนี้ได้กักตัวอยู่ในบ้าน และนำส่งไปตรวจหาเชื้อไวรัส ผลการตรวจครั้งที่ 1 พบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยันเป็นครั้งที่ 2 และจากการติดตามมีผู้สัมผัสใกล้ชิดพบมีจำนวน 3 ราย โดยได้ให้เฝ้าระวังตัวเองเป็นเวลา 14 วัน และปฏิบัติตัวตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หากผลการตรวจของผู้ที่เข้าไปเที่ยวในผับทองหล่อยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็จะนำผู้ใกล้ชิดเข้าสถานที่กักตัว และส่งไปตรวจหาเชื้อไวรัสต่อไป
โดยรวมขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีมีผู้ป่วยเข้าข่าย จำนวน 2 ราย และ กลุ่มเฝ้าระวัง จำนวน 23 ราย ซึ่งอยู่ในการติดตามของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด อำเภอ และตำบล อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อย่างใกล้ชิด
ส่วนมาตรการจังหวัดกาญจนบุรีได้ออกประกาศให้ส่วนราชการและประชาชนได้รับรู้รับทราบแล้ว ในส่วนของส่วนราชการก็ได้กำหนดหน้าที่ในการดำเนินการ ในส่วนของภาคเอกชน ประชาชนก็ได้ขอความร่วมมือในการงดจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
ในส่วนของกิจกรรมที่จำเป็นต้องจัดก็ได้มีมาตรการในการตรวจคัดกรอง วัดอุณหภูมิร่างกาย และมีเจลทำความสะอาดให้บริการ ในพื้นที่ตามแนวชายแดน การควบคุมคนต่างชาติที่เข้ามายังประเทศไทยผ่านทางชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ และบ้านพุน้ำร้อน ได้มีการคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเช่นกัน หากพบว่ามีอุณหภูมิสูงจะมีการนำไปสอบถามประวัติการเดินทาง การสัมผัสกับกลุ่มเสี่ยง และจะส่งไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเพื่อกักตัว พร้อมตรวจสังเกตอาการหากพบว่าเป็นผู้ติดเชื้อหรือกลุ่มเสี่ยงก็จะมีการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลเพื่อรักษาทันที
นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการตามมาตรการควบคุมแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเข้มข้น ในส่วนของสถานบันเทิงจังหวัดกาญจนบุรีไม่อยู่ในพื้นที่ที่กำหนดให้ปิดตามมติคณะรัฐมนตรี แต่ก็อยู่ในดุลพินิจ ก็ขอให้สถานประกอบการให้ความร่วมมือตามความเหมาะสม
ในส่วนของการเตรียมพร้อมด้านสถานที่กักตัวผู้เข้าข่าย ได้มีการเตรียมสถานที่รองรับผู้เข้าข่ายหรือกลุ่มเสี่ยง ซึ่งก็คือโรงพยาบาล โดยจัดสถานที่แยกออกมาจากผู้ป่วยอื่นไว้แล้ว หากมีสถานการณ์ใดในพื้นที่จะมีการประกาศให้ประชาชนทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ขอให้ประชาชนอย่าวิตกกังวล
ด้าน นพ.นิพนธ์ พัฒนกิจเรือง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีข้อแนะนำสำหรับประชาชนคือ หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค การเข้าไปในพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้สวมหน้ากากอนามัย ดูแลสุขภาพตนเองและสังคม รักษาสุขภาพด้วยการล้างมือ กินร้อน ช้อนกลาง ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ พยายามให้ผู้สูงอายุอยู่แต่ที่บ้าน นอกจากนี้ ขอให้ร่วมกันเป็นกำลังใจให้ผู้ที่เข้าข่ายและผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เพื่อที่จะมีสภาพจิตใจที่ดีด้วย
ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ทาง Website : สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี และ Page Facebook : สสจ.กาญจนบุรี และสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 และแหล่งข้อมูลข่าวสารของทางราชการเป็นหลัก