กาญจนบุรี - สสจ.กาญจน์ แนะก่อนโพสต์โซเชียลกรณีไวรัสโควิด-19 ควรตรวจสอบให้ชัวร์ก่อนโพสต์ หากคลาดเคลื่อนอาจผิด พ.ร.บ.คอมพ์ ซ้ำสร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่ห้องประชุมกัลปพฤกษ์ อาคารสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี นายอนุชา วรหาญ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานการประชุมทางไกล ด้านมาตรการสื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อรองรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
โดยมี นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานของส่วนกลางร่วมประชุมกับทุกจังหวัด พร้อมด้วย น.ส.ชลิดา ถนอมวงษ์ นายวิสิทธิ์ ปิ่นประชานันท์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาล หัวหน้าฝ่าย เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เข้าร่วม รวมทั้งการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
ในที่ประชุมได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และเฝ้าระวังการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนจากพื้นที่เสี่ยง หากพบในพื้นที่จะต้องเข้าไปสอบสวนประวัติ ข้อมูล และตรวจคัดกรอง หากพบว่ามีอาการจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง ให้ส่งเข้ากักตัว หรือส่งเข้าสถานที่เฝ้าระวังทันที พร้อมติดตามอาการอย่างต่อเนื่องใน 14 วัน รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสื่อสาร ทำความเข้าใจกับประชาชนให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริง และไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก พร้อมให้คำแนะนำในการป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ นายอนุชา วรหาญ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ว่า ขณะนี้ไม่พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะเดียวกัน ได้มีการเตรียมพร้อมสถานที่ที่จะเป็นสถานที่กักตัวผู้เข้าเกณฑ์ที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงในสถานที่ที่เหมาะสม ไม่กระทบต่อประชาชน ซึ่งจะมีการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ
ขณะนี้ได้มีการรวมทีมสาธารณสุขทั้งจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลอำเภอ โรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลค่าย รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชนที่จะมาร่วมกันดูแลประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงกลับภูมิลำเนาที่เข้าเกณฑ์จะต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัว
ในส่วนของผู้ที่ไม่เข้าเกณฑ์ในการกักตัวก็จะต้องกักตัวเองที่บ้าน โดยแยกออกจากครอบครัวเป็นเวลา 14 วัน และจะต้องปฏิบัติตนตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและชุมชน ผู้นำชุมชน เข้าไปตรวจสังเกตอาการทุกวันจนครบ 14 วัน
สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ขอความร่วมมือชาวจังหวัดกาญจนบุรีในการเผยแพร่ข้อมูลและแพร่กระจายข่าวออกไปให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเสียก่อน หากให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริงอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และจะสร้างความตื่นตระหนกทำให้เกิดผลเสียต่อภาพรวมของจังหวัด
ขอให้ช่วยกันที่จะทำจังหวัดให้เข้มแข็งพร้อมร่วมใจกันต่อสู้และให้กำลังใจกับผู้ที่มาจากประเทศเสี่ยงหรือต่างประเทศให้เดินทางกลับบ้านให้อยู่ร่วมกับคนในสังคมได้