xs
xsm
sm
md
lg

ร.ร.หลุมรัง ประกาศปิดเรียน 5 วัน พบผีน้อยกลับจากกรุงโซลมาส่งลูกที่โรงเรียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - ผอ.ร.ร.ชุมชนบ้านหลุมรัง ประกาศปิดเรียน 5 วัน หนีไวรัสโควิส-19 หลังพบผีน้อยกลับจากกรุงโซลส่งลูกที่โรงเรียน เผยประวัติถูกกักก่อนขึ้นเครื่อง 14 วัน แต่ไม่พบว่าป่วย ทางการเกาหลีจึงส่งกลับ แต่ต้องกักตัวที่บ้านพักตามเดิม

วันนี้ (8 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าจะมีการปิดโรงเรียนชุมชนบ้านหลุมรัง หมู่ 5 ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เป็นเวลา 5 วัน พร้อมกับจัดกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่ง ทำความสะอาดทั้งโรงเรียนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากมีผู้ปกครองของเด็กนักนักเรียน 2 คน เพิ่งเดินทางกลับประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หวั่งเกรงว่าอาจจะติดไวรัสโควิด-19 ดังนั้น ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ

ไปถึงพบ นายอิทธิพล กาญจนโรมนต์ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านหลุมรัง นายอุดร ศรีสุข ครูชำนาญการพิเศษ ร.ร.ชุมชนบ้านหลุมรัง นายอิทธิพัทธ์ รัตนสุวรรณาชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหลุมรัง นายบุญไชย อุดม ผอ.รพ.สต.หลุมรัง รวมทั้งนายพิทักษ์ สระทองรอด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.หลุมรัง และบุคลากรครูผู้ช่วย ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ และลูกจ้างชั่วคราว กว่า 30 คน กำลังช่วยกันล้างทำความสะอาดโรงอาหาร ห้องเรียนกันอย่างตั้งอกตั้งใจ ซึ่งทุกคนต่างสวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งถุงมืออย่างรัดกุม

ทั้งนี้ นายอิทธิพล เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้นมาทางโรงเรียนได้มีมาตรการเข้ม คือ ให้ชุมชนและคณะคุณครูมาช่วยกันทำความสะอาดด้วยการฆ่าเชื้อภายในห้องและอาคารเรียนทั้งหมด

โดยปกติในวันพรุ่งนี้คือวันที่ 9 มี.ค.ทางโรงเรียนจะจัดให้มีการสอบก่อนปิดเทอม แต่ตนได้ตระหนักถึงความสำคัญตรงนี้เพราะเกรงว่าอาจจะมีเชื้อโรคต่างๆ ติดอยู่ตามโรงเรียน ตนจึงได้สั่งการไปว่าขอปิดโรงเรียนเป็นเวลา 5 วัน และกำหนดให้เด็กนักเรียนมาสอบในวันที่ 16-17-18 มี.ค.ที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ปกครองว่าบุตรหลานของท่านที่มาเรียนที่โรงเรียนจะไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่างๆ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นมาตรการการป้องกันของโรงเรียน พร้อมทั้งขอฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้นำชุมชน และผู้ปกครองว่า ทางโรงเรียนชุมชนบ้านหลุมรังจะเริ่มปิดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 9-13 มี.ค. และจะเปิดการเรียนการสอนในวันที่ 16-18 มี.ค.ซึ่งเป็นวันที่เด็กต้องมาสอบ จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนได้รับทราบตรงนี้ด้วย

ด้าน นายอุดร ศรีสุข ครูชำนาญการพิเศษ ร.ร.ชุมชนบ้านหลุมรัง เปิดเผยว่า จากกระแสข่าวลือว่าทางโรงเรียนได้ทราบมาว่าผู้ปกครองเด็กนักเรียนได้กลับมาจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และปรากฏว่าเข้ามาอยู่ในพื้นที่ของเราโดยไม่ได้กักตัวเอง

จากกระแสข่าวลือดังกล่าวได้มีเด็กและผู้ปกครองโทร.เข้ามาสอบถามเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้น ม.1 และชั้น ป.3 เพราะผู้ปกครองของเด็กนักเรียนทั้ง 2 คนได้เดินทางมาที่โรงเรียนด้วย

โดยเด็กส่วนหนึ่งบอกกับครูว่า ผู้ปกครองคนดังกล่าวเดินทางมาจากประเทศบาห์เรน ไม่ใช่มาจากประเทศเกาหลี ซึ่งแค่เดินทางมาจากประเทศบาห์เรน เราก็รู้สึกกลัวอยู่เช่นกัน แต่เมื่อมารู้ข้อเท็จจริงว่ามาจากประเทศเกาหลีใต้ ทางโรงเรียนจึงได้มีการพูดคุยกันว่าเราจะทำอย่างไรกันดี เพราะว่าอย่างน้อยก็จะได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ปกครองคนอื่นรวมทั้งตัวเด็ก

ดังนั้น วันนี้คุณครูและบุคลากรของโรงเรียนและผู้ปกครองที่มีจิตอาสาบางส่วน จึงได้นัดกันมาเช็ดถูล้างเพื่อทำความสะอาดพื้น รวมทั้งห้องเรียน และโรงอาหาร เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เด็กและผู้ปกครอง

ส่วนนายอิทธิพัทธ์ รัตนสุวรรณาชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหลุมรัง กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวลือว่ามีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านหลุมรัง เดินทางมาจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ หรือที่เรียกกันว่าผีน้อย ตนในฐานะนายก อบต.หลุมรัง จึงนำข่าวดังกล่าวไปปรึกษาหารือกับนายธนณัฏฐ์ ศรีสันต์ นายอำเภอบ่อพลอย

ซึ่งวันนี้มี นายพิทักษ์ สระทองรอด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 เจ้าของพื้นที่ รวมทั้งคุณหมอบุญไชย อุดม ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหลุมรัง ได้เดินทางมาด้วย โดยก่อนหน้านี้เราได้มีการหารือกับนายวิสิทธิ์ ปิ่นประชานันท์ สาธารณสุขอำเภอบ่อพลอย เกี่ยวกับบุคคลดังกล่าวที่มีข่าวลือว่าอาจจะติดเชื้อไวรัสโควิด-19

จากนั้นได้ลงพื้นที่ไปพบผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่เดินทางมาจากกรุงโซล โดยพบว่าข้อมูลที่แท้จริงก่อนเดินทางกลับบุคคลดังกล่าวได้ถูกกักตัวเอาไว้ที่กรุงโซล ก่อนขึ้นเครื่องมาแล้ว 14 วัน เพื่อความปลอดภัย และบุคคลดังกล่าวได้เดินทางกลับประเทศไทยก่อนที่จะมีข่าวเรื่องผีน้อย

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อประชาชนมีความตื่นตระหนก ทางสาธารณสุขก็ไปให้คำแนะนำ พร้อมกับให้บุคคลดังกล่าวกักตัวเองอยู่กับบ้านเป็นเวลา 14 วัน รวมทั้งสาธารณสุขได้มีการเช็กอาการไข้ของคนรอบข้างเป็นอย่างดี

ดังนั้น จึงไม่อยากให้ผู้ปกครองหรือชาวบ้านที่ได้รับข่าวลือ อย่าได้ตระหนกและรู้สึกตกใจ เนื่องจากทางภาคส่วนราชการ เช่น ทางอำเภอ สาธารณสุข และทางโรงเรียนได้มีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด แต่เพื่อความไม่ประมาท วันนี้ทางโรงเรียนจึงได้จัดทำบิ๊กคลีนนิ่งขึ้นภายในโรงเรียนเพื่อความสบายใจ และสาธารณสุขเองจะได้ให้ความรู้ในแนวทางป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ทุกคนได้เข้าใจต่อไป

ส่วนนายบุญไชย อุดม ผอ.รพ.สต.หลุมรัง กล่าวว่า สำหรับเคสผู้ปกครองที่เดินทางมาจากกรุงโซลรายนี้ ได้ผ่านระบบมาอย่างถูกต้องแล้ว แต่เพียงแค่ขอให้เฝ้าระวังอาการเท่านั้น โดยทางเราจะเฝ้าระวังอาการไปจนถึงวันที่ 16 มี.ค.นี้ หากไม่พบอาการอะไรเรื่องก็จบ

และอยากประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนว่า ขอให้กินร้อน ช้อนกลาง และขอให้ล้างมือกันบ่อยๆ หากมีข่าวลือก็อย่าตกใจ แต่อย่าประมาทเท่านั้นเอง และหากต้องไปในชุมชนขอให้ใส่หน้ากากอนามัยไปด้วย อย่างน้อยก็ป้องกันฝุ่นละอองได้

นายพิทักษ์ สระทองรอด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 กล่าวว่า หลังจากมีข่าวลือดังกล่าวออกมา ทางอำเภอได้สั่งการมาให้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านทราบข้อเท็จจริงทางเสียงตามสายทุกช่วงเช้าและเย็น เพื่อให้ชาวบ้านรู้วิธีป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 และเมื่อมีเคสดังกล่าวเกิดขึ้นภายในหมู่บ้านของเรา ทางคณะกรรมการหมู่บ้านจึงได้ร่วมกับทาง อบต.หลุมรัง และ รพ.สต.หลุมรัง ร่วมกับคณะครู จัดทำกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งขึ้นภายในโรงเรียนในครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น.ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายธนณัฏฐ์ ศรีสันต์ นายอำเภอบ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ว่า เวลา 12.00 น.ของวันที่ 6 มี.ค.63 สำนักงานสาธารณสุขอำเภอบ่อพลอย ได้รับแจ้งจาก รพ.สต.ช่องด่าน โดยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.ช่องด่าน อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี และชาวบ้านได้มีการพูดถึงกันในวงกว้างในหมู่บ้าน ว่า มีผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 มาอาศัยอยู่หมู่ 3 ต.ช่องด่าน โดยรายชื่อไม่อยู่ในบัญชีผีน้อย

หลังจากได้รับแจ้ง ทีม SRRT อำเภอบ่อพลอย จึงได้ออกสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว พบว่า น.ส.วรรณา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี เดินทางไปใช้แรงงานแบบผิดกฎหมาย (นวดแผนโบราณ) ที่กรุงโซล ได้ประมาณ 3 เดือน และกลับมาถึงภูมิลำเนาเมื่อวันที่ 2 มี.ค.63

จากการสอบถาม พบว่า ก่อนที่จะได้เดินทางออกจากประเทศเกาหลีใต้นั้น ทางการของเกาหลีใต้ได้มีการกักบริเวณแรงงานจากประเทศไทยที่กำลังจะเดินทางกลับเป็นเวลา 14 วันแล้ว พบว่า น.ส.วรรณา ไม่ป่วย จึงให้ น.ส.วรรณา ออกจากประเทศเกาหลีใต้ได้

โดย น.ส.วรรณา กลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ได้รับการตรวจคัดกรองใดๆที่สนามบิน จากนั้นเดินทางกลับจังหวัดกาญจนบุรี ด้วยรถแท็กซี่ และรถตู้สาธารณะสายกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี และเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางจาก อ.เมืองกาญจนบุรี ไปบ้านพักที่ตำบลช่องด่าน อ.บ่อพลอย

โดยพักอาศัยอยู่ที่บ้านด้วยกัน 5 คน ประกอบด้วย มารดา 1 คน ลูก 1 คน และหลานอีก 2 คน โดยลูกและหลาน จำนวน 2 คน เรียนอยู่ที่โรงเรียนชุมชนบ้านหลุมรัง สิ่งที่สาธารณสุขอำเภอบ่อพลอย ได้ดำเนินการคือ 1.ได้มีการพูดคุยให้มีการกักตัวเองในบริเวณบ้านโดยไม่ให้ออกไปไหนเป็นเวลา 14 วัน ถ้าไม่ทำตามอาจพิจารณาลงโทษตามกฎหมาย 2.เจ้าหน้าที่ได้ทำการแจกแมสก์ให้ จำนวน 20 ชิ้น สำหรับผู้มีประวัติเสี่ยงเองคนเดียว เจลล้างมือไว้ที่บ้าน และ 3.เจ้าหน้าที่ได้ให้ปรอทวัดไข้ 1 อัน โดยให้ทำการวัดไข้เองที่บ้าน และเจ้าหน้าที่จะโทร.ติดตามทุกวัน






กำลังโหลดความคิดเห็น