ราชบุรี - เจ้าหน้าที่ใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจไฟป่าเพื่อประเมินสถานการณ์ใช้ในการแก้ไขปัญหา หลังไฟป่าลุกลามนาน 4 คืน 5 วัน
จากกรณีเกิดเหตุไฟป่าในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติฯ ในเขตรอยต่อพื้นที่ อ.บ้านคา และ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี ติดต่อกันรวม 5 วัน โดยไฟป่าได้เผาพลาญพื้นที่ป่าเสียหายไปแล้วกว่า 8 ตารางกิโลเมตร หรือ 4 พันกว่าไร่ หลังเจ้าหน้าที่กำลังพลหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ ชุดกิจการพลเรือนที่ 1206 (กองพลพัฒนาที่ 1) อาสาสมัครสังกัดกองร้อยอาสารักษาดินแดน อ.บ้านคา ที่ 11 หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ.3 อ.ปากท่อ ราษฎรอาสาพิทักษ์ป่า และประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ ตลอดจนกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติฯ กว่า 90 นาย พยายามเข้าควบคุมไฟป่าและทำแนวกันไฟป่าตลอด 5 วัน 4 คืน และส่งผลให้ค่า PM 2.5 พุ่งสูงขึ้น
ล่าสุด วันนี้ (12 มี.ค.) นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และรองผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารภัยจังหวัดราชบุรี ได้ร่วมกับกองกำลังสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี พล.ต.ฐกัด หลอดศิริ ผบ.กกล.สุรสีห์ พ.อ.วินิจ สว่างเนตร ผบ.ฉก.ทัพพระยาเสือ หน.อุทยานเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน หน.หน่วยเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี อำเภอบ้านคา นายก อบต.บ้านบึง กำนันบ้านบึง และหน่วยควบคุมไฟป่าลำภาชี
พร้อมด้วยส่วนราชการในพื้นที่ ได้ร่วมกันลาดตระเวนทางอากาศด้วยเฮลิคอปเตอร์ของกองกำลังสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี โดยขึ้นสำรวจบริเวณพื้นที่ หมู่ที่ 1 บ้านโป่งกระทิงบน หมู่ที่ 4 บ้านพุน้ำร้อน หมู่ที่ 13 บ้านพุหิน และหมู่ที่ 10 บ้านหุบมะกรูด เพื่อตรวจสอบพื้นที่เกิดไฟป่า เพื่อประเมินสถานการณ์ในการแก้ไขปัญหา ลดปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟป่า และความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับป่าสงวน
เบื้องต้น จากการสำรวจพบว่า มีจุดเกิดไฟป่าเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้รวม 7 จุด โดย 3 จุด อยู่ในเขตพื้นที่ จ.ราชบุรี ส่วนอีก 4 จุดที่เหลืออยู่ในเขตพื้นที่ จ.เพชรบุรี ช่วงเขตรอยต่อเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี อุทยานเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน และอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากฝีมือมนุษย์ ไฟลุกตามผิวดินบวกกับกระแสลมแรง ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว เป็นอันตรายต่อไม้ทุกชนิด และเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ ส่งผลกระทบให้เกิดหมอกควันปกคลุมหลายอำเภอในจังหวัดราชบุรี และจังหวัดเพชรบุรี
นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ไฟไหม้ป่าในพื้นที่อำเภอบ้านคา ตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ไฟป่าได้แผ่วงกว้างมากขึ้น เราได้มีการบูรณาการในส่วนงานราชการ และภาคส่วนต่างๆ ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ในการที่จะเข้าไประงับไฟป่าที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งได้มีการวางแผนประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์ และมีการประเมินสถานการณ์ จนทำให้ทราบปัญหาอุปสรรค แต่ยังไม่ทราบปัญหาที่ชัดเจน ซึ่งข้อมูลที่ได้ยังไม่เพียงพอ จึงได้ขอความร่วมมือ และขอรับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ของกองกำลังสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี
เพื่อที่จะได้บินสำรวจทราบว่า ไฟป่าได้ลุกลามไปบริเวณจุดไหนบ้าง และลุกลามไปมากน้อยขนาดไหน จากการเข้าไประงับเหตุเบื้องต้นมันสามารถแก้ปัญหาได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งหลังจากได้มีการบินตรวจการณ์สำรวจในวันนี้จึงทำให้ทราบว่า ยังมีจุดที่เกิดเหตุไฟป่าประมาณ 7 จุด ซึ่งกระจายอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี 2 จุด และจุดที่เหลือในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในเบื้องต้นได้มีการปรึกษากันว่า ในส่วนของ อ.บ้านคา จ.ราชบุรี น่าที่จะสามารถระงับเหตุไฟป่าได้ใน 1-2 วันนี้ เพียงแต่ต้องมีการเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้เกิดไฟป่าลุกลามเพิ่มขึ้น
ในส่วนของเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้มีการประสานให้รับทราบข้อมูลในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งหลังจากวันนี้จะได้มีการบูรณาการทุกภาคส่วนในการที่จะเข้าไปเฝ้าระวังไม่ให้ไฟลุกลามไปในส่วนพื้นที่อื่น คาดว่าจากการร่วมมือบูรณาการจะทำให้ภายใน 2 วันนี้ น่าจะระงับเหตุไฟป่าได้หมด
