ตาก - ไฟไหม้บ้านแฝดสองหลังใหญ่กลางชุมชนชายแดนแม่สอด 3 ชีวิต พ่อ แม่ และลูกชาย ตชด.วิ่งหนีฝ่ากองเพลิงได้รับบาดเจ็บเหลือเพียงเสื้อผ้าชุดเดียว จนท.ระดมดับนานกว่า 2 ชั่วโมง แต่บ้านวอด คาดเสียหายกว่า 7 ล้าน
วันนี้ (23 ก.พ.) ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครแม่สอด จังหวัดตาก ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านไม้ขนาดใหญ่ที่เปิดเป็นร้านขายของชำ เลขที่ 162 หมู่ที่ 4 ตรงข้ามกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านห้วยกะโหลก ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อ 03.00 น.เศษที่ผ่านมา หน่วยดับเพลิงเทศบาลนครแม่สอดจึงรีบนำรถดับเพลิงจำนวน 5 คันเดินทางไประงับเหตุอย่างเร่งด่วน
เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเดินทางไปถึงพบบ้านต้นเพลิงเป็นบ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่ ซึ่งสร้างติดกันเป็นบ้านแฝดสองหลัง เปลวเพลิงกำลังโหมไหม้บ้านไม้ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำที่จำหน่ายสินค้าทั่วไปและเก็บสินค้าจำนวนมาก จากด้านหน้าร้านลามไหม้ห้องเก็บปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และถังแก๊สหุงต้มนับ 10 ถัง ก่อนลุกลามไปไหม้บ้านอีกหลังที่สร้างติดกัน จนเปลวเพลิงลุกโชนสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล ชาวบ้านในชุมชนต่างตกใจออกมามุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ต้องรีบระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลามไหม้ไปมากกว่านี้ แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากภายในบ้านทั้งสองหลังมีสินค้าจำนวนมากที่ติดไฟง่ายและเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จนเวลาผ่านไปนานกว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
หลังเพลิงสงบพบบ้านถูกเพลิงไหม้จำนวนสองหลังคาเรือน รถยนต์ถูกเพลิงไหม้เสียหาย1 คัน สินค้าได้รับความเสียหายทั้งหมด และพบ ส.ต.ท.ฐาปนิก พินิจ อายุ 27 ปี ตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของบ้านได้รับบาดเจ็บที่เท้าเนื่องจากเข้าไปดับเพลิง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแม่สอด ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว
จากการสอบถามนายปิ่น พินิจ อายุ 59 ปี เจ้าของบ้านเล่านาทีระทึกว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับภรรยาและลูกชายที่เป็นตำรวจกำลังนอนพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน จู่ๆ ตนก็ได้ยินเสียงคล้ายไฟฟ้าช็อตบริเวณโซนขายสินค้าอาหารสดและมีกลิ่นไหม้อย่างรุนแรง พอลุกไปตรวจสอบก็พบว่ามีเพลิงไหม้ที่บริเวณตู้เย็นที่ใช้แช่อาหารสด จึงตะโกนเรียกลูกชายและภรรยามาช่วยกันดับเพลิงจนลูกชายได้รับบาดเจ็บ
แต่การดับเพลิงเบื้องต้นก็ไม่สำเร็จ เปลวเพลิงได้ลุกลามไหม้เข้าไปในบ้านไม้สองชั้น ซึ่งใช้เป็นที่เก็บสินค้ารอจำหน่ายจำนวนมาก จึงตัดสินใจพาลูกชายและภรรยารวมสามชีวิตวิ่งหนีเอาตัวรอดออกจากกองเพลิง โดยเหลือเพียงเสื้อผ้าติดตัวที่สวมใส่เท่านั้น ส่วนทรัพย์สินของมีค่าอื่นๆ ไม่สามารถนำออกมาได้เลย เบื้องต้นประเมินมูลค่าความเสียหายไว้กว่า 7 ล้านบาท
ล่าสุดขณะนี้ตำรวจ สภ.แม่สอดได้ปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุห้ามผู้ใดเข้าไป และอยู่ระหว่างรอตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตากเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้อย่างแท้จริงต่อไป
