กาฬสินธุ์-โรงงานน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ยืนยันจำกัดวงล้อมควบคุมเพลิงไหม้กองใบอ้อยเฉพาะที่ได้แล้ว คาดจะสามารถดับไฟได้สนิทภายในคืนนี้ พร้อมระบุโรงงานไม่เสียหายและยังเปิดเป็นปกติ ย้ำไม่มีคนงานหรือพนักงานบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว
ความคืบหน้าเหตุไฟไหม้กองใบอ้อยที่เป็นเชื้อเพลิงไฟฟ้าชีวมวล ภายในเขตโรงงานน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ ต.สมสะอาด อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงงานน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ โรงงานไฟฟ้าชีวมวล และโรงงานเอทานอล เมื่อช่วงเวลา 15.00 น.ของวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและพนักงานของโรงงานช่วยกันฉีดน้ำสกัดไฟไม่ให้ขยายวงออกไปบริเวณรอบนอกและภายในโรงงานตลอดทั้งวันทั้งคืน
แต่เนื่องจากวัตถุดิบที่ถูกไฟไหม้เป็นใบ้อ้อยและเป็นใบอ้อยที่บดคล้ายกับแกลบกองใหญ่ ประกอบกับมีลมแรงตลอดเวลา ทำให้การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ล่าสุดเวลา 13.00 น.วันนี้(22 ก.พ.) นายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ นายคมสันต์ เหล่าจูม ผอ.โรงงานน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ พนักงานโรงงาน และและจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ซึ่งเป็นคนในชุมชน ยังคงช่วยกันดับไฟและฉีดน้ำบริเวณจุดที่เกิดไฟไหม้ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ใช้เวลานานกว่า 24 ชั่วโมง ทำให้ล่าสุดสามารถจำกัดวงเพลิงไหม้ให้อยู่เฉพาะในบริเวณพื้นที่เก็บกองใบอ้อย เนื้อที่ 5 ไร่ ประมาณใบ้อ้อย 5,000 ตันไว้ได้แล้ว
พร้อมกับนำเครื่องสูบน้ำประสิทธิภาพสูงจาก จ.สกลนคร เข้ามาช่วยปฏิบัติการฉีดน้ำเพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถดับไฟได้ทั้งหมดในวันนี้ แต่ขณะนี้ยังคงฉีดน้ำพรมไว้บริเวณจุดที่มีควันออกมาจากกองใบอ้อย และหากพบว่ามีจุดที่เกิดไฟไหม้ขึ้นอีก เจ้าหน้าที่ได้เตรียมเครื่องสูบน้ำและรถดับเพลิงจำนวน 10 คันตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านนายคมสันต์ เหล่าจูม ผอ.โรงงานน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้ ทางโรงงานฯ ได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานภายในพื้นและนอกพื้นที่อย่างเข้มแข็ง โดยนายชัยธวัช เนียมศิริ ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้ให้ความช่วยเหลือและมอบหมายให้นายสนั่น พงษ์อักษร รองผวจ.กาฬสินธุ์ เข้าช่วยอำนวยการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน พร้อมกับหน่วยงานราชการในท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถควบคุมเพลิงและจำกัดบริเวณเฉพาะกองใบอ้อยได้แล้ว และคาดว่าจะสามารถดับไฟได้ในวันนี้
ขณะนี้ทีมมวลชนสัมพันธ์ของโรงงานน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่สำรวจและติดตามสถานการณ์ในชุมชนรอบโรงงานรัศมี 5-10 กม.เพื่อสื่อสารข้อมูล ดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับผลกระทบ เนื่องจากที่ตั้งของชุมชนอยู่เหนือทิศทางลมจุดที่เกิดไฟไหม้ แต่เพื่อเป็นการป้องกัน ได้แจกหน้ากากป้องกันฝุ่นให้กับชุมชนแล้ว
นายคมสันต์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาโรงงานน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ มีมาตรการดูแลกองใบอ้อย ซึ่งประกอบด้วยการควบคุมการเข้า-ออกของพนักงานและผู้รับเหมา, การตรวจสอบเครื่องจักรและรถที่จะเข้าทำงานใน กองเชื้อเพลิงโดยจะต้องติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงพร้อมใช้งาน, การจัดให้มีพนักงานเฝ้าระวังกองเชื้อเพลิงตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมการทดสอบระบบดับเพลิงเป็นประจำทุกสัปดาห์
แต่เนื่องด้วยสภาพอากาศที่ร้อนประกอบกับกระแสลมแรง จึงทำให้การดับไฟที่เกิดขึ้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งทางโรงงานฯจะยกระดับมาตรการบริหารจัดการกองใบอ้อยเพิ่มขึ้น
พร้อมขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะมีมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังอยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบ และประเมินความเสียหาย แต่เบื้องต้นพบว่ากองใบอ้อยถูกไฟไหม้ 3,000 ตัน จากปริมาณ 5,000 ตัน
อย่างไรก็ตามทางโรงงานฯยืนยันว่าไม่มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ แต่มีพนักงานสังกัดโรงงานเอทานอล 1 ราย ที่เกิดการอ่อนล้าจากการเข้าช่วยดับเพลิงระงับเหตุ และขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว อีกทั้งไฟยังไม่ได้ลุกลามเข้าไปภายในโรงงาน ทั้งโรงงานน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ โรงงานไฟฟ้าชีวมวล และโรงงานเอทานอล และโรงงาน รวมทั้งพนักงานทั้งหมดยังดำเนินการเป็นปกติเหมือนเดิม