พิษณุโลก - ตำรวจ สภ.เนินมะปราง เรียกสอบทั้ง ผญบ.-หน.หน่วยพิทักษ์ป่า และผู้เกี่ยวข้อง สางคดีโค่นยางนาร้อยปีคาป่าทุ่งแสลงหลวง-แปรรูปเสร็จขนผ่านหน่วยซ้ำ เตรียมนิมนต์พระให้ปากคำเพิ่มสาวให้ถึงตัวการ
ความคืบหน้ากรณีฉวยโอกาสการขยายเขตไฟฟ้าผ่านป่าเขตหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สล.5 (วังแดง) อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง โค่นล่มต้นยางนา อายุกว่า 100 ปี ยาว 41 เมตร เมื่อ 21 ต.ค. 62 พร้อมแปรรูปตัดทอนเป็นท่อน รวมทั้งยังมีไม้ที่โค่นล้มหายไปจากบริเวณดังกล่าวบางส่วนั้น
ร.ต.อ.ทรงสิทธิ์ สิงห์สถิต ร้อยเวร สภ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ท้องที่เกิดเหตุกล่าวว่า คดีลักลอบตัดไม้ยางนาและขนย้ายไม้ของกลางที่ตรวจพบเพิ่มและยึดคืนมาได้มาเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ พล.5 (ซุ้มขี้เหล็ก) กรมป่าไม้ ได้บันทึกหลักฐานไว้เรียบร้อยแล้ว
รวมทั้งได้เรียกผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง และนายสนัด พรมเชียงสา อดีตหัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สล.5 (วังแดง) ปัจจุบันย้ายไปดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สล.6 (บ้านมุง) และเจ้าหน้าที่พิทักษ์อุทยานฯ สล.5 มาสอบสวน อีกทั้งจะได้นิมนต์พระสงฆ์มาให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังสอบเสร็จแล้วก็น่าจะสามารถออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องคนสำคัญทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คนโค่นไม้ยางนาอายุกว่า 100 ปีดังกล่าว ลักลอบขนย้ายออกจากเขตอุทยานฯ ซึ่งต้องผ่านที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ฯ และต่อมา 29 ต.ค. เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ฯ ได้ตระเวนค้นหาไม้ 2 ท่อนที่หายไปพบที่บริเวณบ้านเนินคล้อ หมู่ที่ 12 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง ซึ่งมีผู้นำไปซุกซ่อนไว้ในสระร้างกลางไร่ของชาวบ้านคนหนึ่ง และอยู่ห่างจากจุดโค่นไม้ถึง 7 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สล.5 (วังแดง) ให้การว่าในวันดังกล่าวมีการออกลาดตระเวนในพื้นที่ พอกลับมาพบเหตุการณ์ดังกล่าว จึงนำความเข้าแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เนินมะปราง
ส่วนการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนิมนต์พระสงฆ์มาให้การ เนื่องจากไม้ 2 ท่อนดังกล่าวถูกแชร์ในไลน์กลุ่มราชสีห์ ซึ่งมีภาพพระสงฆ์ติดอยู่ด้วย เพราะมีคนอ้างว่าจะนำไปถวายวัด พร้อมนิมนต์พระสงฆ์มาดูก่อนขนย้าย แต่พระได้ปฏิเสธไป เพราะไม่มีหลักฐานการถวาย-ที่มาของไม้ ต่อมาไม้ยาง 2 ท่อนก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย จนเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ฯ ตามหาจนพบภายหลัง
