พิษณุโลก - พบไม้ยางนาของกลางที่ล่องหนแล้ว..โผล่สระร้างห่างจุดโค่น 7 กม. หลังผู้กว้างขวางสั่งตัด-แปรรูปคาป่า อช.ทุ่งแสลงหลวง แต่ถูก จนท.ยึดได้บางส่วนก่อนหน้านี้
ความคืบหน้ากรณีมือมืดสั่งโค่นไม้ยางนาอายุนับร้อยปีใกล้หน่วยพิทักษ์ป่า สล.5 (วังแดง) อช.ทุ่งแสลงหลวง พร้อมแปรรูปเป็นท่อน ซึ่งต่อมามีคนพบว่ามีไม้ยางนาไปโผล่ในบ้านของผู้กว้างขวาง (คนมีสี) รายหนึ่งใน ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก คาดว่ามีไม้ไม่ต่ำกว่า 4-8 ท่อน จนมีการวิพากษ์วิจารณ์กดดันกันอย่างกว้างขวาง
ต่อมาก็มีคนไปติดต่อขอถวายไม้ดังกล่าวแด่วัดในพื้นที่ โดยมีการนำพระไปดูไม้ถึงที่ แต่พระสงฆ์ที่ได้รับการติดต่อเกรงจะมีความผิดตามกฎหมายจึงไม่ขอรับไม้ดังกล่าวเข้าวัด กระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดไม้ยาง-ทำบันทึกยึดของกลางได้ 3 ท่อน รวมปริมาตร 9.18 ลบ.ม. มูลค่า 137,000 บาท และเมื่อมีการค้นหาเพิ่มเติมพบไม้ยางนาแปรรูปซุกซ่อนบนเขาอีก 2 ท่อน แต่ก็ยังมีไม้ยางบางส่วนหายไปอีกนั้น
ล่าสุดวันนี้ (29 ต.ค.) เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า สล.5 (วังแดง) อช.ทุ่งแสลงหลวง กรมอุทยานฯ, เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ พล.5 (ซุ้มขี้เหล็ก) สำนัก 4 กรมป่าไม้ สนธิกำลังกว่า 10 นาย ร่วมลาดตระเวนค้นหาไม้ยางขนาดใหญ่ที่หายไปต่อเนื่องเป็นวันที่สาม
กระทั่งมีรายงานว่าพบไม้ต้องสงสัยที่เป็นไม้ยางต้นเดียวกับที่ถูกโค่นดังกล่าวโผล่ที่สระน้ำ (ร้าง) ของชาวบ้าน ท้องที่หมู่ 13 เนินคล้อ ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ห่างจากจุดโค่น (ในอุทยานฯ) ประมาณ 7 กิโลเมตร จึงได้ประสาน ร.ต.อ.ทรงสิทธิ์ สิงห์สถิตย์ ร้อยเวร สภ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เดินทางมาจุดเกิดเหตุและให้ จนท.อุทยานฯ ทำบันทึกส่งคดีทันที
ต่อมานายประเสริฐ ดีแก้ว ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง และนายอำนาจ คำสุข หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สล.5 (วังแดง) ได้เดินทางมาจับพิกัดภาพถ่ายทางดาวเทียมกองหมอนไม้จำนวน 2 ท่อน ซึ่งได้ถูกเลื่อยเปิดปีกเพื่อทำการแปรรูปแล้ว 1 ท่อน ซึ่งสามารถวัดความยาวได้ 4.10 เมตร กับ 4 เมตร ความกว้างหน้าไม้ 1.20 เมตร และ 0.95 เมตร
ขณะที่ ผอ.สบอ.11 ก็กำลังเดินทางลงพื้นที่ดูจุดเกิดเหตุเพื่อสั่งการว่าดำเนินการทำบันทึกคดีอย่างไรต่อไป เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดด้วยการแปรรูปไม้ยางซึ่งตรงกับไม้ของกลางที่ตีตราตรวจยึด ต.1767 (รูปรอยดวงตรา) เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 62 บริเวณป่าหลังบ้านวังแดง หมู่ 3 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก
