ยโสธร - ญาติหนุ่มโชคร้ายร้อง ผกก.สภ.คำเขื่อนแก้ว ถูกยัดข้อหาครอบครองยาบ้า แฉตำรวจค้นบ้านไม่พบยาบ้าเจอแต่เงินในบ้าน 7 หมื่นบาทและได้ให้เป็นสายล่อซื้อ สุดท้ายจับคนร้ายไม่ได้แว้งมาจับหนุ่มสายล่อซื้อแทน ขณะที่เงินเกือบแสนถูกยึดก็ล่องหน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 ต.ค.) ที่ สภ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร มีญาติของผู้ต้องหาคดียาเสพติดร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนพร้อมกับเข้าพบผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักเพื่อตรวจหายาเสพติดแต่ไม่พบ นอกจากพบเงินสดจำนวน 70,000 บาท แต่เมื่อไปถึงสถานีตำรวจผู้ต้องหากลับถูกแจ้งข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ยาบ้าของกลาง 2,000 เม็ด แต่เงินสด 70,000 บาทไม่ลงในบันทึกจับกุมแต่อย่างใด
นางประพันธ์ จันทร์ดี อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 5 บ้านพรพูลสุข ต.ดงเจริญ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร แม่ของ นายไพรวัลย์ จันทร์ดี อายุ 34 ปี ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมาข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครองพร้อมด้วยญาติพี่น้องและชาวบ้าน 15 คน ได้ร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชนและขอเข้าพบ พ.ต.อ. สงบ พิมพ์มลัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว
นางประพันธ์เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 25 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมามีตำรวจชุดจับกุมเดินทางไปที่บ้านพักของตนพร้อมกับแสดงบัตรเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.เพื่อขอเข้าตรวจค้นภายในบ้าน อ้างว่าได้รับรายงานนายไพรวัลย์ จันทร์ดี ลูกชายของตนมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาบ้า ตนจึงอนุญาตให้เข้าตรวจค้น ขณะนั้นนายไพรวัลย์กำลังนอนหลับอยู่ในห้องนอน แต่การตรวจค้นไม่พบยาบ้าแต่อย่างใด พบเพียงอุปกรณ์การเสพเท่านั้นและได้มีการค้นพบเงินสดจำนวน 70,000 บาทอยู่ในห้องนอนของนายไพรวัลย์ และนายไพรวัลย์แจ้งว่าเป็นเจ้าของเงิน
หลังจากนั้นตำรวจจึงควบคุมตัวนายไพรวัลย์ไปที่สถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว พร้อมกับเงินสดและอุปกรณ์การเสพ กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. วันเดียวกัน จึงได้รับแจ้งจากตำรวจชุดจับกุมว่าได้มีการจับกุมตัว นายไพรวัลย์ในข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย มียาบ้าทั้งหมด 2,000 เม็ด แต่เงินสดที่ตรวจยึดไปกลับไม่มีในบันทึกการจับกุม และไม่ทราบว่าเงิน 70,000 บาทหายไปไหน
“พวกฉันจึงอยากทราบข้อเท็จจริงและขอความเป็นธรรมให้แก่นายไพรวัลย์ด้วย เพราะตอนตรวจค้นบ้านไม่เจอยาบ้า ส่วนเงินสดหายไปไหน ไม่มีการลงบันทึกประจำวันเลย” นางประพันธ์กล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.สงบ พิมพ์มลัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว ได้ชี้แจงต่อญาติของผู้ต้องหาว่า คดีนี้อยู่ในขั้นจับกุมเบื้องต้น และตนก็ยังไม่ทราบรายละเอียดมากนักต้องรอให้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนอีกครั้ง และรับปากว่าจะได้สอบถามชุดจับกุมอีกครั้งเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
นางสาวหนูพร ยศบุญ น้าของนายไพรวัลย์ บอกว่า หลังทราบว่าหลานชายถูกจับกุมพร้อมยาบ้า 2,000 เม็ด จึงเดินทางไปสอบถามนายไพรวัลย์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นขณะที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขังผู้ต้องหาบนโรงพัก นายไพรวัลย์เล่าว่า หลังจากที่ตำรวจค้นบ้านและได้เงินไป 70,000 บาท จึงนำเงินของตนจำนวน 25,000 บาทให้ตนไปล่อซื้อยาบ้าให้ โดยให้ตนโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร จากนั้นจึงมีคนมาส่งยาบ้าให้ตามนัด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถที่จะจับกุมตัวคนมาส่งยาบ้าได้ จึงได้แต่ยาบ้าของกลาง 2,000 เม็ดที่คนร้ายทิ้งไว้ ตำรวจจึงบังคับให้ตนไปชี้ว่าเป็นยาบ้าของตน ส่วนเงินที่เหลือจำนวน 45,000 บาทเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมแจ้งว่าจะยึดเอาไปทั้งหมด
ด้านนายสุนทร ยศบุญ อายุ 48 ปี ญาติของนายไพรวัลย์อีกคนยืนยันว่าผลการตรวจค้นบ้านของนายไพรวัลย์ช่วงเช้าวันที่ 25 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมาตำรวจไม่พบยาเสพติดแต่อย่างใด นอกจากเงินสด 70,000 บาทอยู่ในห้องนอน ตัวนายไพรวัลย์เองก็กลัวถูกจับกุมจึงยื่นเงินที่พบจำนวน 50,000 บาทให้ตำรวจ
ตำรวจจึงบอกว่านายไพรวัลย์ติดสินบนเจ้าพนักงาน ถ้าไม่อยากถูกดำเนินคดีติดสินบนเจ้าพนักงานจะต้องไปล่อซื้อขยายผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายไพรวัลย์จึงจำเป็นต้องยอมไปเป็นตัวล่อซื้อยาบ้าตามที่ตำรวจยื่นเงื่อนไขมา กระทั่งถึงเวลานัดหมายได้มีนักค้ายาบ้านำยาบ้าไปทิ้งไว้ให้ริมถนนก่อนหลบหนีไป ตำรวจตามจับกุมไม่ได้ จึงบังคับคุมตัวนายไพรวัลย์ไปชี้ยาบ้าที่ทิ้งอยู่ริมถนนพร้อมกับถ่ายภาพเอาไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวส่งดำเนินคดีในข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย แต่เงินสด 70,000 บาท จนป่านนี้ไม่ทราบหายไปไหน