พิจิตร - เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสนธิกำลังกว่า 100 นาย ร่วมกับสำนักพุทธฯ-คณะสงฆ์ เข้าตรวจบัญชีทรัพย์สินวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน หลังยืดเยื้อมานานตั้งแต่ปี 57 โดยกรรมการมหาเถรสมาคมสั่งปลดอดีตเจ้าอาวาส และศาลมีคำพิพากษาซ้ำ แต่อดีตเจ้าอาวาสไม่ยอมออกจากวัด
วันนี้ (23 ก.ค.) พระครูพิสุทธิวรากร รักษาการเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน จ.พิจิตร ได้ปฏิบัติตามข้อไกล่เกลี่ยคู่กรณีของศาลจังหวัดพิจิตร นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดพิจิตร และ กอ.รมน.พิจิตร ร่วม 150 นาย ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร เข้าตรวจสอบเงินบริจาคภายในวัด
หลังจากมีการฟ้องร้องตามมติคณะสงฆ์เมื่อปี 2557 ว่าอดีตเจ้าอาวาสวัดฯ ประพฤติตัวไม่เหมาะสม และหย่อนยานไม่สามารถบริหารวัดได้ ทำให้พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม ถูกสั่งพ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาส และให้ส่งมอบบัญชีทรัพย์สินทุกรายการให้แก่ทางวัด และห้ามจำหน่ายวัตถุมงคล
แต่ที่ผ่านมาไม่ได้มีการปฏิบัติตาม และมีการฟ้องกลับพระชั้นผู้ใหญ่ จนมีข้อไกล่เกลี่ยให้อดีตเจ้าอาวาสวัดฯ คืนบัญชีทรัพย์สินวัด เพื่อให้รักษาการเจ้าอาวาส และไวยาวัจกร-กรรมการวัดชุดใหม่เข้ามาบริหาร แต่ก็มีกลุ่มชาวบ้านคัดค้านอยู่หลายครั้ง
การปฏิบัติการวันนี้ เจ้าหน้าที่ต้องตัดกุญแจประตูวิหารหลวงพ่อเงิน และตัดกุญแจตู้บริจาคภายในวัด เข้าตรวจนับเงิน-ตรวจสอบบัญชีทั้งหมดของวัด แต่ขณะเดียวกันกลุ่มชาวบ้านนับ 100 คน ข้ามารวมตัวกันที่วัด วิพากษ์วิจารณ์การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็สามารถเข้าไปดำเนินการตามเป้าหมายและสามารถตัดกุญแจเปิดตู้บริจาคทั้งหมด 19 ตู้ นำเงินมากองให้นักศึกษาจากวิทยาลัยชุมชนพิจิตรจำนวน 80 คน ร่วมนับก่อนนำเข้าบัญชีเงินฝากวัดฯ ซึ่งคาดว่าเงินทั้งหมดน่าจะมีเกือบล้านบาท
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้เข้าไปตรวจบริเวณศาลาการเปรียญอดีตเจ้าอาวาสที่เก็บวัตถุมงคล โดยเฉพาะหลวงพ่อเงิน หลายรุ่น โดยมีกลุ่มมวลชนคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลา
ด้านพระครูพิสุทธิวรากร รักษาการเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม เผยว่า ตั้งแต่ได้รับตำแหน่งมา 4ปี ไม่สามารถเข้ามาจัดระเบียบบริหารวัดหรือตรวจสอบบัญชี วัตถุมงคลภายในวัดได้เลย เนื่องจากมีกลุ่มมวลชนขัดขวางตลอดเวลา จึงต้องนำคำสั่งศาลมาดำเนินการในวันนี้เพื่อตรวจนับเงินบริจาค ตรวจสมุดบัญชีธนาคาร อื่นๆ ให้เป็นตามระเบียบกฎหมาย
อนึ่ง ปัญหาวัดหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน เรื้อรังมาตั้งแต่ พ.ศ. 2557 หลังอดีตข้าราชการครูซึ่งเป็นอดีตไวยาวัจกร 2 คน ร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษรถึง 25 หัวข้อ ให้มีการสอบสวน พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ ซึ่งในขณะนั้นเป็นเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ใช้เวลาสืบสวนสอบสวนยืดเยื้อมานานหลายปี ในที่สุดก็มีคำสั่งจากมติมหาเถรสมาคมสั่งปลดพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน และจากนั้นพระผู้ใหญ่ก็ได้แต่งตั้ง พระพิสุทธวรากร เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลาน จากวันนั้นถึงวันนี้กว่า 5 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ก็ไม่สามารถเข้าปฏิบัติภารกิจของสงฆ์ หรือ เข้าไปบริหารงานในวัดได้
ทั้งนี้ เนื่องจากมีกลุ่มชาวบ้านบางส่วนรวมกลุ่มคัดค้านไม่เห็นด้วยทุกครั้งที่ฝ่ายบ้านเมืองและฝ่ายรักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานจะเข้าวัด โดยอ้างว่าไม่ยอมรับคำสั่งแต่งตั้ง ไม่ยอมรับคำสั่งตัดสินของพระผู้ใหญ่และอีกหลายๆ เรื่อง
แม้เรื่องดังกล่าวมีคดีความฟ้องร้องจนถึงศาลฎีกา มีการพิพากษาคำสั่งปลดอดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน (คำพิพากษาฎีกาที่ 5437/2560 ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2560 อ่านคำพิพากษาฎีกาดังกล่าวนี้เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560) รวมถึงการใช้อำนาจของ พระพิสุทธวรากร รักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ในการปลดและแต่งตั้งไวยาวัจกรคนใหม่ เพื่อดูแลวัดวาอารามและทรัพย์สินเงินทองของวัดหลวงพ่อเงินบางคลานแล้วก็ตาม
