พิจิตร - ตามติดปฏิบัติการทวงคืน “วัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน” วานนี้ (23 ก.ค.) ตัดกุญแจวิหาร-ตู้บริจาคแล้ว 12 ตู้ วันนี้จ่อเปิดอีก 15 ตู้ พร้อมตรวจสอบคลังวัตถุมงคล-บัญชีเงินฝากวัด
วันนี้ (24 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนายวิศิษฐ์ เบญจพิทักษ์กุล นายอำเภอโพทะเล จ.พิจิตร, นายประพันธ์ ตั้นวัฒนา ผู้ตรวจราชการ สนง.พระพุทธศาสนาแห่งชาติ, นายกิจชัย บุญปู่ ทนายความ นำตำรวจ ทหาร ปกครอง เกือบ 100 นายเข้าปฏิบัติการทวงคืนวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ตั้งแต่วานนี้ (23 ก.ค.) หลังจากที่มีปัญหายืดเยื้อมานาน และเป็นคดีฟ้องร้องในศาลทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา ศาลปกครอง
เนื่องจากเมื่อปี พ.ศ. 2557 คณะสงฆ์ได้ออกคำสั่งปลดพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ให้พ้นจากตำแหน่งเพราะมีการร้องเรียนหลายประเด็น รวมถึงเรื่องการบริหารจัดการเงินของวัดไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ จากนั้นคณะสงฆ์หรือพระผู้ใหญ่ก็ได้มอบให้ พระราชสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เป็นผู้ดำเนินการแต่งตั้งให้ พระพิสุทธิวรากร รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลาน
แต่นับจากวันที่มีการแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสฯ จนถึงวันนี้เป็นระยะเวลาเกือบ 4 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลาน คือ พระพิสุทธิวรากร ไม่สามารถเข้าวัดเพื่อปฏิบัติกิจของสงฆ์ หรือปฏิบัติหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาสได้ เนื่องจากอดีตเจ้าอาวาสไม่ยอมส่งมอบอำนาจ หน้าที่ ทรัพย์สิน ให้รักษาการเจ้าอาวาสที่พระผู้ใหญ่แต่งตั้งให้รับตำแหน่ง โดยชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งยังมีกลุ่มบุคคลออกมาคัดค้าน ต่อต้านไม่ให้รักษาการเจ้าอาวาสฯ เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ได้ รวมถึงมีคดีฟ้องร้องขึ้นโรงพัก ขึ้นศาลยุติธรรม ในหลายคดี
กระทั่งล่าสุดมีรายงานว่า ในกระบวนพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ พ 765/2560 ศาลจังหวัดพิจิตร ลงวันที่ 17 ก.ค. 2561 ความแพ่งวัดหิรัญญารามกับพวก 2 คน ( รักษาการเจ้าอาวาสและกรรมการวัด) เป็นโจทก์ กับนายนัส หรือมนัส ด้วงแก้ว กับพวกรวม 8 คน ที่ตกเป็นจำเลย ศาลไกล่เกลี่ยคู่ความทั้งสองฝ่ายจนคดีสามารถตกลงกันได้ ว่าฝ่ายจำเลยตกลงยอมให้โดยไม่ขัดขวางการดำเนินการของโจทก์ในการที่จะเปิดตู้บริจาคตรวจนับวัตถุมงคลและกิจอื่นๆ ตามอำนาจหน้าที่ของรักษาการเจ้าอาวาสที่พึงกระทำได้ ในเวลา 10.00 น. 23 ก.ค. 2561 ทั้งสองฝ่ายจะปฏิบัติตามข้อตกลงศาลไกล่เกลี่ยคู่ความ
แต่เมื่อกำลัง 3 ฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยพระพิสุทธิวรากร รักษาการเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ไปถึงวัดตามนัดหมายเพื่อที่จะเข้าไปที่วิหารหลวงพ่อเงิน พบชาวบ้านนับ 100 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและคนชรา ทั้งในและนอกพื้นที่มาตะโกนโห่ร้อง ไม่ให้พระพิสุทธิวรากร รักษาการเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน เข้าไปในวิหารหลวงพ่อเงิน
นอกจากนี้ ประตูทางเข้าวิหารหลวงพ่อเงินก็ถูกใส่กุญแจหลายชั้น ถึงแม้คู่กรณีที่เป็นจำเลยจะมอบกุญแจให้แต่ก็ไม่สามารถไขกุญแจได้ ดังนั้นตัวแทนรักษาการเจ้าอาวาสฯ จึงใช้เครื่องตัดกุญแจ จนในที่สุดก็สามารถเข้าไปในวิหารหลวงพ่อเงินได้ จากนั้นก็ทำการตัดกุญแจบางดอกและเปิดตู้บริจาค ทยอยนำเงินมาเทกองให้นักศึกษาจากวิทยาลัยชุมชนพิจิตรเกือบ 100 คนช่วยกันคัดแยกชนิดของเงินและให้ช่วยกันนับ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าจำนวนตู้บริจาคภายในวัดหลวงพ่อเงินบางคลานน่าจะมีทั้งหมด 27 ตู้ ซึ่งวานนี้ (23 ก.ค.) นับเงินบริจาคเสร็จสิ้นไปแล้ว 12 ตู้ ได้เงิน 1.7 ล้านบาทเศษ ยังคงเหลืออีก 15 ตู้ ที่จะต้องเปิดตู้รับบริจาคเพื่อจะได้ตรวจนับและนำเงินดังกล่าวไปเข้าบัญชีเงินฝากของวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ตามข้อตกลงไกล่เกลี่ยคู่ความที่จะให้มีไวยาวัจกรชุดใหม่ และอดีตไวยาวัจกรชุดเก่าเข้ามามีส่วนร่วมดูแลบริหารการเงินของวัดอย่างโปร่งใสต่อไป
วันนี้ (24 ก.ค.) ก็จะมีปฏิบัติการทวงคืนวัดหลวงพ่อเงินบางคลานต่อเนื่อง โดยจะตรวจนับวัตถุมงคล รวมถึงตรวจสมุดบัญชีธนาคารอีกหลายเล่ม ที่ว่ากันว่ามีเงินของวัดอยู่ประมาณ 50-60 ล้านบาทด้วย