พิจิตร - วัดบางคลาน หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ยังวุ่นไม่เลิก..ล่าสุดอดีต ส.จ.คนดัง พร้อมชาวบ้าน รวมตัวขวางทางขึ้นวิหารหลวงพ่อเงิน ห้ามเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทรัพย์สินต่อวันที่สาม
วันนี้ (25 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระพิสุทธิวรากร ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรรมการวัด ไวยาวัจกร ยังคงมีแผนที่จะตรวจนับวัตถุมงคล บัญชีการเงินต่างๆ ของวัดต่อเนื่องเป็นวันที่สาม
แต่ปรากฏว่า ดร.กิตติ์ธเนศ โภคินบุญญารัศมิ์ หรือที่ชาวพิจิตรรู้จักกันในชื่อ เสี่ยฮวด-นายสุภรณ์ พรธาดาวิทย์ อดีต ส.จ.พิจิตร พร้อมชาวบ้านประมาณ 30 กว่าคน ได้มานั่งขวางที่บันไดทางขึ้นวิหารหลวงพ่อเงิน พร้อมกับตั้งโต๊ะแถลงการณ์คัดค้านไม่ให้เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา และพระครูพิสุทธิวรากร รักษาการเจ้าอาวาสรูปใหม่ รวมทั้งนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนพิจิตร (โพทะเล) ขึ้นไปบนวิหารเพื่อทำการตรวจนับเงินตู้บริจาคเพิ่มเติม หลังจากที่มีการตรวจเงินในตู้บริจาควัดมาตลอด 2 วันที่ผ่านมา
ดร.กิตติ์ธเนศ โภคินบุญญารัศมิ์ หรือเสี่ยฮวด อดีต ส.จ.พิจิตร กล่าวว่า ไม่อยากให้ได้ดำเนินการอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว เนื่องจากการจะตรวจนับเงินต้องมีความโปร่งใส แต่ที่ผ่านมาทราบมาว่ามีการนำเงินใส่ซอง ใส่ถุงดำออกจากวัด ซึ่งความจริงต้องนับให้ครบถ้วน และแถลงตัวเลขให้ชัดเจนก่อนที่จะนำเงินออกจากวัดไปเข้าธนาคาร อีกทั้งควรนำเงินเข้าธนาคารทั้งหมด ไม่ใช่นำเงินบริจาคไปซื้อของกิน หรือนำเงินใส่ซองเป็นเบี้ยเลี้ยงแก่เด็กๆ นักเรียนที่มาช่วยนับเงิน ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง
“เพราะเงินนั้นเป็นเงินของหลวงพ่อเงิน แต่เอาไปแจกนักเรียนที่มานับตังค์ เป็นการกระทำไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามขอให้ทุกอย่างทำให้ถูกต้อง” เสี่ยฮวด อดีต ส.จ.พิจิตร กล่าวย้ำ
สำหรับการตรวจนับเงินจากตู้บริจาคของวัดตลอด 2 วันที่ผ่านมาได้ยอดเงินทั้งสิ้น 4,924,680 บาท ไม่รวมเงินเหรียญที่ยังไม่ได้ตรวจนับอีกจำนวนมาก
ล่าสุดขณะนี้เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังประชุมหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่
สำหรับปัญหาวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน เป็นเหตุต่อเนื่องมายาวนานกว่า 4 ปี มีการฟ้องร้องกันทั้งในศาลแพ่ง ศาลอาญา ศาลปกครอง หลังอดีตไวยาวัจกรของวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ได้ทำหนังสือร้องเรียนชี้เบาะแสการประพฤติตนที่ไม่เหมาะสม และการบริหารเงินบริจาค-เงินที่ได้จากการจำหน่ายวัตถุมงคลของวัดฯ ว่าส่อไปในทางไม่โปร่งใส
จากนั้นคณะสงฆ์และพระผู้ใหญ่ได้ทำการสอบสวน และชี้มูลความผิดเมื่อปี 2557 ก่อนมีคำสั่งให้ปลดเจ้าอาวาสวัดบางคลาน (ในขณะนั้น) ออกจากตำแหน่ง พร้อมแต่งตั้งพระพิสุทธิวรากรดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลาน แต่ระยะที่ผ่านมาพระพิสุทธิวรากรไม่สามารถเข้าวัด หรือไปปฏิบัติกิจในฐานะรักษาการเจ้าอาวาสได้ เนื่องจากอดีตเจ้าอาวาสที่ถูกปลดยังไม่ส่งมอบหน้าที่และทรัพย์สิน และมีการฟ้องร้องเป็นคดีความกันหลายคดีดังกล่าว
กระทั่ง 17 ก.ค. 61 ทั้งฝ่ายโจทก์ และฝ่ายจำเลยได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยคู่ความที่ศาลจังหวัดพิจิตร และมีข้อตกลงว่าจะยินยอม ไม่คัดค้าน ไม่ขัดขวาง ในการที่พระพิสุทธิวรากรที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานเข้าตรวจสอบทรัพย์สินวัดในวันที่ 23 ก.ค. ซึ่งมีการระดมกำลังตำรวจ ทหาร ปกครอง เกือบ 100 คน เข้าดำเนินการตามข่าวที่นำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง